6 เรื่องต้องรู้ เมื่อไวกิ้งได้ไปต่อ หลังโสมขาวยิงทดเจ็บ ส่งแชมป์เก่ากลับบ้าน
เกมในกลุ่มเอฟ เริ่มต้นอย่างมีความหวังสำหรับทุกทีมที่จะเข้ารอบ แต่กลายเป็น สวีเดน กับ เม็กซิโก ที่พากันเข้ารอบได้สำเร็จ หลังทีมไวกิ้งไลถลุง เม็กซิโก ขาดลอย 3-0 แซงขึ้นเป็นจ่าฝูงกลุ่มสำเร็จ
ในขณะที่อีกคู่ เกาหลีใต้ ได้ 2 ประตูช่วงทดเวลา พาพวกเขาพ้นบ๊วยสำเร็จ แต่ก็ต้องตกรอบไปพร้อมกับแชมป์เก่าอยู่ดี
ไปดูกันว่ามีอะไรที่คสรรู้บ้างในเกมที่แชมป์เก่าตกรอบฟุตบอลโลกครั้งต่อมาเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกันแล้ว
6. อาถรรพ์แชมป์เก่าหลังจากที่ อิตาลี ตกรอบแบ่งกลุ่มในปี 2010 และ สเปน ตกรอบในปี 2014 ตอนนี้เป็นตาของ เยอรมนี ในปี 2018 บ้างแล้ว
นับตั้งแต่ก่อตั้งรายการฟุตบอลโลกมาตั้งแต่ปี 1930 ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 6 ที่แชมป์เก่าตกม้าตายตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม โดยครั้งแรกและครั้งที่สองเกิดขึ้นในยุคแรก ๆ ของฟุตบอลโลก แต่ 4 ครั้งหลังนี่เกิดในช่วงทษวรรษ 2000 นี่เอง และ 3 ครั้งล่าสุดก็เกิดติดกันซะด้วย
ไม่ว่าใครได้แชมป์ไปในปีนี้ พวกเขาควรเตรียมใจรับมือการตกรอบแบ่งกลุ่มไว้ให้ดี ไม่ใช่แค่เผื่อพลิกล็อก แต่มันคือหนึ่งความเป็นได้ที่อาจเกิดขึ้นพอ ๆ กับการเข้ารอบต่อไปเลยต่างหาก
จากที่เคยล้อ อิตาลี ไว้เล็ก ๆ จนถึงความโชคร้ายของ สเปน ในการโคจรไปเจอกับ เนเธอร์แลนด์ และ ชิลี ในกลุ่มเดียวกัน มาถึงตอนนี้มันอาจไม่ใช่แค่ทีมหรือโชคไม่ดีซะแล้ว
ไม่ว่าใครได้แชมป์บนแผ่นดินรัสเซีย อีก 4 ปีพวกคงต้องระวังตัวไว้ให้ดีซะแล้ว
5. กองหน้าพึ่งพาไม่ได้ ก่อนเริ่มทัวร์นาเมนท์ ทัพอินทรีเหล็กมั่นใจในศักยภาพของ ติโม แวร์เนอร์ แบบสุด ๆ และเชื่อว่าเขาจะตอบโจทบ์ในการทำประตูคู่แข่งได้ ผ่านไป 3 นัด พวกเขาคิดผิด
ทั้ง 3 เกม แวร์เนอร์ แทบไม่มีโอกาสจบสกอร์แบบเต็ม ๆ แบบน่าได้ประตูเลยซักครั้ง และทั้ง 3 นัดก็ต้องกันไปเพิ่งตัวเก๋าอย่าง มาริโอ โกเมซ เพื่อมาช่วยเก็บบอลในแดนห้า ซึ่ง โกเมซ ก็ยังไม่ตอบโจทย์การทำประตูอยู่ดี
บางที เยอรมนี อาจต้องหันไปดูทีมอย่าง อังกฤษ หรือ เบลเยียม หรือ โปรตุเกส บ้างว่าการมีกองหน้าที่พึ่งพาได้มันดีกว่ายังไง
เยอรมนี มาฟุตบอลโลกครั้งนี้แบบไม่มีกองหน้า!!!
4. ทดเวลามีค่า จนถึงตอนนี้ ประตูช่วงทดเวลาในฟุตบอลโลก 2018 มีทั้ง 19 ลูกเข้าไปแล้วทั้งในทดเวลาครึ่งแรกและครึ่งหลัง และเกือบทั้งหมดเปลี่ยนผลของเกมจากหน้ามือเป็นหลังมือได้เลยทีเดียว
เยอรมนี เข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี เพราะในเกมที่แล้วพวกเขาได้ประตูชัยจากฟรีคิกของ โทนี โครส ในนาทีที่ 90+5 พลิกจากที่ เม็กซิโก จะเข้ารอบสบาย ๆ กลายเป็นว่าต้องมาเหนื่อยต่อในเกมนี้
ในเกมระหว่าง เกาหลีใต้ กับ เยอรมนี ทีมโสมขาวเองก้ได้ประตูในช่วงเวลาพาพวกเขาทำลายอาถรรพ์ที่ไม่ชนะ เยอรมนี ในบอลโลกได้ซักที ในขณะทีการตีเสมอของ อิสโก้ เมื่อวันก่อน ทำให้ สเปน จบจ่าฝูงของกลุ่มและรอดไปเจอกับ รัสเซีย แทนที่จะเป็น อุรุกวัย
จากการเอา VAR เข้ามาใช้ในเกมฟุตบอลทำให้เกมเวลาปกติมีโอกาสที่จะหยุดนานขึ้น นั่นทำให้เวลาที่ต้องทดก็นานออกไปด้วย และมันก็หมายความว่าโอกาสทำประตูมีเพิ่มขึ้นไปด้วย
จากนี้จับตาเกมรอบน็อคเอาท์เอาไว้เลย เพราะนอกจาก 90 นาทีปกติแล้ว ยังมี 30 นาทีต่อเวลาพิเศษอีกด้วย เท่ากับมีโอกาสยิงประตูพลิกสถานการณ์มากเขาไปด้วย
3. พลังใจที่แตกต่าง นักเตะพลังโสมลงเล่นวันนี้แบบสถานการณ์พิงฝาแบบสุด ๆ เพราะต้องชนะแชมป์เก่าให้ได้ไปพร้อม ๆ กับที่ สวีเดน ต้องแพ้ด้วย ซึ่งสุดท้าย สวีเดน ก็เก็บ 3 แต้มไปครองได้อย่างน่าชม
แต่ถึงอย่างนั้น นักเตะโสมขาวไม่ได้ท้อถอยหรือออกอาการให้เห็นว่าพวกเขาคือทีมที่กำลังตกรอบเลย พวกเขาสู้ยิบตา แถมยังมีวินัยในการยืนตำแหน่งเกมรับด้ย จนทำให้แนวรุก เยอรมนี ที่ทื่ออยู่แล้วยิ่งทื่อเข้าไปอีก
นักเตะที่น่าชื่นชมที่สุดของ เกาหลีใต้คงนี้ไม่พ้น โจ ฮยอนอู ที่เซฟไปนับไม่ถ้วน แต่กองหลังก้ทำได้ดีไม่แพ้กัน ทั้ง ฮง ชอล, อี ยอง, คิม ยองกวอน และ ยุน ยองซอน ทำหน้าทีไ่ด้อย่างยอดเยี่ยม ตามบล็อคลูกยิงของทีมอินทรีเหล็กจนตัวน่วมไปหมด แต่ก็คุ้มค่ากับ 3 แต้มและคลีนชีตในเกมนี้
ในขณะที่นักเตะ เยอรมนี ดูไม่ได้ตระหนักเลยว่าตัวเองกำลังจะตกรอบ พวกเขาขึ้นเกมเอื่อย ๆ ไม่กล้าเสี่ยง ไม่กล้าเข้าปะทะ ราวกับกลัวเจ็บอะไรแบบนั้น
2. สวีเดน มีโอกาสไปได้ไกล นับตั้งแต่โค่น อิตาลี ลงได้ในเกมเพลย์ออฟ สวีเดน ไม่ชนะใครเลยในเกมกระชับมิตร เสมอ 2 แพ้ 2 และมากลุ่มเอฟด้วยการเป็นเพียงเต็ง 3 เท่านั้น
ชัยชนะเหนือ เกาหลีใต้ เป็นเริ่งที่ใคร ๆ ก็คาดเอาไว้ ในขณะที่เกมแพ้ เยอรมนี ก็เป็นไปตามเนื้อผ้า เมื่อพิจารณาจากการที่ เม็กซิโก ชนะมา 2 นัดติด ในขณะที่ เยอรมนี เจอกับ เกาหลีใต้ ที่แพ้รวด ยังไงเกมกับ เม็กซิโก ก็น่าเป็นพวกเขาที่ต้องน้ำตาตก
แต่ไม่ใช่เลย เม็กซิโก สู้ สวีเดน ไม่ได้ ทีมไวกิ้งคอนโทรลบอลได้ดีกว่า สร้างโอกาสได้ดีกว่า และจบสกอร์ได้ดีกว่าหลายขุมนัก ทั้ง ๆ ที่ครองบอลน้อยกว่า และเป็นฝ่ายโดนกดดันอยู่เรื่อย ๆ ในขณะที่ เม็กซิโก น่าได้ประตูสุด ๆ โดยเฉพาะลูกโหม่งของ คาร์ลอส เวลา แต่กลับทำพลาดไปเฉย ๆ
สวีเดน จบด้วยจ่าฝูงกลุ่มและจะไปเจอกับ สวิสเซอร์แลนด์ ที่เข้าป้ายเป็นอันดับสอง
1. เม็กซิโก ยังต้องปรับปรุงความคม ชัยชนะ 2 เกมแรกทำให้ เม็กซิโก เหมือนอยู่ในความฝัน ความฝันที่ว่าพวกเขาพร้อมแล้วสำหรับการลุยศึกในรอบน็อคเอาท์ แต่การเจอกับ สวีเดน ดึงพวกเขากลับมาสู้ความเป็นจริงอีกครั้งหนึ่ง
เม็กซิโก มีสถิติการทำประตูที่ย่ำแย่เอามาก ๆ ในเกมกับ สวีเดน พวกเขาสร้างโอกาสยิงถึง 19 ครั้ง แต่บอลกับเข้ากรอบเพียง 3 ครั้งเท่านั้น แถมยังพลาดจังหวะสำคัญ ๆ ไปมากมาย ซึ่งคนที่พลาดก้ไม่ใช่ใครที่ไหน นักเตะตัวความหวังอย่าง ชิชาริโต้, คาร์ลอส เวลา หรือ เออร์วิง โลซาโน นั่นเอง ต่างกับ 2 เกมแรกอยู่พอสมควร
การตกไปอยู่อันดับ 2 ทำให้พวกเขาต้องเจอกับ บราซิล ในรอบ 16ทีมสุดท้าย และพวกเขาต้องหวังว่า 3 กองหน้าจะกลับมาเข้าฝักอีกครั้งในการดวลกับแนวรับระดับโลกอย่าง ติอาโก้ ซิลวา, มิรันด้า หรือ มาร์เซโล