เก็บตกหลังเกม 6 ประเด็นสำคัญ ประเดิมบอลโลก 2018
การแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2018 กลุ่มเอ นัดแรก
รัสเซีย 5-0 ซาอุดิอาระเบีย
สนาม ลุชนิกี สเตเดี้ยม
วันพฤหัสบดีที่ 14 มิถุนายน 2018
6. พิธีเปิดที่กระชับ แต่อลังการสุดๆ
เจ้าภาพ รัสเซีย ใช้เวลากับพิธีเปิด ฟุตบอลโลก 2018 ราว 20 นาทีเท่านั้น! นับว่าเป็นพิธีที่สั้น กระชับสุดๆ แต่ก็อลังการไปด้วยโชว์แปรอักษรที่ตระการตา
สำหรับคอบอลที่โตมากับ ร็อบบี้ วิลเลียมส์ อาจจะรู้สึกว่าเวลาหมุนไปไวสักหน่อย เมื่อต้องฟังเพลงที่คุ้นหูเมื่อเกือบสิบปีก่อนอีกครั้งในพิธีนี้
ขณะที่เสียงของ ไอดา การิฟูลลินา นักร้องหญิงคู่นั้นเพราะจับใจทีเดียว นอกจากนั้นโชว์อื่นยังถือว่าทำออกมาได้เป็นอย่างดี ไม่ยืดเยื้อจนน่ารำคาญหัวใจ
5. การบอกลาของ อลัน ซาโกเยฟ
เป็นภาพที่แฟนบอลทุกรายไม่มีใครอยากเห็นกับการที่นักเตะต้องมาได้รับบาดเจ็บจนชวดลงสนามในทัวร์นาเมนต์สำคัญอย่าง ฟุตบอลโลก และต้องบอกลากลับบ้านก่อนใครเพื่อน
ซาโกเยฟ คือนักเตะคนแรกของบอลโลกหนนี้ ที่ได้รับบาดเจ็บ โดยเขาวิ่งแล้วเกิดอาการกระตุกที่กล้ามเนื้อต้นขา ทั้งๆ ที่ไม่ได้ปะทะกับคู่ต่อสู้จนล้มลงไปนอนกับพื้น
สุดท้ายแล้ว เขาก็ไม่สามารถเล่นต่อไหวและถูกเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่นาทีที่ 24 ของเกม ซึ่งดูจากลักษณะการบาดเจ็บเช่นนี้ บอกเลยว่าเขาน่าจะปิดฉากการแข่งขันที่เฝ้ารอมานาน 4 ปีไปอย่างเจ็บช้ำทั้งร่างกายและจิตใจ
4. แนวรุกที่ไร้ประสิทธิภาพของ ซาอุดิอาระเบีย
แม้ ซาอุดิอาระเบีย จะเป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่บอลส่วนใหญ่ถูกผ่านไปมาในแดนของตัวเอง ไม่สามารถพาขึ้นไปกดดันแนวรับของ รัสเซีย ได้เลย
พวกเขามีโอกาสยิงในเกมนี้ 6 ครั้งและไม่มีครั้งใดตรงกรอบเลย ที่สำคัญคือนี่เป็นเกมที่ 4 ใน ฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายที่ทัพเหยี่ยวมรกต ยิงไม่ตรงกรอบเลย ไม่มีทีมใดที่ทำได้เยอะเท่าพวกเขา โห....สถิติย่ำแย่จริงๆ
3. อายุเป็นเพียงตัวเลขสำหรับ อิกนาเชวิช
ด้วยวัย 38 ปีกับอีก 355 วัน การลงสนามของ เซอร์เกย์ อิกนาเชวิช ทำให้เขากลายเป็นนักเตะอายุมากที่สุดที่ลงสนามให้กับ รัสเซีย ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก
นอกจากนี้เจ้าตัวยังเป็นนักเตะในตำแหน่งเอาท์ฟิลด์ที่อายุมากที่สุดที่ลงเล่นใน ฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายนับตั้งแต่ โรเจอร์ มิลลา ที่เล่นให้กับ แคเมอรูน ใน ฟุตบอลโลก 1994 ด้วยวัย 42 ปี
อย่างไรก็ตามใน เวิลด์คัพ 2018 ยังมี 2 นักเตะที่อายุมากกว่า อิกนาเชวิช ซึ่งได้แก่ เอสซาม เอล-ฮาดารี วัยแตะ 45 ปี นายด่านจาก อียิปต์ และ ราฟาเอล มาร์เกวซ ของ เม็กซิโก บนอายุ 39 ปี
2. ไอ้หนูมหาประลัย โกโลวิน
รัสเซีย ลงแข่งขันใน ฟุตบอลโลก ครั้งนี้ทั้งในฐานะเจ้าภาพและเป็นทีมที่มีแรงกิ้งต่ำที่สุดจากทั้งหมด 32 ทีม พวกเขาถูกมองว่าอาจถูกเขี่ยตกรอบแรกก่อนใครเพื่อนเมื่อมีเพื่อนร่วมกลุ่มอย่าง อุรกวัย และ อียิปต์
ทว่าสายตาที่มองพวกเขาอาจจะต้องเปลี่ยนไปเมื่อการสูญเสีย ซาโกเยฟ ตั้งแต่ต้นเกมแทบจะไม่เป็นปัญหาเมื่อ โกโลวิน ในวัย 22 ปีกลายเป็นคีย์แมนที่มีบทบาทโดดเด่นที่สุดในแนวรุกของทีม
ดาวเตะจาก ซีเอสเคเอ มอสโคว์ ทำได้ 2 แอสซิสต์ เป็นจุดเริ่มต้นที่มาของการได้ประตู 1 ลูก แถมฟรีคิกสุดสวยส่งท้ายในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ มันเข้าตาดีเหลือเกินไอ้หนูโกโลวิน
สถิติการเล่นของ โกโลวิน ในเกมนี้ :
สัมผัสบอล 66 ครั้ง
ผ่านบอลสำเร็จ 25 ครั้ง
ผ่านบอลให้เพื่อนได้สับไก 5 ครั้ง
เข้าปะทะสำเร็จ 4 ครั้ง
ตัดบอลได้ 3 ครั้ง
แอสซิสต์ 2 ครั้ง
ยิงได้ 1 ประตู
1. เกมแพลนที่คาดการณ์ได้ของ อุรุกวัย และ อียิปต์ ในกลุ่มเอ
อุรุกวัย จะได้เล่นในรอบแบ่งกลุ่มกับ อียิปต์ เป็นนัดแรก ตามด้วย ซาอุดิอาระเบีย และปิดท้ายกับเจ้าภาพ รัสเซีย ซึ่งจากการที่เราได้เห็นเกมรับของ เหยี่ยวมรกต
ในเกมนี้ทำให้พวกเขาสามารถพักสตาร์ตัวเก่งโดยเฉพาะ หลุยส์ ซัวเรซ กับ เอดินสัน คาวานี เพื่อรอดวลวัดกับ หมีขาว ในเกมสุดท้ายด้วยสภาพสมบูรณ์ที่สุดได้
ขณะที่ทัพ มัมมี จะได้ดวลกับ ซาอุดิอาระเบีย เป็นเกมสุดท้ายในรอบแบ่งกลุ่ม และเป็นที่คาดการณ์ว่าสภาพร่างกายของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จะพร้อมลงสนามมากที่สุดในเกมนี้
ซึ่งไม่มีอะไรจะเหมาะเจาะไปกว่าการได้ลงล่าตาข่ายทีมที่น่าจะตกรอบไปแล้วเมื่อถึงตอนนั้นอีกทั้งยังเป็นการเรียกจังหวะเดิมๆ ของ ซาลาห์ ให้กลับมาอีกด้วย