โคตรอาถรรพ์ ! "5 แชมป์เก่า ตกรอบแรกในครั้งถัดมา"
จบอย่างมีดราม่าสุดๆ เมื่อแชมป์เก่า เยอรมนี ไม่สามารถเข้ารอบต่อไปได้ หลังแพ้แบบพังพาบให้กับ "แข้งพลังโสม" เกาหลีใต้ 0-2 กระเด็นร่วงรอบแรก ศึกฟุตบอลโลก 2018 แบบสุดช็อก ด้วยการเป็นบ๊วยของกลุ่มเอฟอีกต่างหาก
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ควรรู้คือ แข้งอินทรีเหล็ก เยอรมนี ทีมนี้ ไม่ใช่ชาติแรกที่บอกลาบอลโลก ตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มในครั้งถัดมาเป็นทีมแรก พวกเขายังมีเพื่อนร่วมชะตากรรมในลักษณะเช่นนี้อีกถึง 4 ทีมด้วยกัน
ว่าแล้ว 5 แรงอาถรรพ์จากการคว้าแชมป์โลกได้ แล้วครั้งต่อมาต้องอกหักตกรอบแรก มีทีมใดกันไปบ้าง? ไปดูกันเลยครับ
- ทีมชาติอิตาลี ทีมชาติอิตาลี เป็นทีมแรกที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้แล้วตกรอบแรกในครั้งถัดไป โดยทัพอัซซูรี คว้าแชมป์ที่ 2 ของพวกเขาในปี 1938 ที่ฝรั่งเศสด้วยการชนะ ฮังการี ในนัดชิงชนะเลิศ 4-2 ก่อนที่สงครามโลกครั้งที่ 2 จะทำให้ฟุตบอลโลกต้องว่างเว้นไป 12 ปีเลยทีเดียว
เมื่อฟุตบอลโลกกลับมาในปี 1950 ที่บราซิล ยอดนักเตะในยุคก่อนอย่าง จุซเซปเป้ เมียสซ่า หรือ ซิลวิโอ ปิโอลา ต่างเลิกเล่นกันไปหมดแล้ว ทำให้ อิตาลี 1950 ต้องจอดป้ายแค่รอบแรกเท่านั้น
อิตาลี ยังเป็นทีมแรกที่ตกรอบแบ่งกลุ่มในฐานะแชมป์เก่า 2 ครั้ง ในปี 2006 บนแผ่นดิน เยอรมนี อิตาลี เอาชนะลูกโทษเหนือ ฝรั่งเศส 5-3 คว้าแชมป์สมัยที่ 4 อย่างยิ่งใหญ่ แต่อีก 4 ปีถัดมา พวกเขาก็ตกรอบแรกอีกจนได้ แม้จะมีนักเตะอย่าง จานลุยจิ บุฟฟอน, อันเดรีย ปีร์โล หรือ อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน ก็ตาม จากการพ่ายให้กับ สโลวาเกีย 2-3 ในนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม จบอันดับบ๊วยและมีแค่ 2 แต้มเท่านั้น
- ทีมชาติบราซิลแชมป์โลก 5 สมัยอย่าง บราซิล ก็ไม่พ้นเคยประสบชะตาตกรอบด้วยฐานะแชมป์เก่ามาแล้ว โดยเริ่มจากพวกเขาคว้าแชมป์โลกปี 62 ได้ด้วยการเอาชนะ เช็คโกสโลวาเกีย 3-2 เป็นแชมป์โลกสมัยที่ 2 ของพวกเขาด้วยการนำทัพโดย เปเล่ แต่ในอีก 4 ปีถัดมาบนแผ่นดินอังกฤษ ทีมที่เต็มไปด้วยสตาร์ดังอย่าง เปเล่ ทอสเทา หรือ การ์รินชา ก็จอดตั้งแต่รอบแรกตาม อิตาลี ไป ด้วยการชนะเพียงเกมเดียวในการเปิดกลุ่มเท่านั้น ก่อนจะมาพ่ายให้ ฮังการี และ โปรตุเกส ร่วงตกรอบไป
- ทีมชาติฝรั่งเศสฝรั่งเศส เป็นอีกชาติที่สามารถคว้าแชมป์โลกบนแผ่นดินตัวเองได้สำเร็จ ด้วยการถลุงแชมป์เก่าในปี 94 อย่าง บราซิล ขาดลอย 3-0 แต่ใน 4 ปีถัดมาบนแผ่นดินเอเชีย พวกเขาพลาดท่าแพ้น้องใหม่ในนัดแรกอย่าง เซนเนกัล 0-1 จากนั้น เจ๊า อุรุกวัย ในเกมสองแบบไร้สกอร์ 0-0 พร้อมใบแดงของ อองรี ก่อนที่เกมสามจะขายหน้าแบบสุดขีดด้วยการแพ้ เดนมาร์ก 0-2 ตกรอบแรกไปชนิดที่ยิงประตูคู่แข่งไม่ได้เลยสักลูก!!!
- ทีมชาติสเปน
แชมป์โลก 2010 อย่าง สเปน ก็ไม่พ้นจากการตกรอบแรกด้วยการเป็นแชมป์เก่า ประตูชัย ของ อิเนียสต้า ช่วยให้ทัพกระทิงดุเป็นฝ่ายคว้าแชมป์แรกสำเร็จบนทวีปแอฟริกา แทนที่ของ เนเธอร์แลนด์ ที่ต้องการแชมป์แรกของพวกเขาเหมือนกัน
แม้จะเดินหน้าคว้าแชมป์ยูโร 2012 ได้ใน 2 ปีถัดมา แต่ฟุตบอลโลกบนแผ่นดินแซมบ้า กลับสร้างความอับอายให้กับทีมกระทิงดุเหลือเกิน เมื่อพวกเขาประเดิมสนามเจอกับคู่แค้นเก่าอย่าง เนเธอร์แลนด์ ก่อนโดนแข้งอัศวินสีส้ม กลับมาแก้แค้นได้อย่างสาสมด้วยสกอร์ขาดลอย 1-5 ก่อนที่จะพวกเขาจะตกรอบแบบสนิทตั้งแต่เกมที่ 2 เมื่อพ่ายพลิกล็อกให้กับ ชิลี 0-2 แม้จะเอาชนะ ออสเตรเลียได้ในเกมสุดท้ายถึง 3-0 แต่ก็เป็นชัยชนะแก้เขินเท่านั้น!!!
- ทีมชาติเยอรมนี
เป็นลางตั้งแต่ก่อนมารัสเซีย เมื่อฮีโร่ 2014 อย่าง มาริโอ เกิทเซ ไม่ถูกหิ้วมาด้วย เท่านั้นไม่พอ ซาเน่ ที่ฟอร์มอร่อยเหาะกับ แมนฯซิตี้ กลับไร้ชื่อมาลุยรัสเซีย
แข้งทัพอินทรีเหล็ก เริ่มต้นแบบช็อกๆ เมื่อปราชัยต่อ เม็กซิโก 0-1 หยุดสถิติชนะเกมแรกในฟุตบอลโลกมา 7 สมัยติด
ก่อนที่พวกเขาจะได้ลูกฟรีคิกของ โทนี โครส ช่วยให้กลับมามีลุ้นได้ในเกมนัดสุดท้าย ก่อนที่กองเชียร์จะห่อเหี่ยวกันทั้งประเทศ เมื่อเยอรมนี โดน เกาหลีใต้ ฝังมิดดิน ตกรอบไปโดยการเป็นบ๊วยกลุ่ม บนความพ่ายแพ้แบบสุดช็อกในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 0-2 ในเกมเมื่อคืนที่ผ่านมา