ตัวอย่างจากความสำเร็จ!!
ปล่อยให้คนไทย หลงใหลได้ปลื้ม กับการคว้า "แชมป์โลก" แบดมินตัน ของ "น้องเมย์" รัชนก อินทนนท์ มาได้ร่วมครึ่งเดือน ผมเห็นว่า ถึงเวลา "เหมาะสม" ที่จะขอแสดงความคิดเห็น (ความจริงจะบอก ขอร่วมขบวนแห่) ในการชื่นชมกับผลงานของ สาวเลือดอีสาน "น้องเมย์ ณ ร้อยเอ็ด" กับเขาบ้าง
โบราณว่าไว้ "ตีเหล็ก ต้องตีตอนยังร้อน" บังเอิญว่า ผมไม่ใช่ "คนโบราณ" ซะด้วย ก็เลยเพิ่งจะมาเขียนถึง "น้องเมย์" เอาวันนี้ ก็คงไม่สายเกินไปหรอกนะครับ เพราะนักตบลูกขนไก่ขวัญใจชาวไทย ช่วงนี้ ก็ยังอยู่ในช่วงเดินสายขอบคุณแฟนๆ และผู้สนับสนุนอยู่
ความสำเร็จของ "น้องเมย์" ไม่ใช่ "ฟ้าบันดาล" , ไม่ใช่ "โชคช่วย" และก็ไม่ใช่การ "จับสลาก" มาแต่อย่างใด
แต่! เธอมาถึงทุกวันนี้ได้ ด้วย "พรสวรรค์", "พรแสวง" บวกกับความ "ตั้งใจ" และ "อดทน" ทั้งของตัวน้องเมย์ และ ทีมงาน โดยแท้
"น้องเมย์" ไม่มีทางจะมาถึงวันนี้ได้เลย หากเธอ ไม่มี "ทักษะ" , ฝีมือ" บวกกับความขยันหมั่นฝึกซ้อมแบบไม่ย่อท้อ มาตั้งแต่วัยเด็ก
"น้องเมย์" จะไม่มีทางมาถึงวันนี้ได้เลย หากไม่ได้การสนับสนุนทั้งจากต้นสังกัด (สโมสรบ้านทองหยอด), จากสมาคมแบดมินตันฯ และจากผู้สนับสนุนทั้งภาครัฐ และเอกชน ทำให้เธอสามารถบินไปแข่งขันเก็บเกี่ยวประสบการณ์ และความสำเร็จ ในรายการระดับโลกอย่างต่อเนื่อง
นี่คืออีก 1 บทพิสูจน์ว่า นักกีฬาไทย สามารถที่จะสู้กับนักกีฬาชาติอื่นๆ ได้ แม้ว่าเราจะเป็นรองในเรื่องของ "สรีระ" ขอเพียงแค่ตัวนักกีฬามีความอดทน และขอเพียงสมาคม รวมทั้งผู้เกี่ยวข้อง มีความ "ตั้งใจ" และ "จริงใจ" ที่จะพัฒนาศักยภาพ ของนักกีฬาเรามาตามขั้นตอน ตั้งแต่ระดับเด็กและเยาวชน
"น้องเมย์" กว่าจะมาถึงระดับนี้ได้ เธอ เป็นแชมป์โลกมาหมดแล้ว ตั้งแต่ระดับยุวชน และเยาวชน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ เธอจะก้าวขึ้นมาเป็นแชมป์โลกในที่สุด
ทีมวอลเลย์บอลสาวไทย ก็เป็นอีก "1 ตัวอย่าง" ที่ชัดเจน กับการให้ความสำคัญในเรื่องของพัฒนาการนักกีฬา ต้องเกิดมาตั้งแต่ระดับ "รากหญ้า"
ย้อนหลังไปเมื่อ เอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 8 เมื่อปี 2521 ผมจำได้เลยว่า ทีมวอลเลย์บอลสาวไทย เรา ลงแข่งขันกับชาติมหาอำนาจของเอเชีย อย่างพวก จีน, ญี่ปุ่น และ เกาหลี (ทั้งเหนือและใต้) เราแพ้เขาแบบขาดลอย 3 เซตรวด และในแต่ละเซต เราไม่เคยได้แต้มถึงหลัก 5 (บางทีก็เกมศูนย์) เลยด้วยซ้ำไป
ทว่า! ด้วยความตั้งใจจริงของผู้บริหาร สมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย ตั้งแต่ยุคของท่านพิศาล มูลศาสตร์สาธร (ผู้ล่วงลับ) มาจนกระทั่งถึงยุคปัจจุบัน (คุณสมพร ใช้บางยาง) ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนานักกีฬาตั้งแต่ระดับ เด็ก, เยาวชน ที่มีการจัดจ้างผู้ฝึกสอนทั้งคนไทย และชาวต่างชาติ ที่มีความรู้จริง เข้ามาช่วยปูพื้นฐานให้กับนักกีฬา มีการจัดทัวร์นาเมนต์ รองรับให้นักกีฬาได้แสดงฝีมืออย่างต่อเนื่อง และเป็นขั้นตอน
สุดท้าย เราก็เดินมาถึงยุคที่วอลเลย์บอลสาวไทย ขึ้นมาอยู่ในระดับ "แถวหน้า" ของเอเชีย และเดินหน้าไปสู่ "ระดับโลก" จนการลงสนามแข่งขันของทีมสาวไทย จะมีแฟนๆ มาชมและเชียร์กันแน่นขนัด
เห็นได้ชัด จากศึกวอลเลย์บอล เวิลด์กรังด์ปรีซ์ ที่อินดอร์สเตเดี้ยม ซึ่งสาวไทยเรา ได้ลงประฝีมือกับทีมระดับโลก แม้ว่า เราจะแพ้ทั้ง เยอรมนี และ รัสเซีย แต่ก็เป็นความพ่ายแพ้ ที่คนดู ทั้งที่มีแน่นขนัดในอินดอร์ สเตเดี้ยม และที่ชมผ่านทางการถ่ายทอดสด
ต้องปรบมือให้กับฝีไม้ลายมือ และหัวจิตหัวใจของสาวไทย ที่ต่อกรกับทีมระดับโลกได้แบบ "ประทับใจ"
กรณีของ "น้องเมย์" และของ ทีมวอลเลย์บอลสาวไทย สิ่งหนึ่งซึ่ง "พิสูจน์" ให้เห็นชัดเจน ก็คือ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยากเย็นเพียงใด หากมีความตั้งใจ และจริงใจ ทั้งจากตัวนักกีฬา, สมาคมกีฬา และทุกๆ ส่วนที่เกี่ยวข้อง
นักกีฬาไทยเรา สู้เขาได้ทั้งโลก
ที่สำคัญที่สุดก็คือ
นี่ย่อมแสดงให้เห็นว่า ณ บัดนาว ชาวไทยเรา "ภูมิใจ" อย่างยิ่ง กับความสำเร็จ ของทีมกีฬาไทย นักกีฬาไทย พร้อมที่จะ "เชียร์" และเป็น "กำลังใจ" ให้กับนักกีฬา และทีมกีฬาไทย ไม่ว่าจะเป็นกีฬาประเภทใดก็ตาม
ขอตบท้ายด้วยสิ่งที่ผมเห็น และรู้สึกได้ จากการชมถ่ายทอดสดวอลเลย์บอล "เวิลด์ กรังด์ปรีซ์" เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ผม "ขนลุก" เมื่อได้เห็นภาพกองเชียร์ เข้าไปชมกันแบบแน่นขนัด ยัดทะนาน ในอินดอร์ สเตเดี้ยม (เพราะนานมาก ที่จะได้เห็น "ศรัทธา" ของแฟนๆ ต่อทีมกีฬาที่มากมายขนาดนี้)
ผม "ขนลุก" เมื่อได้เห็นกองเชียร์ชาวไทย ปรบมือ กระทืบเท้า เป่าปาก เป่าแตร ตีฉาบ ตีฉิ่ง (ไม่แน่ใจว่ามีหรือเปล่า) ตีกลอง และ อุปกรณ์การเชียร์อื่นๆ เป็นกำลังใจให้กับนักกีฬาสาวของเรา
มันช่างต่างจาก ผลงานของบางสมาคมกีฬา ที่ตอนนี้ มีแต่จะถอยหลังลงคลอง ไม่ต้องมองไปถึงระดับโลก หรือระดับเอเชีย หรอก เพราะแค่ระดับ "อาเซียน" เราก็แทบจะไม่มีที่ยืนแล้ว
การจะได้เห็น ทีมกีฬาของบางสมาคม ได้ลงเล่นในทัวร์นาเมนต์ระดับโลก ในบ้านเรา เหมือนอย่างทีมตบลูกยางสาว คงต้องรอ "ชาติหน้า" ด้วยการบริหารที่มีแต่จะ "ถอยหลังลงคลอง" จนผลงานของทีมกีฬาในสังกัด ต้องพลอยตกต่ำ จะมีแมตช์อย่างเป็นทางการ ก็ยังหาแสนจะยาก และเวลามีแข่งขันจริงๆ ด้วย "ศรัทธา" ของแฟนๆ ที่มี "น้อยลง" เรื่อยๆ จนแทบไม่มีแล้ว ก็มักจะเห็น "ที่นั่ง" มากกว่าเห็น "คนดู" และ "กองเชียร์"
หรือหากจะมีการจัดแมตช์ให้ทีมระดับโลก มาแข่งขันด้วย จนคนดูล้นทะลัก แน่นสนาม
ทว่า! เสียงคนดู และกองเชียร์ ส่วนใหญ่ ก็ดันไปเชียร์ "ทีมคู่แข่ง" ซะงั้น
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าท่าน ...คิดอะไรได้หรือเปล่า ????
เรื่องโดย : ฮอตสกอร์