BEST & WORST : ยอดเยี่ยม-ยอดแย่ ฟุตบอลโลก 2018
ได้บทสรุปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับฟุตบอลโลก 2018 เป็นทีมชาติฝรั่งเศส ประกาศศักดาคว้าแชมป์ได้สำเร็จ หลังจากเอาชนะทีมชาติโครเอเชียไปได้ 4-2 คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยที่ 2 ได้สำเร็จ
ส่วนโครเอเชียที่เป็นม้ามืดประจำทัวร์นาเมนต์นี้ พวกเขามาไกลที่สุดได้แค่เพียงอันดับที่ 2 เท่านั้น และนี่คือการจัดอันดับยอดเยี่ยม-ยอดแย่ ประจำฟุตบอลโลก 2018
BEST MOMENT - ตราไก่ผงาดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกครั้งที่ 2
การคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยที่ 2 ของฝรั่งเศส เป็นการคว้าแชมป์โดยที่ตลอดทั้งทัวร์นาเมนท์ พวกเขาไม่แพ้ทีมใดเลย และแท็คติคอันยอดเยี่ยมของ ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ ที่ตั้งรับอย่างเหนียวแน่นและสวนกลับอย่างเฉียบคม ทำให้พวกเขาไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ หลังจากอกหักจากการคว้าแชมป์ยูโรเมื่อ 2 ปีที่แล้ว มาในครั้งนี้พวกเขาแก้ตัวได้สำเร็จ
WORST MOMENT - เนย์มาร์ กับรางวัลตุ๊กตาทอง
มีสถิติออกมาว่า เนย์มาร์ นอนบนพื้นสนามในฟุตบอลโลก 2018 ไปเกือบๆ 14 นาที รวมถึงในเกมกับสวิตเซอร์แลนด์ มีจังหวะที่เนย์มาร์นั้นโดนเสียบและเจ้าตัวนั้นกลิ้งไปหลายตลบ ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ และกระแสที่เกิดขึ้นในโลกโซเชียลมีเดีย ว่าซูเปอร์สตาร์ชาวแซมบ้าผู้นี้ กำลังเล่นฟุตบอลหรือกำลังแสดงภาพยนตร์กันแน่
BEST PLAYER - ลูก้า โมดริช (โครเอเชีย)
กองกลางกัปตันทีมที่เป็นทุกอย่างของทีมชุดนี้ การที่ทีมชาติม้ามืดอย่างโครเอเชียไปได้ไกลถึงรอบชิงชนะเลิศ ต้องยอมรับว่าเขาเป็นกลไกสำคัญของทีมอย่างแท้จริง ซึ่งรางวัลลูกบอลทองคำหรือผู้เล่นยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์ก็ตกเป็นของเขาไปแบบไม่มีใครคัดค้าน
WORST PLAYER - เมซุท โอซิล (เยอรมัน)
โอซิลถูกวางเป็นกำลังหลักเหมือนกับ 4 ปีที่แล้วที่ทีมอินทรีเหล็กได้แชมป์โลก แต่คราวนี้กลับต่างออกไป ทั้งปัญหาทางด้านการเมืองที่เขาไปพบกับผู้นำของประเทศตุรกีก่อนเริ่มทัวร์นาเมนท์ นี่อาจเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้เมซุท โอซิล ไม่สามารถพาทีมชาติเยอรมันไปถึงฝั่งฝัน พร้อมกับตกรอบแรกฟุตบอลโลกด้วยอันดับสุดท้ายของกลุ่มไปแบบน่าอับอาย
BEST GOAL - เบนจาแม็ง ปาวาร์ (ฝรั่งเศส)
แบ็กขวาชาวฝรั่งเศสที่แจ้งเกิดได้เต็มตัวจากทัวร์นาเมนต์นี้ ประตูของนี้ช่วยให้ทีมตราไก่ตีเสมออาร์เจนติน่าเป็น 2-2 ก่อนที่ทีมของเขาจะแซงเอาชนะทีมฟ้าขาวไป 4-3 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งต้องบอกว่าการวอลเลย์ด้วยข้างเท้าด้านนอกของเขาประตูนี้ สวยงามจนเรายกให้เป็นประตูสุดสวยประจำทัวร์นาเมนต์ไปเลย
WORST GOAL - มาริโอ มานด์ซูคิซ (โครเอเชีย)
เกิดจากความผิดพลาดของฮูโก ยอริส ที่พยายามจะล็อกหลบมาริโอ มานด์ซูคิซ หน้าปากประตูของตนเอง แต่โดนกองหน้าโครแอตสกัดบอลเข้าประตูไป เป็นประตูจุดประกายความหวังให้โครเอเชียไล่มา 2-4 ในนัดชิงชนะเลิศ และเป็นประตูสุดท้ายที่เกิดขึ้นในฟุตบอลโลกครั้งนี้อีกด้วย
BEST MATCH - ฝรั่งเศส 4-3 อาร์เจนติน่า (รอบ 16 ทีมสุดท้าย)
ทั้งสองชาตินั้นเป็นทีมใหญ่ มีผู้เล่นที่มีชื่อเสียงอยู่ในทีมมากมาย โดยทีมตราไก่และฟ้าขาวต้องโคจรมาพบกันในรอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยรูปเกมนั้นผลัดกันนำผลัดกันตาม ก่อนสุดท้ายจะเป็นทีมตราไก่ ที่เบียดชนะไปแบบสนุก 4-3 เป็นเกมที่สนุกตื่นเต้นที่สุดเกมหนึ่งในฟุตบอลโลกครั้งนี้
WORST MATCH - สวีเดน 1-0 เกาหลีใต้ (รอบแบ่งกลุ่ม)
เป็นเกมที่ทั้งเกมมีโอกาสทำประตูกันน้อยมาก โดยเฉพาะฝั่งเกาหลีใต้ที่ทั้งเกมมีโอกาสยิงแค่ 2 ครั้ง ซึ่งไม่ตรงกรอบเลย ส่วนสวีเดนประตูชัยที่ได้นั้นก็มาจากจังหวะจุดโทษ ซึ่งถ้าตัดจังหวะนี้ออกไป เรียกได้ว่าเกมนี้เป็นอีกเกมประจำฟุตบอลโลกครั้งนี้ที่ชวนคนดูง่วงที่สุดเลยก็ว่าได้
BEST TEAM - โครเอเชีย
ถึงแม้ว่าทีมตาหมากรุกจะไปไม่ถึงฝั่งฝันแชมป์โลกที่พวกเขาหวังเอาไว้ หลังพ่ายแพ้ไปในนัดชิงต่อฝรั่งเศส 2-4 แต่ฟอร์มการเล่นของพวกเขานั้นถือว่ามาได้ไกลเกินกว่าที่หลายๆคนคาดไว้ ซึ่งก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ พวกเขาไม่ใช่ทีมที่เป็นตัวเต็ง ดังนั้นการที่พวกเขามาถึงจุดนี้ได้ถือเป็นทีมที่โชว์ฟอร์มได้ดีที่สุดทีมนึงประจำทัวร์นาเมนต์
WORST TEAM - เยอรมัน
ด้วยดีกรีแชมป์เก่าของพวกเขา การมาฟุตบอลโลกครั้งนี้ของทีมอินทรีเหล็กจึงมาด้วยความคาดหวังที่จะป้องกันแชมป์โลกให้ได้ แต่ฟอร์มของพวกเขาในทัวร์นาเมนต์นี้กลับย่ำแย่ โดยพวกเขาตกรอบแบ่งกลุ่มไปแบบเป็นอันดับสุดท้ายของกลุ่มแบบช็อกโลก ทำให้พวกเขากลายเป็นทีมทำผลงานได้น่าผิดหวังที่สุดในฟุตบอลโลกครั้งนี้
>>> อ่านข่าวเต็มที่นี่ <<<