เก็บตกหลังเกม ! 5 ประเด็นในแมตช์ เบลเยียม พลิกนรกแซง ญี่ปุ่น ทดเจ็บ 3-2

1. ทีเด็ดตัวสำรอง เบลเยียมJACK GUEZ/GettyImages ขณะที่ตกเป็นฝ่ายตามหลังถึง 2 ประตูและเกมรุกดูไม่มีทีท่าว่าจะเจาะแนวรับของ ญี่ปุ่น เข้าไปลุ้นในพื้นที่อันตรายได้ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ ก็ขยับอย่างรวดเร็วด้วยการเปลี่ยน มารูยาน เฟลไลนี และ เนเซอร์ แชดลี ลงมาเล่นแทน

บอลไดเร็กต์จากริมเส้นซ้ายขวาและลูกเซ็ตพีซของ เบลเยียม หวังผลได้มากขึ้นเมื่อมี เฟลไลนี เติมไปรอในกรอบเขตโทษหลังจากที่โยนบอมบ์จน ญี่ปุ่น เจียนอยู่เจียนไปหลายครั้งก่อนหน้าและก็มาได้ประตูตีเสมอจากดาวเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในที่สุด

ขณะที่ แชดลี ลงมาก็ทำให้เกมรุกริมเส้นของพวกเขากระชุ่มกระชวยมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด กลายเป็นตัวป่วนแนวรับของ ญี่ปุ่น หลายครั้งก่อนที่จะเป็นคนแท็ปอินประตูชัยในนาทีสุดท้ายของการทดเวลาบาดเจ็บไปในที่สุด

2. กึ๋นของญี่ปุ่นKoji Watanabe/GettyImages ญี่ปุ่น รู้ตัวดีว่าเป็นรองในการเจอทีมอย่าง เบลเยียม และพวกเขาก็ทำได้ดีตามแผนอยู่ 93 นาที เหลืออีกเพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้นที่จะสามารถยื้อให้เกมไปต่ออีก 30 นาทีสำเร็จ

ซามูไรบลู แพ็คเกมรับในตัวเองอย่างเหนียวแน่น รักษาระเบียบวินัยในเกมรับได้อย่างยอดเยี่ยม และทุ่มสุดตัวในการป้องกันลูกโด่งแม้จะเสียเปรียบเรื่องสรีระ

ทว่าโมเมนตัมในช่วงท้ายหลังจาก ฮอนดะ งัดไดรฟ์ชู้ตฟรีคิกเกือบเป็นประตูก็ทำให้พวกเขาลอยสูงหวังงัดหมัดเด็ดจากลูกเตะมุมใส่ เบลเยียม ทั้งที่ ปีศาจแดงแห่งยุโรป ได้เปรียบในลูกกลางอากาศมากกว่า และช่วงเวลา 1 นาทีที่เหลือก็มากเพียงพอให้เกมสวนกลับของ เบลเยียม ทำงานและแซงคว้าชัยไปได้อย่างน่าเจ็บใจ

3. สุภาพบุรุษซามูไรKoji Watanabe/GettyImages แม้จะต้องตกเป็นฝ่ายตั้งรับตลอดทั้งเกม แต่เราไม่ได้เห็นจังหวะใส่ลูกตุกติกของผู้เล่น ญี่ปุ่น ให้เห็นเลยแม้แต่สักครั้งเดียว พวกเขาเล่นไปตามเกมของตัวเอง เล่นไปตามจังหวะ ไม่มีการถ่วงเวลา แกล้งเจ็บ พุ่งล้ม หรือการเล่นแบบไม่มีน้ำนักกีฬาให้เห็น เว้นแต่การดึงเสื้อทำฟาวล์ตัดเกมตามจังหวะที่มันจวนตัวสุดๆ

แม้จะความพ่ายแพ้ แต่ก็เป็นความพ่ายแพ้ที่น่ายกย่อง พวกเขาทำให้เกมดังกล่าวเป็นหนึ่งในเกมที่สนุกที่สุดใน ฟุตบอลโลก ครั้งนี้เมื่อไม่มีการงัดเล่ห์เหลี่ยมใดๆ มาใช้เลย

อย่างไรก็ตาม ในอีกแง่หนึ่งมันก็ทำให้เราคิดว่าหากเติมความเจ้าเล่ห์ให้กับ ญี่ปุ่น ชุดนี้อย่างน้อยการเตะถ่วงที่มุมธงในนาทีสุดท้ายของการทดเวลาบาดเจ็บก็น่าคิดว่าพวกเขาอาจจะไปไกลได้มากกว่านี้ - อย่างน้อยก็อีก 30 นาที

4. แม้จะชนะ แต่ว่า...Jean Catuffe/GettyImages เบลเยียม เป็นฝ่ายครองบอลบุกเข้าใส่ได้แทบทั้งเกม แต่รูปแบบการเล่นของเขาเป็นที่คาดเดาได้แทบจะทั้งนั้น นอกจาการใช้ความสามารถเฉพาะตัวของ อาซาร์ ประสานงานกับ ลูกากู ในแดนหน้าแล้วมันไม่ได้มีอะไรไปมากกว่านั้น

โดยเฉพาะเมื่อวิงแบ็คทั้งสองข้างของพวกเขาไม่ได้มีเกมที่ดีที่สุด ลูกากู ถูกมาร์คตาย และ อาซาร์ ไม่มีพื้นที่ให้กระชากลากเลื้อย

การเล่นโดยใช้ปราการหลังตัวกลาง 3 คนยังมีจุดอ่อนรายบุคคลให้เห็นเมื่อประสบการณ์ของ 2 คนในนั้นยังมีไม่มากพอกับเกมระดับสูงขนาดนี้ ขณะที่การใช้มิดฟิลด์ตัวรับคนเดียวก็ทำให้เกิดช่องโหว่มโหฬารในจังหวะที่ทีมเป็นฝ่ายถูกสวนกลับเร็ว

5. บราซิล กำลังลูบปากรอ แต่ทันใดนั้น...Ian MacNicol/GettyImages การพบกับ ญี่ปุ่น ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายอาจจะไม่ใช่งานง่ายนักเมื่อดูจากฟอร์มของ ซามูไรบลู ในวันนี้ ทว่าหลังจากที่ ซามูไรบลู นำ 2-0 ได้เพียงไม่นาน ไม่กี่อึดใจหลังจากนั้นกลับกลายเป็น เบลเยียม ที่จะกลายเป็นคู่ต่อสู้ของทัพ แซมบ้า ไปเสีย

มันกลายเป็นเกมที่น่าจับตามองสุดๆ กับทั้งสองทีมที่โดดเด่นในเกมรุก ลูกากู จะได้ดวลกับ ติอาโก้ ซิลวา, เดอ บรอยน์ กับ คาเซมิโร, คูตินโญ​ กับ วิตเซล ฯลฯ และเราอดใจรอแทบไม่ไหวแล้ว