10 อันดับทีมแห้วฟุตบอลโลก

10 อันดับทีมแห้วฟุตบอลโลก

10 อันดับทีมแห้วฟุตบอลโลก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฟุตบอล : 16 ทีมประจันหน้า ชิงตั๋วที่เหลือ 8 ใบ ไม่ใครก็ใคร ที่ต้องเป็นฝ่ายผิดหวังและกินแห้วชามใหญ่ กว่าจะมีโอกาสได้ลุ้นใหม่ก็ต้องรออีก 4 ปี

ในบรรยากาศเกมทีมชาติที่กำลังคุกรุ่น ทุกชาติต่างพยายามฝ่าฟัน สู้แบบถวายหัวเพื่อชิงตั๋วไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่ตอนนี้เหลืออยู่ 8 ใบแล้ว และจะรู้ผลกันในวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้ รวมถึงการที่ผู้ชิงชัยสู่การเป็นแชมป์โลกปี 2014 ก็จะได้เห็นหน้าค่าตาครบทั้ง 32 ทีมในวันดังกล่าวเช่นกัน

มีผู้สมหวังก็ย่อมมีผู้ผิดหวังเป็นสัจธรรมของโลก และมีไม่น้อยที่ทีมที่ผิดหวังนั้นเป็นบรรดาทีมใหญ่ที่ใครก็อยากเห็นในฟุตบอลโลก และวันนี้คัดเอา 10 อันดับที่น่าเสียดายสุดๆ กับการแห้วตั๋วไปชิงความเป็นหนึ่งของโลกมาให้ชมกัน

อันดับ 10 อังกฤษ ปี 1974 ในช่วงทศวรรษ 70 ถือเป็นยุคมืดของฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ เพราะไม่สามารถตีตั๋วไปเล่นรายการใหญ่ๆ ได้เลยในช่วงปี 1970-80 โดยเฉพาะเมื่อฟุตบอลโลก 74 รอบคัดเลือกที่ในนัดสุดท้ายต้องชนะ โปแลนด์ ให้ได้ในบ้านตัวเอง แต่กลับทำได้แค่ 1-1 เท่านั้น

อันดับ 9 ฮอลแลนด์ 1986 ภายหลังจากได้รองแชมป์โลกเมื่อปี 1978 ทำให้พลพรรค "ฟลายอิ้งดัตช์แมน" เลือดใหม่กลายเป็นที่จับตามอง แต่มาที่รอบคัดเลือกของฟุตบอลโลกป '86 กลายเป็นว่าพวกเขาทำได้แค่การเป็นรองแชมป์กลุ่ม และต้องไปเพลย์ออฟกับทีมประเทศเพื่อนบ้านอย่าง เบลเยียม แต่ก็แพ้ไปด้วยกฎอเวย์โกล

อันดับ 8 สหภาพโซเวียต 1978 แม้จะเป็นชาติใหญ่ที่สุดในยุโรป แถมอุดมไปด้วยผู้เล่นชั้นยอดจากทีมดินาโม เคียฟ ชุดแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ ปี 1975 รวมถึงแข้งตำนานอย่าง โอเล็ก โบลคิน แต่ก็ทำได้เพียงการเป็นรองแชมป์กลุ่ม 9 ตามหลัง ฮังการี่ และไปแพ้ กรีซ ในรอบเพลย์ออฟ

อันดับ 7 อิตาลี 1958 ไม่น่าเชื่อว่าทีมแชมป์โลก 4 สมัยจะเคยมีประวัติศาสตร์เช่นนี้ ช่วงปี 1950 ถือเป็นยุคที่ลืมไม่ลงในวงการฟุตบอลอิตาลี โดยเฉพาะการเล่นรอบคัดเลือกของช่วงปลายทศวรรษ ทั้งที่มีทีมที่อุดมไปด้วยผู้เล่นชั้นนำจาก ยูเวนตุส, เอซี มิลาน และโรม่า แต่นัดสุดท้ายก็ไปพลาดท่าแพ้ ไอร์แลนด์เหนือ ที่ เบลฟาสต์

อันดับ 6 โปรตุเกส 1998 ฟุตบอลโลกที่แดนน้ำหอมต้องขาดทีม "ฝอยทอง" ในยุคทองที่มี หลุยส์ ฟิโก้, รุย คอสต้า และเจา ปินโต้ อยู่ในทีมไปอย่างน่าเสียดาย โดยมีแต้มตามหลังจ่าฝูง เยอรมัน แค่ 3 แต้ม แถมแพ้แค่นัดเดียวเท่านั้นด้วย

อันดับ 5 อังกฤษ 1994 ฟุตบอลโลกบนแผ่นดินที่คนไม่นิยม ซอคเกอร์ อย่างอเมริกา กลับไม่มีชาติมหาอำนาจลูกหนังอย่างอังกฤษไปแข่ง เพราะผลงานห่วยแตกในรอบคัดเลือกที่พ่ายเกมเยือนให้กับทีมที่แย่งพื้นที่กันอย่าง ฮอลแลนด์ และนอรเวย์ แถมไปพลาดเสียประตูตั้งแต่ 7 นาทีแรกให้กับทีมอย่าง ซาน มาริโน่ ด้วย

อันดับ 4 ยูโกสลาเวีย 1994 ไม่ใช่ไม่มีฝีมือจนไม่ผ่านรอบคัดเลือก แต่พวกเขาโดนแบนจากประชาคมโลกเนื่องจากเหตุสงครามกลางเมือง ที่ภายหลังทำให้ ยูโกฯ แตกออกเป็นหลายๆ ชาติในปัจจุบัน ทั้งที่ในยุคนั้นมีสตาร์ในทีมและดีพอจะเป็นแชมป์โลกด้วยซ้ำ ทั้ง ดราแกน สตอยโควิช, ซโวนิเมียร์ โบบัน, เดยัน ซาวิเซวิช, ดาวอร์ ซูเคอร์, ดาร์โก ปานเชฟ, ซินิซ่า มิไฮโลวิช, โรเบิร์ต โปรซิเนชกี้ และสเรชโก้ คาตาเนช

อันดับ 3 สกอตแลนด์ 1970 ในยุคทศวรรษ '60 ถึงต้นทศวรรษ '70 ทีมแดนวิสกี้ เป็นที่ประหวั่นพรั่นพรึงของทีมร่วมทวีป กลาสโกว์ เซลติก คว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ 1967 และอีก 5 ปีถัดมาก็เป็นคิวของ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส แถมในทีมยังมีกองหน้าชั้นนำอย่าง เดนิส ลอว์ แต่กลับต้องมาพลาดท่าให้กับกระตูกชิ้นโต ยอดทีมแห่งยุคอย่าง เยอรมันตะวันตก

อันดับ 2 ฮอลแลนด์ 2002 ฟุตบอลโลกครั้งแรกในทวีปเอเชีย ที่หลายคนบ่นอุบว่าขาดทีมที่เป็นสีสันสำคัญอย่าง "อัศวินสีส้ม" พวกเขาได้ที่ 3 ของกลุ่มในรอบคัดเลือกทั้งที่ในทีมมีทั้ง เอ็ดการ์ ดาวิดส์, คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ, รุด ฟาน นิสเตลรอย, มาร์ก โอเวอร์มาร์ส และยาป สตัม แถมเทรนเนอร์ยังเป็น หลุยส์ ฟาน กัล ด้วยซ้ำ

อันดับ 1 ฝรั่งเศส 1994 จะว่าไปฟุตบอลโลกฉบับมะกันเป็นครั้งที่น่าเสียดายอย่างยิ่งที่ขาดทีมชั้นนำในยุโรปอย่าง อังกฤษ, ยูโกสลาเวีย และฝรั่งเศส ไม่น่าเชื่อว่าทีม "ตราไก่" จะมาเป็นแชมป์โลกในอีก 4 ปีให้หลัง ทีมในยุคนั้นก็อุดมด้วยสตาร์ชั้นนำเช่นกันไม่ว่าจะเป็น ฌอง-ปิแอร์ ปาแป็ง, ดาวิด ชิโนล่า, อีริก คันโตน่า, ดิดิเยร์ เดส์ช็องส์ และมาร์กเซล เดอไซญี่ แต่กลับทำได้แค่อันดับ 3 ของกลุ่ม แถมเกม 2 นัดหลังสุดที่เล่นในบ้าน ต้องการแค่แต้มเดียวกลับได้แค่ 0 เท่านั้น

ฟุตบอลเป็นเกมที่อยู่บนความไม่แน่นอน ปีนี้ก็ส่อแววจะมีทีมใหญ่ต้องกินแห้วกันอยู่ไม่น้อย ทั้ง โปรตุเกส และสวีเดน ทีมจะมีแค่ทีมใดทีมหนึ่งเท่านั้นที่ได้เข้าไป ทั้งที่ทั้งสองทีมมีนักเตะที่ท้าชิงรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของ ฟีฟ่า อย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และซลาตัน อิบราฮิโมวิช อยู่

ขณะที่ ฝรั่งเศส ก็ร่อแร่อีกแล้ว แม้ในรอบแบ่งกลุ่มจะต้องมาอยู่กลุ่มเดียวกับสเปน ทีมอันดับ 1 ของโลก แต่ก็เล่นรอบเพลย์ออฟกับ ยูเครน ที่ถือว่าไม่หนักมากเท่าการเจอ สวีเดน หรือ โปรตุเกส แต่ก็โดนลูบคมไปก่อนถึง 2-0 เสียดายแทน ฟร้องค์ ริเบรี่ ที่สมควรจะได้ บัลลงดอร์ แต่คงฝันสลายแน่หากพาทีมบ้านเกิดไปฟุตบอลโลกไม่สำเร็จ และหากไม่ผ่านขึ้นมาจริงๆ การคัด 10 อันดับทีมแห้ว คงมี ฝรั่งเศส ครั้งนี้ไปด้วยแน่

"FIATA" สุกรโลกันต์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook