ผ่าโหวต บัลลงดอร์ 2013
ฟุตบอล : ในที่สุด การประกาศรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมที่วุ่นวายที่สุดในโลก ก็หาผู้ชนะได้เสียที!!
หลายท่านน่าจะทราบกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกเจาะหูของ เรอัล มาดริด เป็นผู้คว้ารางวัลฟีฟ่า บัลลงดอร์ 2013 ประเภทนักฟุตบอลชายยอดเยี่ยมแห่งปีไปครองเป็นที่เรียบร้อย
ด้วยคะแนนโหวตอันงงงวย บวกกับความฮอตของเจ้าตัวในช่วงท้ายปีที่ผ่านมา ทำให้เจ้าตัวซิวลูกบอลทองคำไปเป็นสมัยที่ 2 ได้สำเร็จ ถามว่าเหมาะไหม? ผมว่ามันก็ยุติธรรมดี
"เราทั้ง 3 คนมีปีที่ยอดเยี่ยม ฉะนั้นไม่ว่าใครได้รางวัลไปก็เหมาะสมทั้งสิ้น" นี่เป็นคำพูดที่ ลิโอเนล เมสซี่ กล่าวไว้หลังจากงานกาล่าเสร็จสิ้นแล้ว
อย่างที่ ลิโอเนล เมสซี่ มันพูดก็ถูกครับ ใครใน 3 คนนี้จะได้รางวัลไป ก็ไม่แปลก เพราะทั้งหมดมีดีต่างกัน อย่างที่ผมได้เกริ่นๆ ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว "โด้ 400 ลูก, เมสซี่ ฟอร์มโหดตลอด 4 ปี และฟร้องค์ ริเบรี่ เป็นแชมป์ 4 รายการในปีเดียว (ไม่นับ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ)" ความโดดเด่นมันพอๆ กันเลยครับ แล้วแต่มุมมองของผู้คนแล้วหละ ว่าจะตั้งค่าของรางวัลอันทรงเกียรตินี้ไว้ในด้านไหน บุคคล หรือทีม
ถ้ามองกันไปในแง่ของรางวัลบุคคล "โด้" ผู้ทำ 53 ลูก จากการลงสนาม 44 นัด โอกาสยิงต่อเกม 7.1 ครั้ง เขาก็คู่ควรกับมันแล้ว หลังจากอกหักมาตลอด 4 ปีซ้อน เพราะคงไม่มีใครยิงประตูได้ระเบิดเถิดเทิงเท่าไอ้ขี้เก๊กรายนี้อีกแล้วแหละ
สถิติส่วนตัวบ่งบอกว่า เมสซี่ คงเส้นคงวาที่สุดแต่ก็เฉือนกันนิดเดียว
แต่ถ้าชอบนักเตะที่เล่นเป็นทีมมากกว่า ก็ต้องยกให้ ริเบรี่ กับ เมสซี่ ล่ะครับ และถ้าเทียบด้วยความสำเร็จที่ บาเยิร์น มิวนิค ได้มา ริเบรี่ สมควรจะได้รางวัลมากกว่า เมสซี่ อยู่นิดหน่อย แต่ยังไงการโหวตแบบนี้มันก็คือการโหวตครับ เหมือนกับรายการเรียลิตี้บ้านเรา ที่ใครร้องดีขนาดไหน ก็แพ้ความหล่อของหนุ่มๆ ที่สาวๆ รุ่นน้อยใหญ่พร้อมใจกันให้พวงมาลัยเป็นแสน!!
สีหน้าตอนประกาศรางวัล โด้โล่ง, เมสซี่จ๋อยๆ, ริเบรี่ เซ็งอย่างเห้นได้ชัด
สิ่งที่น่ากลัวสำหรับการได้รับรางวัลใดๆ แล้วมันมีสถิติออกมาภายหลัง อย่างที่ผมจะหยิบยกมา "โกล ดอท คอม" สื่อฟุตบอลออน์ไลน์ ได้หยิบยกผลการโหวตเฉพาะ "นักข่าว" ล้วนๆ ไม่รวมกัปตันและเทรนเนอร์ทีมชาติ เหมือนสมัยก่อนที่ยังไม่ได้ถูกรวมกับสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) นั้น ผู้ที่จะได้รับรางวัลกลับไม่ใช้ โรนัลโด้ แต่อย่างใด!!
แต่มันกลับกลายเป็นของ ฟร้องค์ ริเบรี่ ผู้ขึ้นทำเนียบขวัญใจผู้สื่อข่าว ถ้าเป็นการประกวดนางงาม ก็เรียกว่ารางวัล "ขวัญใจช่างภาพ" ละกัน...
ผลคะแนน 80 คนโหวตให้ "หน้าบาก" ส่วนเจ้าของรางวัลอย่างแท้จริงนั้นได้ไปเพียง 48 คะแนน ตามมาด้วยเจ้าของสูทแดงแรงฤทธิ์ ได้คะแนนไปเป็นจำนวน 31 โหวต
ฟอร์มสดๆ ของ ริเบรี่
ซึ่งชื่อของ ริเบรี่ นั้นก็อยู่ในลิสต์ 1 ใน 3 ของนักข่าวถึง 135 คน ซึ่งมากกว่า โรนัลโด้ (127) และเมสซี่ (123) อยู่ดี
นั่นแปลว่า โรนัลโด้ ไม่สมควรได้รางวัลงั้นเหรอ??
มันก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ จะว่าไปก็เป็นปัญหาโลกแตกที่ไม่มีใครคิดถูกคิดผิด มันก็แล้วแต่คนมองจริงๆ แต่สิ่งที่ผมหยิบยกมา คือผู้สื่อข่าวเขาชื่นชอบ ริเบรี่ มากกว่าก็เท่านั้นเอง
น่าสนใจนะครับ เพราะมันเหมือนกับเหตุการณ์ปี 2010 ที่ เวสลี่ย์ สไนเดอร์ เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับทั้งต้นสังกัด (อินเตอร์ มิลาน) และทีมชาติ แต่ในปีนั้น เมสซี่ กลับคว้ารางวัลไปได้ ซึ่งมานั่งนับการโหวตของนักข่าวเหมือนในครั้งนี้ แข้งเก๋าจาก กาลาตาซาราย ก็เข้าป้ายคว้ารางวัล "ขวัญใจช่างภาพ" ไปเช่นกัน
ฟอร์มสดๆ ของ เมสซี่
ริเบรี่ และสไนเดอร์ นั้นกลายเป็นนักเตะที่น่าสงสารมากครับ เพราะอย่างที่นักเตะเลือดเฟร้นช์ ได้กล่าวไว้เมื่อปีที่แล้วว่า เขาคงไม่มีทางเข้ามาใกล้รางวัลนี้ได้อีกแล้ว หากไม่สามารถคว้ามันมาชมเชยในปีนี้ได้ และจะสังเกตุเห็นว่าตั้งแต่ 4 ปีที่แล้วมาถึงตอนนี้ เวสลี่ย์ ก็ไม่ได้เข้าใกล้รางวัลนี้อีกเลยเช่นกัน แต่นักเตะที่อายุไล่เลี่ยกันอย่าง ชาบี เอร์นานเดซ กลับมีเอี่ยวในทุกๆ ปีแม้จะดรอปลงไปจากเดิมก็ตาม
ไม่รู้ว่าต่อจากนี้จะมีนักเตะอาภัพแบบนี้อีกสักกี่คน...
ส่วนคะแนนการโหวตของตัวกัปตันและเฮ้ดโค้ช เรียกได้ว่าส่วนใหญ่ก็เล่นพรรคเล่นพวกกันเต็มที่ล่ะครับ เหมือนที่ทราบๆ กันดี พูดกันตามตรงว่าเป็นใครได้โอกาส ก็ต้องเลือกนักเตะที่เรารู้จักอยู่แล้ว ใครจะมาทำหล่อ พิจารณาอย่างเป็นกลางมันก็คงใช่เรื่อง พาลจะถูกเพื่อนเขม่นเอาเปล่าๆ
ตัว เมสซี่ ในฐานะกัปตันอาร์เจนติน่า เองก็ไม่มีทางเลือก โรนัลโด้ หรือ ริเบรี่ เป็นเบอร์หนึ่งอยู่แล้ว เลยจัดการใส่ชื่อ อันเดรส อิเนียสต้า ไปซะเลย เช่นเดียวกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หัวหน้าทีมโปรตุเกส ให้โดนปืนจี้หลังก็ไม่เลือก เมสซี่ หรือ ริเบรี่ เจ้าตัวเลยจัดการเขียนชื่อ ราดาเมล ฟัลเกา ลงไปซะงั้น
นี่ยังไม่นับรวมประเทศเล็กๆ ที่ได้รับโอกาสเลือกอีกนะครับ อย่างบ้านเรา โค้ชง้วน สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ ที่เป็นกุนซือทีมชาติไทยในช่วงที่โหวต ก็ให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ มาเป็นที่หนึ่งบุคคลควรคว้ารางวัล ซึ่งแน่นอนว่าน่าจะเป็นความชอบส่วนตัวล้วนๆ !!!
ผลโหวตมันก็เป็นแบบนี้ล่ะครับ มันไม่ใช่รางวัลที่วัดกันด้วยสถิติ มันวัดกันด้วยจิตใจล้วนๆ ความชื่นชอบส่วนตัว และเป็นความเชื่อส่วนบุคคล (โปรดใช้วิจารณญาณ ในการรับชม)
ดูเอาว่าใครโหวตให้ใครบ้าง
คุณผู้อ่านคงมีนักเตะที่ชื่นชอบกันอยู่ในใจ ซึ่งก็สามารถวิจารณ์กันได้ว่ารางวัลในปีนี้เหมาะสมหรือไม่ ซึ่งสำหรับตัวผมแล้วใครจะได้นั้นก็เหมาะสมอย่างที่สุดล่ะครับ
ก่อนจบมีคำถามจะถามทุกๆ ท่านว่า แกเร็ธ เบล นักเตะค่าตัวแพงสุดในโลก หายไปไหน??
P.D.