5 เรื่องต้องรู้ เมื่อ เบลเยียม เล่นเหมือนซ้อมแต่ฟอร์มยังสมราคาทีมเต็งแชมป์!!!
เกมที่ ฟิชท์ สเตเดี้ยม จบลงไปด้วยผลงานอันยอดเยี่มของ เบลเยียม ที่อัดคู่แข่งไปถึง 3 ประตู และไม่เสียประตูเลย พร้อมกับกระโดดขึ้นไปอยู่จ่าฝูงชั่วคราวในกลุ่มจี พร้มตุนความได้เปรียบเหนือ ตูนิเซีย และ อังกฤษ ในเกมถัด ๆ ไป
ไปดูกันว่าในเกมเปิดกลุ่มจีนี้ มีอะไรทีคุณต้องรู้บาง !
5. เบลเยียม เล่นเหมือนไม่อยากเล่น
ทีมที่มีแนวรุกอันตรายที่สุดทีมหนึ่งของโลกและรายการนี้กลับยิงคู่แข่งอย่าง ปานามา ได้เพียง 3 ลูกเท่านั้น
คนที่มองโลกในแง่ดีอาจจะบอกว่าก็ยิงได้ตั้ง 3 ลูกแล้ว จะเอาอะไรอีก แต่การเล่นแบบเหมือนมาซ้อมแท็คติคนั่นต่างหากที่ทำให้กองเชียร์หงุดหงิด เอเด็น อาซาร์ เหมือนฝึกหาช่องวิ่งช่องจ่าย เดอ บรอยน์ เหมือนลองฝึกแท็คติคและลูกสูตรใหม่ ๆ หรือ วิทเซิล ที่เริ่มจะกลายเป็น เออซิล 2 ไปแล้ว
เข้าใจได้ว่าการเจอกับ ปานามา เป็นเหมือนขนมขบเคี้ยว แต่จะมีประโยชน์อะไรถ้าคุณไม่ลงเล่นด้วยความกระตือรือร้น ไม่อย่างนั้นก็น่าจะให้โอกาสพวกตัวสำรองมากกว่า
4. ด้านข้างยังต้องแก้ไข
แม้แนวรุกจะอันตรายสุด ๆ ทั้ง ๆ ที่ไม่ตั้งใจเล่น แต่ด้านข้างที่ตั้งใจเล่นเต็มที่กลับดูไม่น่าเชื่อถือเท่าไหร่
การใช้ระบบ 3-4-3 ที่มีวิงแบ็คด้านข้างหมายความว่าพวกเขาต้องพร้อมลงไปเป็นฟูลแบ็คด้วย แต่ การ์ราสโก้ กับมีปัญหาตรงนี้เต็ม ๆ เขาเป็นปีกตัวรุกโดยธรรมชาติ เมื่อต้องมาเล่นเกมรับก็มักจะลอยสูงไม่สามารถลงไปช่วยได้ทัน เล่นเอา แฟร์ตองเก้น เจองานหนักไปช่วงหนึ่งเลยทีเดียว
ส่วนฝั่ง เมอนิเยร์ แม้เขาจะเป็นฟูลแบ็คในยามปกติ แต่การเสียใบเหลืองแบบง่าย ๆ ช่วงต้นเกมทำให้น่ากลัวว่าเขาอาจโดนแบนในเกมสำคัญเอาง่าย ๆ และหากคู่ต่อสู้ในวันนี้เป็นอังกฤษ เขาอาจโดนใบเหลืองที่ 2 ไม่ก็ถูกเปลี่ยนตัวออกไปแล้ว
หาก เบลเยียม หวังที่จะต่อกรกลับทีมระดับท็อปจริง ๆ อย่าง บราซิล หรือ สเปน วิงแบ็คด้านข้างของพวกเขาต้องเล่นเกมให้เป็นมากกว่านี้ เพราะนักเตะอย่าง เนย์มาร์ หรือ อิสโก้ ไม่ยิงติดเซฟ กูร์กตัวส์ แบบ บาร์เซนาส แน่ ๆ
3. กองเชียร์ ปานามา ชอบใจที่เห็นทีมของพวกเขากล้าบวก
เป็นปกติที่ทีมรองจะต้องเล่นเกมรับและเน้นเข้าหนักเพื่อหยุดตัวอันตรายของทีมตรงข้าม แต่การที่ ปานามา เพิ่งเข้ารอบ ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย มาได้เป็นครั้งแรก และมีโอกาสสูงที่พวกเขาจะต้องตกรอบตั้งแต่ไก่โห่ มันจึงช่วยไม่ได้ที่แฟนบอลของพวกเขาจะเต็มที่กับทุกจังหวะที่นักเตะของพวกเขาหยุดเกมของ เบลเยียม ได้ แม้ว่ามันออกจะโหดหน่อยก็ตาม
ทุก ๆ ครั้งที่นักเตะ ปานามา เข้าสกัด เสียงกองเชียร์ ปานามา จะดังกระหึ่มเสมอ และยิ่งกระหึ่มไปอีกหากการเข้าครั้งนั้นแล้วได้ใบเหลืองไปด้วย ครั้งแรกที่เกิดแบบนี้ก็คือตอนที่ เอริค เดวิส โดนใบเหลืองเป็นคนแรกของทีม และอีก 4 ครั้งที่เหลือก็มีเสียงเฮมาจากทางฝั่ง ปานามา ตลอด
ดูเหมือนว่าถ้าเข้ารอบไม่ได้ อย่างน้อยมาครั้งแรกแล้วสร้างชื่อให้ทีมใหญ่ ๆ กลัวได้ก็น่าจะโอเคแล้ว
2. ไม่มี ก็อมปานี ก็ไม่เป็นไร
การขาด แว็งซ็องต์ ก็อมปานี กัปตันและหัวใจในเกมรับของทีม ดูจะเป็นเรื่องร้ายแรงสำหรับ เบลเยียม แต่ผลงานของ โบยาต้า ในเกมนี้ช่วยเรียกความมั่นใจให้ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ ที่จะยังใช้ระบบ 3-4-3 ต่อไป โดยไม่ต้องปรับระบบเป็นปราการหลังตัวกลาง 2 คน
กองหลังจาก เซลติก วัย 27 ปี ลงเล่นเต็ม 90 นาที และทำได้ดีในการหยุด บลาส เปเรซ กองหน้าตัวเก๋าของ ปานามา และมีโอกาสสูงที่จะได้โอกาสลงต่อเนื่องในเกมกับ ตูนิเซีย ด้วย
1.โรมัน ตอร์เรส คือหัวใจของ ปานามา
อาจจะออกสตาร์ทฟุตบอลโลกครั้งแรกไม่ค่อยดีด้วยการถวายพานให้ อาซาร์ แต่ ตอร์เรส พิสูจน์แล้วว่าเขาคือคนที่ ปานามา จะขาดไม่ได้เลย ไม่ว่าในฟุตบอลโลกหรือรายการไหนก็ตาม
ตอร์เรส คุม ลูกากู ได้อยู่หมัดจนศูนย์หน้า เบลเยียม หายไปเลยในช่วง 1 ชั่วโมงแรก ด้วยความใหญ่และความสูงที่พอฟัดพอเหวี่ยง มันจึงเป็นคู่ที่สมน้ำสมเนื้อสุด ๆ ในการดวลกลางอากาศ จนกระทั่ง ลูกากู เริ่มย้ายฝั่งหนีเขาไปนั่นแหละ
น่าสนใจว่าในเกมหน้ากับ อังกฤษ เขาจะสามารถจัดการ แฮร์รี เคน ให้อยู่หมัดได้หรือไม่ เพราะหากทำได้ ซัก 50 นาทีก็ยังดี ปานามา ถือว่าทำสำเร็จระดับหนึ่งแล้วในการสร้างความหวาดกลัวให้แก่ทีมยักษ์ใหญ่ในฟุตบอลโลกครั้งนี้