ลุ้นสุดระทึก! โครเอเชีย ดวลโทษเฉือน เดนมาร์ก ทะลุรอบ 8 ทีม
ฟุตบอลโลก 2018 รอบ 16 ทีมสุดท้าย
วันที่ 1 กรกฎาคม 2018
โครเอเชีย 1 - 1 เดนมาร์ก
ต่อเวลาพิเศษ 120 นาที เสมอ 1-1 ,โครเอเชีย ชนะจุดโทษ 3-2
สนาม : นิซนี นอฟโกรอด สเตเดี้ยม
ผู้ตัดสิน : เนสตอร์ ปิตานา (อาร์เจนตินา)
โครเอเชีย เปลี่ยนกลับมาใช้ทีมชุดใหญ่อีกครั้งหลังพักพวกตัวจริงในเกมกับ ไอซ์แลนด์ นำโดย มานจูคิช, ราคิติช และ โบรโซวิช ในขณะที่ เดนมาร์ค เปลี่ยนระบบมาใช้ 4-3-3 โดยมีสามประสานแดนหน้า คอร์เนเลียส, พูลเซน และ เบรธเวท ทำเกม ส่วน ยอร์เกนเซน และ ซิสโต ถูกดร็อปเป็นสำรอง
GOAL !!! นาทีที่ 2 เริ่มเกมมาได้เพียงไม่ถึงนาที เดนมาร์ค ได้ประตูออกนำ 1-0 จากจังหวะขลุกขลิกหน้าปากประตู ก่อน มาเธียส ยอร์เกนเซน จะยิงประตูออกนำให้โคนม
GOAL !!! นาทีที่ 4 แนวรับ เดนมาร์ก สกัดบอลพลาด มาเข้าทาง มานจูคิช วอลเล่ย์เต็มข้อ ช่วยให้ โครเอเชีย ตีเสมออย่างรวดเร็ว
นาทีที่ 26 เดนมาร์ก ได้โอกาสต่อบอลกันตามช่อง มาร์ติน เบรธเวท ได้โอกาสทองทำประตูออกนำ แต่ ซูบาซิช ออกมาปิดมุมได้ดี ก่อนเซฟไว้ได้
นาทีที่ 28 อิวาน ราคิติช ได้โอกาสยิงไกลจากนอกกรอบเขตโทษ ซไมเคิล ทุบออกมาได้ จังหวะ 2 ยังเป็น โครเอเชีย ที่เก็บได้ ก่อนจังหวะสุดท้าย เปริซิช จะยิงข้ามคานออกไป
นาทีที่ 44 อิวาน ราคิติช ได้โอกาสยิงด้วยซ้าย แต่ไม่ผ่านมือ แคสเปอร์ ซไมเคิล
จบเกม ครึ่งแรก โครเอเชีย เสมอ เดนมาร์ก 1-1 ต้องมาลุ้นต่อในครึ่งหลัง
เริ่มเกมครึ่งหลัง เดนมาร์ก เปลี่ยนตัวคนแรก ถอด อันเดรียส คริสเตนเซน ออก จากนั้นส่ง ลาสเซ เชินเน ลงสนามแทน
นาทีที่ 55 ทั้ง 2 ทีมยังคงไม่มีจังหวะจะแจ้ง เปอร์เซ็นต์การครองบอล โครเอเชีย ดีกว่าเล็กน้อย 54% ต่อ 46 %
นาทีที่ 66 เดนมาร์ก เปลี่ยนตัวคนที่ 2 ถอด อันเดรียส คอร์เนเลียส ออก จากนั้นส่ง นิโคไล ยอร์เกนเซน ลงสนาม
นาทีที่ 71 เดนมาร์ก ทำเกมรุกขึ้นมา โพลเซ่น ไหลต่อให้กับ นิโคไล ยอร์เกนเซ่น ได้โอกาสจบสกอร์ แต่ไม่ผ่านมือ ซูบาซิช
นาทีที่ 71 โครเอเชีย เปลี่ยนตัว ถอด มาร์เซโล โบรโซวิช ออก จากนั้นส่ง มาเตโอ โควาซิช ลงสนามแทน
นาทีที่ 78 อันเต้ เรบิช ยิงจากนอกกรอบเขตโทษ แต่ไม่ผ่านมือ แคสเปอร์ ซไมเคิล
นาทีที่ 81 โครเอเชีย เปลี่ยนตัวคนที่ 2 ถอด อิวาน สตรินิช ออก จากนั้นส่ง โจซิป ปิวาริช ลงสนามแทน
นาทีที่ 82 เกมหยุดชั่วคราวเนื่องจาก โควาซิช ได้รับบาดเจ็บที่ไหล่ แต่ยังเล่นต่อไหว
นาทีที่ 86 ปิวาริช สร้างโอกาสให้ โครแอต ได้เตะมุม แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จังหวะ 2 โครแอตได้อโอกาสยิง บอลก็ไปเข้ามือ ซไมเคิล
นาทีที่ 87 ลาสเซ เชินเน ได้โอกาสยิง แต่หลุดกรอบออกไปเยอะพอสมควร
นาทีที่ 90+1 อิวาน ราคิติช ได้โอกาสยิงไกล แต่บอลหลุดกรอบออกไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
นาทีที่ 90+2 เดนมาร์ก ได้โอกาสเตะมุม เบรธเวท ยิงสวนแต่บอลหลุดกรอบออกไป
จบ 90 นาทียังเสมอกัน 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที
นาทีที่ 97 โครเอเชีย ถอด อิวาน เปเรซิช ออก จากนั้นส่ง อังเดรย์ ครามาริช ลงสนามแทน
นาทีที่ 98 เดนมาร์ก ถอด โธมัส เดลานี่ย์ ออกจากนั้นส่ง ไมเคิล โครห์น-เดห์ลี่ ลงสนามแทน
นาทีที่ 103 โครเอเชีย ได้โอกาสบุกมาอีกรอบ ก่อนจังหวะสุดท้าย แคสเปอร์ ซไมเคิล จะโชว์เซฟปัดข้ามคานออกไปกอ่นที่จะโดนซ้ำดาบสอง
จบ 15 นาทีแรกของช่วงต่อเวลา ยังทำอะไรกันไม่ได้ เสมอ 1-1
ครึ่งหลัง เดนมาร์ก เปลี่ยนตัวคนที่ 4 ตามกฎใหม่ของฟีฟ่า ถอด มาร์ติน เบรธเวท ออก จากนั้นเอา ปิโอเน ซิสโต้ ลงสนาม
นาทีที่ 107 โครเอเชีย เปลี่ยนตัวคนสุดท้าย มาริโอ มานด์ซูคิช ถูกถอดออก มิลาน บาเดลจ์ ลงสนามแทน
นาทีที่ 112 เดนมาร์ก ได้ทุ่มไกลจาก คนุดเซน ก่อนจังหวะสุดท้าย เดนมาร์ก จะได้จบแต่ก็หลุดกรอบออกไป
นาทีที่ 116 ช่วงต่อเวลาพิเศษท้ายเกม อันเต้ เรเบิช หลุดเดี่ยวก่อนโดน ยอร์เกนเซน เข้ามาสกัดด้านหลัง ผู้ตัดสินชี้จุดโทษ ก่อนจะแจกใบเหลืองให้ ยอร์เกนเซ่น อย่างไรก็ตาม ลูก้า โมดริช สังหารไม่เข้า แคสเปอร์ ซไมเคิล ล้มถูกทางเซฟจุดโทษสำคัญเอาไว้ได้
จากนั้นต้องดวลจุดโทษตัดสิน และเป็นทาง โครเอเชีย ที่คมกว่า และ ซูบาซิช นายด่านที่เซฟไปได้มากกว่าถึง 3 จุดโทษ โครเอเชีย เอาชนะจุดโทษไปได้ 3-2 ผ่านเข้าสู่รอบถัดไปไปพบกับ รัสเซีย ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย
รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
โครเอเชีย : ซูบาซิช - ลอฟเรน, วิด้า, สตรินิช, เวอร์ซัลย์โก - ราคิติช, โบรโซวิช, โมดริช, เรบิช, เปริซิช - มานจูคิช
เดนมาร์ค : ซไมเคิล - คริสเตนเซน, เคียร์, ซันก้า - ดัลส์การ์ด, เดลานีย์, เอริคเซน, คนุดเซน - พูลเซน, คอร์เนเลียส, เบรธเวท