อีกด้านของน้องเมย์ฟีเวอร์

อีกด้านของน้องเมย์ฟีเวอร์

อีกด้านของน้องเมย์ฟีเวอร์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจากที่น้องเมย์ได้แชมป์แบดมินตันชิงแชมป์โลก 2013 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาซึ่งถือว่าเป็นคนไทยคนแรกที่ได้แชมป์รายการนี้ และยังเป็นการสร้างประวัติศาสตร์แชมปโลกที่อายุน้อยที่สุดด้วยวัยเพียง 18 ปีเท่านั้น

ถ้าเปรียบแชมป์รายการนี้กับวงการฟุตบอลก็เหมือนไทยเราได้แชมป์ฟุตบอลโลกประมาณนั้น

เรื่องของ "น้องเมย์" หรือชื่อจริงคือ รัชนก อินทนนท์ ที่รู้จักกันดีอยู่แล้วนั้นต้องบอกว่ากว่าจะก้าวขึ้นมาถึงจุดนี้

ต้องฟันฝ่าอุปสรรคความยากลำบากไม่น้อยเลยทีเดียวเพราะชีวิตวัยเด็กตั้งแต่เริ่มเล่นกีฬาลูกขนไก่ตั้งแต่อายุ 5-6 ขวบ จนถึงปัจจุบันไม่มีวันไหนที่น้องเมย์ไม่ได้สัมผัสไม้แบดกับลูกแบดเลย

ถ้าไปดูตารางการฝึกซ้อมโดยปกติไม่ตำกว่า 3 ชั่วโมงต่อวัน จนถึง 7 ชั่วโมงเลยทีเดียว เรียกว่าถ้าไม่ไปเรียนหรือนอนพักผ่อน กินข้าวก็ต้องหายใจเข้าเป็นไม้แบดหายใจออกเป็นลูกแบด



เรื่องนี้หลายคนอาจจะมองว่ามาจากพรสวรรค์ของตัวเธอ แต่ถ้าย้อนกลับไปดูประวัติของน้องเมย์ที่ผ่านมาเป็นเรื่องของการฝึกฝนฝึกซ้อมซะเป็นส่วนใหญ่

เริ่มจากต้นทุนของชีวิตก็ไม่ได้เกิดมาเป็นลูกคนรวย หรือลูกคนมีเงินเหมือนเด็กหลายๆ คนในกรุงเทพฯ เพราะจริงๆ แล้วน้องเมย์เป็นลูกคนงานของโรงงานทำขนมบ้านทองหยอด

ที่คุณกมลา ทองกร หรือที่เรียกกันว่า "แม่ปุก" นั้นเป็นเจ้าของอยู่ แต่ด้วยความเอ็นดูของแม่ปุกที่มาเจอกับความเคารพนอบน้อมเป็นเด็กดีของน้องเมย์ จึงให้การสนับสนุนมาเรื่อยๆ



ณ ตอนนั้นไม่มีใครรู้ว่าน้องเมย์จะมาเป็นแชมป์โลก เหมือนปัจจุบันและคงไม่มีใครการันตีกับเด็กตัวเล็กอายุไม่ถึง 10 ขวบด้วยซ้ำ ว่าจะสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่มอบให้กับชาวไทยได้

ดังนั้นการที่น้องเมย์มาถึงจุดนี้น้องจากตัวของน้องเมย์เองคงต้องขอบคุณทางด้านแม่ปุก ที่คอยช่วยเหลือดูแลมาตลอดทั้งๆ ที่เป็นแค่ลูกคนงานตัวเล็กคนนึง

ส่วนเรื่องของพัฒนาการในการเล่นแบดของน้องเมย์ ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ จากการดูแลของโค้ชชาวจีน "เซี่ย จือ หัว" มาโดยตลอด

ถ้าไปดูรายละเอียดลึกๆ โค้ชคนนี้ก็คืออีกหนึ่งเบื้องหลังความสำเร็จของสาวไทยคนนี้ เนื่องจากเป็นคนขอแม่ปุกสอนแบดมินตันให้คนงานบ้านทองหยอดแบบไม่คิดตังค์ เพราะกลัวถ้าปล่อยไปวิ่งเล่นจะเป้นอันตราย ในโรงงานทำขนมบ้านทองหยอดได้



ถึงวันนี้น้องเมย์คงไม่มีอะไรให้คนไทยต้องสงสัยแล้วกับว่าที่นักแบดมินตันมืออันดับ 2 ของโลก ที่จะประกาศกันในวันนี้จากสหพันธ์แบดมินตันนานาชาติหรือบีดับเบิลยูเอฟ แชมป์โลกก็ได้มาแล้ว

ส่วนเรื่องเหรียญโอลิมปิกในอีก 3 ปีข้างหน้า หรือการได้แชมป์ออลอิงแลนด์ ที่ประเทศอังกฤษ คงเป็นเรื่องที่น้องเมย์ต้องทำตามหัวใจตัวเองมากกว่า เพราะแค่นี้สำหรับผมก็ต้องยอมรับว่าน้องเมย์คือนักแบดมินตันไทยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตั้งแต่เคยมีมา

เรื่องของ "ชื่อเสียง เงินทอง เกียรติยศ การสรรเสริญ" ทุกอย่างก็ได้มากครบแล้ว และเรื่องของการตอบแทนบุญคุณบิดามารดา ผู้มีพระคุณทั้งหลายก็คงไม่มีปัญหาอะไร เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่น้องเมย์ได้รับ คงทำให้พวกเค้ามีความสุข ภูมิใจ อิ่มกับสิ่งดีๆ ที่ได้ จากสาวน้อยมหัศจรรย์คนนี้



นับจากนี้คงเป็นสิ่งที่ต้องเมย์ต้องเลือกเดินว่าจะทำยังไงกับชีวิตของตัวเองในวัยที่กำลังจะเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว ชีวิตที่เพิ่งเข้าสู่วัยมหาวิทยาลัย สิ่งยั่วยุต่างๆ ที่จะผ่านเข้ามาในชีวิตซึ่งน้องเมย์ต้องระมัดระวังตัวเองมากกว่าเดิม

ต่อจากนี้ นางสาวรัชนก อินทนนท์ หรือสาวน้อยมหัศจรรย์ในใจคนไทย ที่กำลังอยู่บนจุดสูงสุดของชีวิตตอนนี้ต้องเจอกับจุดเปลี่ยนที่จะสามารถเปลี่ยนชีวิตของตัวเธอได้เลยครับ


เรื่องโดย : หมอเมา ฮอตสกอร์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook