ปรับไปตามสภาพ...???
ฟุตบอล : การบุกไปเยือนเคียฟของทีมชาติอังกฤษ น่าเสียดายอยู่บ้างที่นักเตะหลายคนอาจจะประสบการณ์ยังไม่มาก หรือสภาพความฟิตที่ไม่เต็มร้อย ปัญหาเรื่องกองหน้าไม่ต้องไปคิดมาก รอย ฮอดจ์สัน รู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้ว
อยู่ที่ว่าจะจัดทีมอย่างไรให้พร้อมและเล่นได้ตามแผนมากที่สุด อีกเรื่องหนึ่งที่คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องที่ต้องคำนึงถึงเช่นกัน นั่นก็คือ ทีมชาติอังกฤษมีพวกเวิลด์คลาสน้อยมากๆ
เกมที่เครียดๆแบบนี้ พวกเวิลด์คลาสทั้งหลายจะช่วยให้สถานการณ์มันผ่อนคลายลงไปได้ ไม่ว่าจะเป็นการอ่านเกม การกระตุ้นฟอร์มของเพื่อนร่วมทีมให้อยู่ในมาตรฐานที่ควรจะเป็นเอาไว้ รวมไปถึงการสร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้น
เวย์น รูนี่ย์ หัวบาก,แดนนี่ เวลเบ็ค ติดโทษแบน,แดเนียล สเตอร์ริดจ์ บาดเจ็บ อย่าไปกังวล คิดไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น กระตุ้นพวกที่เหลืออยู่เตรียมสภาพจิตใจให้พร้อมดีกว่า
นั่นเพราะว่าบรรยากาศในสนามจะสร้างความกดดัน สร้างความหวาดหวั่นให้เกิดขึ้นในใจได้ง่ายมากๆ นาทีนี้แฟนบอลยูเครนเต็มเหนี่ยวแน่นอน
โจ ฮาร์ท จะได้รับการทดสอบเพียบอย่างไม่ต้องสงสัย ในขณะที่แนวรับทุกคนฟอร์มต้องอยู่ในระดับท็อปของตัวเอง แค่พื้นๆไม่น่าจะเพียงพอกับเกมแบบนี้
คู่เซ็นเตอร์แบ็กของสิงโตคำราม อาจจะมีความสด แต่ถ้าจะพูดถึงคลาสแล้วยังไม่ถึงขนาดที่จะไว้ใจได้ แต่ถ้าฟอร์มถึงขั้นท็อปตามมาตรฐานตัวเองคงพอได้อยู่
ตัวที่สามารถช่วยพื้นที่ตรงนี้ได้มากก็คือ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ซึ่งยืนอยู่หน้าแนวรับ ทว่าคนเดียวอาจจะไม่เพียงพอในเกมนี้ อยู่ที่ว่า รอย ฮอดจ์สัน จะใช้ระบบ 4-3-3 เหมือนเดิมหรือเปล่า หรืออาจจะต้องเปลี่ยนมาเป็น 4-2-3-1
นั่นหมายถึงต้องมีคนช่วย สตีเว่น เจอร์ราร์ด อยู่หน้าแนวรับอีกคน อาจจะเป็น แฟรงค์ แลมพาร์ด ก็ได้ โดยให้ แจ็ค วิลเชียร์ เป็นตัวเชื่อมทั้งหมดเหมือนที่ผ่านมา
อย่างที่บอกครับ เล่นที่เคียฟ เจอร์ราร์ด คนเดียว อาจจะไม่เพียงพอ งานนี้มีโอกาสที่ แลมพาร์ด จะต้องยืนต่ำอยู่เคียงข้าง
ตัวเกมรุกในแดนหน้าที่หลายคนมองว่า กำลังเป็นปัญหาให้ รอย ฮอดจ์สัน ต้องปวดหัว จริงแล้วไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเท่าไหร่
ในตำแหน่งของ แดนนี่ เวลเบ็ค ถ้ากุนซือทีมชาติอังกฤษเลือกที่จะใช้วิธีที่มีความปลอดภัยมากกว่า ก็คงได้เห็น เจมส์ มิลเนอร์ ลงมาวิ่งในพื้นที่ตรงนั้น
มิลเนอร์ เป็นตัวที่สามารถถอยลงมาช่วยเกมรับได้เป็นอย่างดีกว่าตัวเลือกอื่น เป็นไปได้มากที่ รอย ฮอดจ์สัน จะเลือกมิดฟิลด์จากทีมเรือใบลงมาใช้งานในเกมนี้
แต่ถ้ามองถึงประสิทธิภาพในเกมโต้กลับมายิ่งขึ้น อาจจะต้องมองไปที่ แอชลีย์ ยัง อย่างไรก็ตาม ฟอร์มในการออกสตาร์ตพรีเมียร์ ลีก ฤดูกาลนี้ของ แอชลีย์ ยัง กับผีแดงยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
ที่น่าจับตามองมากหน่อย เห็นจะเป็นวิธีการเล่นระหว่าง พอล แลมเบิร์ต กับ ธีโอ วัลค็อตต์ ให้คนใดคนหนึ่งประจำการในตำแหน่งเดียวมีโอกาสที่จะเสียของ
พอล แลมเบิร์ต อยู่พื้นที่ตรงกลาด้านหน้าค้ำกับเซ็นเตอร์แบ็กของยูเครน ทีมชาติอังกฤษจะได้ประโยชน์จากความเร็วของ ธีโอ วัลค็อตต์ ในพื้นที่ริมเส้น โต้เป็นดอกๆไปคงได้น้ำได้เนื้อ
ทว่าวิธีการแบบนี้อาจจะมีปัญหาตรงที่ เซ็นเตอร์แบ็กของยูเครน จะรับมือแลมเบิร์ตได้ง่าย มีโอกาสที่จะดันขึ้นมาสูงทำให้พื้นที่แดนกลางของตัวเองแน่นมากยิ่งขึ้น นั่นหมายถึงเกมของสิงโตคำรามอาจจะต้องถอยร่นลงต่ำ
ในขณะที่ถ้าใช้ ธีโอ วัลค็อตต์ เป็นกองหน้าตัวกลาง รับรองได้ว่าคู่เซ็นเตอร์แบ็กของ ยูเครน ไม่กล้าลอยขึ้นสูงมากแน่นอน เพราะกลัวโนเล่นงานด้วยความเร็ว
อย่างไรก็ตาม บทบาทลักษณะนี้มีโอกาสที่เกมริมเส้นของทีมชาติอังกฤษจะเสียไปเหมือนกัน เพราะถ่างแลมเบิร์ตไปทางกว้างมากหน่อยตจะมีปัญหาเรื่องความเร็ว
เพราะฉะนั้นอาเป็นไปได้ที่คู่นี้พร้อมที่จะสลับพื้นที่ สลับตำแหน่งกันตลอดเวลา เพื่อกดดันยูเครนไม่ให้ตัวกองหลังลอยขึ้นสูงบ้าง กดดันด้วยการโต้กลับกับความเร็วทางริมเส้นบ้าง
น่าสนใจว่า สุดท้ายแล้วหน้าตาสิงโตคำรามจะออกมาแบบไหน และมีวิธีการอย่างไร ทว่าสิ่งที่บอกได้ก็คือ บรรยากาศในสนามสะเทือนขวัญแน่นอน
เรื่องโดย "ดามัน"