ปฎิบัติการปราบอิเหนา!!!
หลังจากที่ผ่านมาทั้งหมด 4 นัดในรอบแรกเราชนะ 2 นัด ( ติมอร์ฯ 3 – 1 , อินโดฯ 4 - 1) เสมอ 2 นัด ( เมียนมาร์ 1 – 1 และ กัมพูชา 0 – 0 ) พร้อมส่งให้ไทยเข้ารอบสู่รอบรองชนะเลิศในฐานะอันดับ 1 ของกลุ่มบี
ส่วนในรอบรองฯ เราโคจรมาพบกับ สิงคโปร์ ซึ่งถือว่าไม่ใช่งานเบาเหมือนกัน แต่แล้วในที่สุด “ช้างศึก” ก็ทำสำเร็จอีกขั้นด้วยการเอาชนะไปได้ 1 – 0 จากจุดโทษของ ประวีณวัช บุญยงค์ ที่ยิงเข้าในนาทีที่ 23 พร้อมส่งให้ไทยเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ
ซึ่งคู่ต่อกรในครั้งนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนได้แก่ “อิเหนา” ที่เคยเจอกันมาแล้วในรอบแรกและเราก็เอาชนะมาได้ 4 – 1 ซึ่งถือได้ว่าขาดลอยพอสมควร แต่ทั้งหมดก็เป็นแค่อดีตไปแล้ว และต้องมาว่ากันใหม่ในวันพรุ่งนี้ ( 21 ธ.ค.) สนามก็เปลี่ยนมาเป็น “เซยาร์สเตเดี้ยม” ด้วยในเวลา 20.00 น.ตามเวลาประเทศไทย
คราวนี้เราจะมาลองวิเคราะห์ความน่าจะเป็นในทีมของ “โค้ชซิโก้” หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยว่าจะจัดชุดไหนลงสนาม
ถ้าในความเชื่อของผมคือระบบเดิม 4-3-3 น่าจะเป็นทีมที่เวิร์คที่สุดในเวลานี้ โดยมี กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ เป็นผู้รักษาประตู
กองหลัง แบ็กขวา อาทิตย์ ดาวสว่าง, แบ็กซ้าย ธีราธร บุญมาทัน, เซ็นเตอร์ฮาฟล์ ประวีณวัช บุญยงค์ และ สกลวัชร สกลหล้า
กองกลาง ชาริล ชัปปุยส์ น่าจะขยับมาเล่นในตำแหน่งเดิมร่วมกับ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ อีกครั้งในตำแหน่งมิฟิลด์ตัวรับ ส่วนตัวรุกเป็นหน้าที่ของ ปกเกล้า อนันต์ ที่กลับมาฟิตสมบูรณ์อีกครั้ง
และ 3 ประสานในแดนหน้า เริ่มที่ทางฝั่งซ้าย เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ฟอร์มจัดจ้านเหลือเกิน ส่วนฝั่งขวา ปกรณ์ เปรมภักดิ์ จะได้กลับมาประจำการอีกครั้งหลังเร่งความฟิตจนลงเล่นได้ และหน้าเป้ายังคงเป็น อดิศักดิ์ ไกรษร หัวหอกตัวความหวังเหมือนเดิม
ขยับมาดูทาง อินโดนีเซีย ของเฮดโค้ช ราห์หมัด ดาร์มาวาน คงจะส่งตัวหลักๆ อย่างพวก เอกิ เมลเกียนไซอาห์, ดิเอโก มิซิเอล แบ็กซ้ายลูกครึ่งโปรตุกีส, แอนดริก เวอร์มานซาร์ เจ้าของฉายา "ลิโอเนล เมสซี่ อินโด" และทีเด็ดในเกมรุกอย่าง บายู กาตร้า ซานเกียวาน ลงสนามแน่นอน
เกมแรกที่เราชนะ 4 -1 ความแตกต่างในวันนั้นคือเราได้ประตูนำเร็ว ซึ่งเหมือนบังคับให้อินโดฯ ต้องบุก ทำให้เรามีพื้นที่เล่นเยอะ และประตูที่ได้มาก็มาจากการโต้กลับ ซึ่งวันนั้นเราจบสกอร์ได้ “เป๊ะมาก”
แต่ในวันพรุ่งนี้เกมคงจะออกมาอีกรูปแบบหนึ่งแน่นอน เพราะ “โค้ชซิโก้” น่าจะรู้ดี และใช้ความได้เปรียบในเรื่องความสดนักเตะเข้าสู้ เพราะอินโดฯ ใส่กับ มาเลเซีย มาเต็มแม็กช์ 120 นาที ซึ่งถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดทุกๆ คนจะได้เห็นไทยเล่นเกมบุกตั้งแต่นาทีแรกแน่นอน
และถ้าหากทุกอย่างเข้าทาง เราได้ประตูขึ้นนำเหมือนเกมแรก เกมจะเป็นเหมือนวันที่เราเอาชนะเขามาแล้วแน่นอน ซึ่งคำตอบทั้งหมดจะได้รับในวันพรุ่งนี้
ผมในฐานะแฟนบอลชาวไทยและคนไทยที่อยู่ที่นี่เอาใจช่วยสุดๆ กับทีมฟุตบอลทีมนี้ และขอให้คำพูดของ “โค้ชซิโก้” ที่ว่า “เดี๋ยวเรามาร่วมสร้างประวัติศาสตร์พร้อมๆ กัน” ให้เป็นจริงด้วยครับ
เจษดาพร