ฟีฟ่า ฟีฟ่า ฟีฟ่าๆๆๆๆๆ
ฟุตบอล : ตั้งแต่เมื่อวานซืนจนถึงเมื่อวานนี้ผมมีโอกาสได้ติดตามดูการออกรายการโทรทัศน์ของคุณวรวีร์ มะกูดี รักษาการณ์นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศ ทั้ง 2 รายการก็คือ "เจาะข่าวเด่น" ของ "เฮียสอ" สรยุทธ สุทัศนจินดา ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ต่อด้วยรายการ "ตอบโจทย์" ทางช่อง ไทยพีบีเอส
สาบานเลยครับว่านั่นคือวันที่ผมได้ยินคำว่า "ฟีฟ่า" กับคำว่า "ชัดเจน" บ่อยที่สุดในชีวิตแล้ว จนนับไม่ทันจริงๆ ว่า "บังยี" พูดไปทั้งหมดกี่ครั้ง
ฟีฟ่าเค้าวิจัยมาแล้วชัดเจนว่าเหมาะสม... ฟีฟ่าเขาสั่งมาชัดเจน ผมก็ว่าชัดเจนแล้วนะ...เราต้องปฏิบัติตามสิ่งที่ฟีฟ่ากำหนดครับ ...เพราะเราเป็นชาติสมาชิกของฟีฟ่านะครับชัดเจนอยู่แล้ว ฯลฯ คำพวกนี้มันเข้าหูผมเยอะซะจนเหมือนโดนสะกดจิตให้คล้อยตาม จนเมื่อคืนผมแทบนอนละเมอถึงฟีฟ่าเลยบ่องตง แอร่...
คุณวรวีร์บอกในรายการว่า ฟีฟ่า เป็นฝ่ายกำหนดจำนวนเสียง 72 เสียงให้กับประเทศไทยเพราะมองว่าเหมาะสมที่สุดแล้ว ซึ่งประเทศไทยไม่สามารถฝ่าฝืนได้ แถมต้องใช้ในการเลือกตั้งครั้งนี้ทันทีด้วย มิเช่นนั้นอาจมีมาตรการลงโทษจากฟีฟ่าตามมา
แม้ผมจะจำได้ชัดเจนว่า มร.เทียร์รี่ เลอ-เกอเนส ผู้อำนวยการฝ่ายดูแลและพัฒนาชาติสมาชิก พูดเอาไว้เองเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ที่ผ่านมา ว่าคุณวรวีร์ เป็นผู้เสนอตัวเลข 72 ให้ฟีฟ่า ไม่ใช่ฟีฟ่าที่เป็นฝ่ายแนะนำหรือบังคับให้เราต้องใช้ 72 เสียง แทนจำนวนสมาชิกดั้งเดิมที่มีอยู่ 184 เสียง
ซึ่งพอมีข้อกังขาแบบนี้ ก็แน่นอนว่าสโมสรต่างๆ ที่เสียเงินค่าบำรุงสมาคมอยู่ทุกปี ย่อมไม่มีทางยินยอมให้สมาคมมาตัดสิทธิ์ของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเมื่อยังไม่มีการลงมติรับรองโดยจำนวนสมาชิก 2 ใน 3 เกิดขึ้นในการประชุมใหญ่ของสมาคม
อีกทั้งเริ่มมีตัวละครใหม่ขึ้นมาที่คุณวรวีร์บอกว่า ฟีฟ่าห้ามจัดการเลือกตั้งกันเอง แต่ต้องมีคณะกรรมการจัดการเลือกตั้ง หรือ กลต. ควบคุมด้วย ซึ่งคุณวรวีร์ก็ได้แต่งตั้ง คุณเรวัต ฉ่ำเฉลิม อดีตอัยการสูงสุดขึ้นมาเป็นประธาน พร้อมด้วยรองประธานและกรรมการอีก 3 คน
ซึ่งผมยังงงว่า อ้าวแบบนี้ก็เท่ากับว่าคุณวรวีร์ก็ตั้งประธานคุมการเลือกตั้งที่ตัวเองลงสมัครเลือกตั้งเองไม่ใช่หรอเนี่ย
ประเด็นเรื่อง 72 เสียงที่กำลังวุ่นวาย มีปัญหาเพราะมีบางทีมที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของสมาคมกำลังจะมีสิทธิเลือกตั้งขึ้นมาแทนที่สมาชิกดั้งเดิม แต่แท้จริงแล้วปัญหาหลักๆ มันอยู่ที่ 30 เสียงในเอไอเอส ลีก ภูมิภาค เนื่องจากวิธีการอาจดูไม่โปร่งใสและไม่น่าไว้วางใจ
เนื่องจากจะมีการตั้งคณะกรรมการเลือกตัวแทนจาก 6 โซน มาโซนละ 5 ทีม รวมเป็น 30 ทีมที่มีสิทธิกุมชะตาชีวิตของวงการฟุตบอลไทยเอาไว้
ระหว่างการเลือก กับการคัดเลือก ความหมายมันต่างกันอย่างสิ้นเชิง การเลือกก็เหมือนการชี้นิ้วระบุเอาเองตามใจชอบโดยคณะกรรมการว่าจะให้ทีมใดได้สิทธิเลือกตั้งบ้าง ซึ่งวิธีแบบนี้ย่อมต้องถูกตั้งคำถามถึงความโปร่งใสแน่นอน แต่ละสโมสรมีความคิดเห็นไม่เหมือนกัน
และหาก 30 เสียงที่ได้สิทธิเป็นสโมสรที่ตกลงกันไว้แล้วว่าจะเลือกคุณวรวีร์ แบบนี้มันก็ไม่ใช่ประชาธิปไตยสิครับ แล้วอย่างนี้เราจะเลือกตั้งกันไปทำไมล่ะ
ยิ่งไปกว่านั้น จะรู้ได้อย่างไรว่าคณะกรรมการถูกเลือกมาอย่างชอบธรรม เพราะฝ่ายจัดการแข่งขันหรือประธานลีกภูมิภาค ก็เป็นคนสนิทของคุณวรวีร์ทั้งสิ้น ดังนั้นผมจึงมองว่าหากจะให้มีความโปร่งใสไร้ข้อครหา อยากขอเสนอทางเลือกให้ 2 วิธี วิธีแรกคือวิธีที่มีคนแนะนำมาเยอะแล้ว ว่าให้เลือกจากอันดับ 1-5 ของแต่ละโซนไปเลย ง่ายๆ แฟร์ๆ ดี
หรืออีกวิธีก็คือให้ทุกทีมในลีกภูมิภาคก็คือ 84 สโมสรมีสิทธิเลือกตั้งได้ทั้งหมด พอได้คะแนนออกมาเท่าไหร่ ก็เอาตัวเลขจำนวนโซน (6) ไปหารอีกที อย่างเช่นสมมติว่าคุณวรวีร์ ได้ 48 คะแนนส่วน คุณวิรัช ได้ 36 คะแนน พอหารจากจำนวนโซน ก็จะได้เป็น คุณวรวีร์ ได้48/6 = 8 คะแนน ส่วนคุณวิรัช ได้ 36/6 = 6 คะแนน แค่นี้ก็น่าจะบริสุทธิยุติธรรมเพียงพอ ไม่ต้องมาแย่งกันแล้วว่าทีมไหนจะได้เป็นตัวแทน
เมื่อนำคะแนนที่ได้ไปรวมกับอีก 42 เสียงที่เหลือจาก ไทยลีก(18),ลีกวัน(18) และแชมป์กับรองแชมป์ ถ้วย ข,ค,ง ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้ว ผมเชื่อว่าน่าจะเป็นทางออกที่ดีสำหรับทุกฝ่าย ไม่อย่างนั้นสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยก็ไม่ได้จัดเลือกตั้งเสียที แล้วฟุตบอลไทยจะเดินหน้าต่อไปได้อย่างไร
และในเมื่อคุณวรวีร์บอกว่า ประเทศไทยเป็นชาติสมาชิกของฟีฟ่า ซึ่งต้องปฏิบัติตามกฏระเบียบทุกอย่างที่ฟีฟ่ากำหนด ให้เป็นไปตามโลกสากล จะหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนมิได้ทุกกระเบียดนิ้ว
ถ้าตรรกะขององค์กรฟุตบอลระดับโลกเป็นเช่นนี้ ผมอยากถามอีกเรื่องคือ ทำไมสมาคมฟุตบอลฯถึงไม่ยอมจัดให้ทีมชาติไทยได้มีคิวอุ่นเครื่องตามปฏิทินของฟีฟ่า อย่างที่ประเทศอื่นๆ เขาทำกันเสียที หรือจะบอกว่า ทีเรื่องสำคัญต่อพัฒนาการของชาติสมาชิกแบบนี้
ฟีฟ่าดันไม่ได้เข้มงวดกันล่ะครับ....
เรื่องโดย "One Man Show"