อีกก้าวเดียวถึงแชมป์!!!
ผ่านมาอีกหนึ่งก้าวสำหรับทัพนักเตะทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์ 2013 หลังจากที่เพิ่งจะเอาชนะ สิงคโปร์ มาได้แบบหวุดหวิด 1 – 0 ในรอบรองชนะเลิศ พร้อมขยับเท้าเข้าสู่รอบชิงฯ ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี
สำหรับการย้ายมาเตะที่นี่ (สนามเซย์ย่า สเตเดี้ยม) เมืองเนปิดอว์ เกมแรกในรอบรองฯ ด้วยการเอาชนะ สิงคโปร์ ได้ก็ถือว่าผลงานน่าพอใจ
สำหรับวันนี้ทีมชาติไทยจัดชุดที่ดีที่สุดลงสนาม แต่ไม่ใช่ชุดใหญ่เพราะ 2 นักเตะตัวหลักอย่าง ปกเกล้า อนันต์ มีอาการบาดเจ็บต้องรอโอกาสที่ข้างสนามเท่านั้น ส่วนอีกคนอย่าง ปกรณ์ เปรมภักดิ์ นี่หนักหน่อยไม่มีชื่อเลยเนื่องจากอาการข้อเท้าพลิกหายไม่ทัน
โดยทีมของ “โค้ชซิโก้” ในระบบ 4 – 3 – 3 วันนี้มี กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ เป็นผู้รักษาประตู กองหลัง 4 คนไล่จากซ้ายมาขวา ธีราธร บุญมาทัน , ประวีญวัชร บุญยงค์ , สกลวัชร สกลหล้า และ อาทิตย์ ดาวสว่าง
กองกลาง 3 คนมี ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ กับ ธนบูรณ์ เกศารัตน์ เป็นตัวสแกนก่อนถึงแนวรับ และมี ชาริล ชัปปุยส์ คอยทำเกมรุกอยู่หลังกองหน้า
และกองหน้า 3 คนทางฝั่งซ้ายเป็นของ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ฝั่งขวา สราวุฒิ มาสุข ได้มาแทนที่ ปกรณ์ และ หน้าเป้าใช้บริการของ อดิศักดิ์ ไกรษร
ในช่วงแรก สิงคโปร์ มาดีเหลือเกินกับการเล่นบอลตามช่องเล่นเอานักเตะไทยตามไม่ทัน แต่หลังจากผ่าน 15 นาทีแรกเกมของไทยเหมือนจะจับจังหวะกันได้แล้ว
ก่อนที่เกมรุกของไทยจะมาสัมฤทธิ์ผลใน น.23 เมื่อมาได้ลูกจุดโทษจากจังหวะโดนกระแทกของ ชับปุยส์ ก่อนที่จะเป็น ประวีณวัช บุญยงค์ กองกลังจอมสังหารยิงเข้าไปและเป็นสกอร์ให้ไทยนำ 1 – 0 จนจบครึ่งแรก
ครึ่งหลังเป็น สิงคโปร์ ทำได้ดีกว่า แต่ต้องชมแนวรับของไทยที่เล่นกันได้อย่างยอดเยี่ยมละมีวินัยมากๆ แม้ในช่วงท้ายจะโดนบดอย่างหนัก แต่ก็ “เอาอยู่” จนในที่สุดก็ได้รับชัยชนะที่ต้องการ
ความสำเร็จในวันนี้ โดยเฉพาะเกมกับ สิงคโปร์ ต้องยกความดีความชอบให้กับ “โค้ชซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยที่จัดการเกมรุกของ “ลอดช่อง” ได้อยู่หมัดจริงๆ
ภาพรวมเกมวันนี้ต้องชม “โค้ชซิโก้” ที่จัดตัวได้ค่อนข้างดี โดยเฉพาะการดัน ชัปปุยส์ ให้ขึ้นไปเล่นหลังกองหน้าคล้ายๆ มิดฟิลด์ตัวทำเกม ทำให้เราได้ประโยชน์เยอะเลยเห็นได้จากจังหวะที่ได้จุดโทษที่ ชัปปุยส์ วิ่งลุยเดี่ยวเข้าไปเล่นบอล เพราะจริงๆ แล้วตำแหน่งของลูกครึ่งไทย – สวิตฯ รายนี้คือตัวทำเกม เหมือนช่วงที่เล่นให้กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
เท่านั้นยังไม่พอเห็นได้ชัดว่า “โค้ชซิโก้” มั่นใจในแผงหลัง 4 คนนี้มากเมื่อจัดการใส่แผนล้างใบเหลืองในเกมกับเมียนมาร์ จนทำให้เกมนี้ทุกคนใส่กันเต็มที่มาก ไม่มีกลัวจังหวะ 50-50 เลย เพราะต่อให้ได้ใบเหลืองเกมนี้นัดต่อไปในรอบชิงก็ยังลงเล่นได้แน่นอน
บทสรุปในเกมกับ สิงคโปร์ ในวันนี้คงจะไม่ใช่คำตอบสุดท้ายที่แฟนบอลชาวไทยทุกคนรอติดตาม เพราะยังเหลืออีก 1 เกมที่ในวันที่ 21 ธ.ค.กับคู่ปรับเก่าอย่าง อินโดนีเซีย ในรอบชิงชนะเลิศรออยู่
แต่ชัยชนะในวันนี้คือก้าวที่สำคัญของนักเตะทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ที่ต่างพิสูจน์ให้แฟนบอลชาวไทยเห็นแล้วว่าทำไมทีมชุดนี้คือถึงควรเป็นตัวแทนชาวไทยมาเล่นที่เมียนมาร์
และอีกเพียงก้าวเดียวพวกเขาก็จะทำให้คอบอลไทยพูดได้เต็มปากอีกครั้งว่าเราคือเจ้าอาเซียน