โรนัลโด้ vs เมสซี่ ′ดีที่สุดในโลก′ ตัดสินที่บราซิล

โรนัลโด้ vs เมสซี่ ′ดีที่สุดในโลก′ ตัดสินที่บราซิล

โรนัลโด้ vs เมสซี่ ′ดีที่สุดในโลก′ ตัดสินที่บราซิล
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในโลกฟุตบอลทุกวันนี้ มีการถกเถียงกันไม่จบไม่สิ้นว่า เมสซี่กับโรนัลโด้ ใครเป็นนักเตะที่ดีที่สุุดในโลก?

ปฏิเสธ ไม่ได้ว่า ลิโอเนล เมสซี่ ดาวยิงทีมชาติ อาร์เจนตินา ของ บาร์เซโลน่า และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซุปเปอร์สตาร์ โปรตุเกส ของ รีล มาดริด เป็นสองนักฟุตบอลที่ถล่มประตูและมีลีลาการเล่นที่น่าทึ่ง รวมทั้งคว้าแชมป์และรางวัลยอดเยี่ยมมานับไม่ถ้วน

ทั้งสองคนพิสูจน์ตัวเอง ในระดับสโมสรมาหมดแล้ว โรนัลโด้เพิ่งได้แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และโกปา เดลเรย์กับต้นสังกัด ต้นปีได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ(ฟีฟ่า) หรือ "บัลลงดอร์" ซึ่งเป็นสมัยที่สองของตัวเอง การลงเล่นให้รีล มาดริด ฤดูกาลที่ผ่านมา 47 นัดซัดไป 51 ประตู พร้อมทั้งทำสถิติเป็นนักเตะที่ยิงประตูในแชมเปี้ยนส์ลีกสูงสุดใน 1 ฤดูกาล ที่ 17 ประตู ทุบสถิติของเมสซี่ที่เคยทำไว้ 14 ประตู ขณะที่เมสซี่ ถึงแม้ปีนี้จะไม่มีแชมป์ใดๆ ติดมือกับบาร์ซ่าเลย แต่ก็ยังยิงถึง 41 ประตู จาก 46 แมตช์รวมทุกรายการ

เมสซี่-โรนัลโด้คว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกรวมกัน ถึง 5 ครั้ง ซิวบัลลงดอร์รวมกัน 6 ครั้ง แต่ทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามานี้ อาจจะยังไม่พอที่จะทำให้ทั้งคู่กลายเป็นตำนานของวงการลูกหนังโลกได้เต็มปาก เต็มคำ เพราะยังไม่สามารถแสดงศักยภาพที่แท้จริงในรายการใหญ่อย่างฟุตบอลโลกได้

ทั้ง เมสซี่และโรนัลโด้ลงเล่นฟุตบอลโลกมาแล้ว 2 หน คือ 2006 และ 2010 เวลาในสนาม 571 นาทีในบอลโลก รอบสุดท้ายของเมสซี่ ยิงได้แค่ประตูเดียว ขณะที่ 754 นาทีของโรนัลโด้ทำได้แค่ 2 ประตู ซึ่งทำประตูได้น้อยกว่า อาน จุง-ฮวาน กองหน้าเกาหลีใต้ที่ยิงได้ถึง 3 ประตูจากฟุตบอลโลก 2 ครั้งเสียอีก

ดิเอโก้ มาราโดน่า, เปเล่, ซีเนอดีน ซีดาน ยิ่งใหญ่ทั้งในระดับสโมสรและคว้าแชมป์โลกกับทีมชาติมาแล้ว ทำให้นักเตะกลุ่มนี้ดูเหนือกว่าเมสซี่และโรนัลโด้อยู่พอสมควร หรือกระทั่ง แกรี่ ลินิเกอร์ ของทีมชาติอังกฤษ ที่ไม่ใช่ตัวจริงของทีมชาติในฟุตบอลโลก 1986 ที่เม็กซิโก แต่การยิง 6 ประตู คว้าดาวซัลโวในครั้งนั้น ทำให้ชื่อของลินิเกอร์เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

"การจะเป็นนักเตะระดับตำนาน คุณต้องได้สัมผัสการแข่งขันฟุตบอลโลก ซึ่งบางครั้งก็ต้องใช้โชคในการเกิดมาบนประเทศที่มีโอกาสไปแข่งบอลโลกบ่อยๆ การที่คุณได้เป็นนักเตะชั้นยอดในทีมชาติอย่างอาร์เจนตินา อิตาลี เยอรมนีหรืออังกฤษ คุณต้องพิสูจน์ตัวเองในบอลโลก ไม่จำเป็นต้องคว้าแชมป์หรอก แต่แค่ทำผลงานให้เยี่ยมยอดก็เป็นที่จดจำแล้ว" ลินิเกอร์กล่าว

แม้กระทั่งนักเตะเวิลด์คลาสในระดับสโมสรหลายคนก็ยังไม่ ถือเป็นนักเตะระดับตำนานเพราะพลาดโอกาสในการเตะฟุตบอลโลก ไรอัน กิ๊กส์ ตำนานของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่เคยได้ลงเตะในสีเสื้อทีมชาติเวลส์ในฟุตบอลโลก เช่นเดียวกับ จอร์จ เบสต์ ตำนานรุ่นพี่ของกิ๊กส์ในโอลด์ แทรฟฟอร์ด ไม่เคยเล่นฟุตบอลโลกแม้แต่ครั้งเดียวเพราะเป็นชาวไอร์แลนด์เหนือ จอร์จ เวอาห์ เจ้าของบัลลงดอร์ชาวไลบีเรียก็ไม่เคยสัมผัสฟุตบอลโลกเช่นกัน หรือหลายๆ คนที่อยู่ในชาติระดับท็อป แต่ดวงแตกบาดเจ็บจนชวดไปเล่น หรือแม้กระทั่งความติสท์แตกก็ทำให้ไร้วาสนา อย่างกรณีของ แบรนด์ ชูสเตอร์ ยอดนักเตะเยอรมันที่มีปัญหากับสมาคมฟุตบอลเยอรมนี จนต้องประกาศเลิกเล่นทีมชาติก่อนเวลาอันควรก็ทำให้เขาพลาดการจารึกชื่อที่ ชัดเจนกว่านี้บนวงการลูกหนังโลก

ว่าไปแล้ว การได้เล่นในฟุตบอลอย่างยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกก็เป็นเวทีที่ทำให้ชาวโลกได้รู้จักนักเตะคนหนึ่ง แต่ต้องไม่ลืมว่าจำนวนผู้ชมการถ่ายทอดสดแชมเปี้ยนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศ ในปี 2013 ทั่วโลกมีประมาณ 150 ล้านคน แต่ฟุตบอลโลก 2010 รอบชิงชนะเลิศมีจำนวนผู้ชมมากกว่านั้นถึง 6 เท่า

ทุกวันนี้เราสามารถดู ฝีเท้าของนักเตะระดับโลกได้ทุกสัปดาห์จากการถ่ายทอดสด นี่คือเหตุผลที่ทำให้เรารู้ว่าเขามีดีอะไร ในทางกลับกันยุคของเปเล่, มาราโดน่า หรือโยฮัน ครัฟฟ์ การถ่ายทอดสดไม่ได้แพร่หลายขนาดนั้น ซึ่งถ้ามีโอกาสได้เห็นแข้งระดับโลกยุคเก่าทุกสัปดาห์ และได้มองดูความสำเร็จในฟุตบอลโลกไปด้วย การจะบอกว่าเมสซี่-โรนัลโด้เป็นนักเตะที่ดีที่สุดที่โลกเคยมีมานั้น อาจจะไม่ถูกต้องนัก

การตัดสินผลแพ้-ชนะโรนัลโด้ vs เมสซี่ที่ยุติธรรมที่สุด อยู่ที่ฟุตบอลโลกหนนี้ ใครพาทีมชาติคว้าแชมป์ได้ หรือทำผลงานได้ยอดเยี่ยมกว่าก็น่าจะได้รับการันตีแล้วว่า เป็นนักเตะที่ดีที่สุดของทศวรรษนี้ไปครอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook