เพราะคุณคือ หลุยส์ ซัวเรซ

เพราะคุณคือ หลุยส์ ซัวเรซ

เพราะคุณคือ หลุยส์ ซัวเรซ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฟุตบอล : ประเด็น talk of the town พรีเมียร์ลีก สัปดาห์นี้ไม่ได้อยู่ที่ แมนฯยูไนเต็ด แพ้อีกแล้ว และเป็นนัดที่ 7 ในฤดูกาล และตามหลังจ่าฝูง อาร์เซนอล 14 คะแนน

หนำซ้ำ ผมว่า แฟนผี "เริ่มชิน" แล้วล่ะครับ ขณะที่ก่อนเกม หากดูราคาต่อรองที่เกิดขึ้น และสัดส่วนคนที่ "ถือหาง" เชลซี ผมก็เชื่อว่า แมนฯยูฯ บุกแพ้เชลซี 1 - 3 ไม่ใช่เรื่องแปลก หรือเกินความคาดหมายแม้แต่น้อยครับ

ขณะที่ ประเด็น "เว่อร์ ๆ" ในความรู้สึกของผมจากการติดตามข่าวบอลทั้งบ้านเรา และที่อังกฤษ เฉพาะอย่างยิ่งแดนผู้ดีที่ "ขึ้นปก" และพาดหัวอยู่ในหน้ากีฬาทุกฉบับก็คือ กรณี หลุยส์ ซัวเรซ ถูกแบรด คูซาน พุ่งมาสัมผัสล้มลงในกรอบเขตโทษ

จังหวะดังกล่าว เชิ้ตดำ โจนาธาน มอสส์ ไม่ได้ให้ "ใบเหลือง" คูซาน นายทวารวิลล่า แต่ให้ "จุดโทษ" ลิเวอร์พูล และมองว่า ซัวเรซ ถูกฟาล์วจริง

ผมเชื่อว่า คอบอลพันธุ์แท้ทุกคนไม่น่าพลาดได้ชม "คลิป" ดังกล่าว และคงมีความเห็นหลากหลายพอควรนะครับ

เพราะระดับ คอมเมนเตเตอร์ผู้ดี, คอลัมนิสต์ หรือผู้สื่อข่าว ก็ยังออกมาแสดงความเห็นกันอย่างกว้างขวาง สแตน คอลลีมอร์ อดีตกองหน้าลิเวอร์พูลเอง (และเคยเล่นให้ วิลล่า ด้วย) "เห็นต่าง" และทะเลาะกับ แกรี่ ลินิเกอร์ ทาง "ทวีตเตอร์" จนแทบระเบิด

แน่นอน พอล แลมเบิร์ด ก็ไม่เห็นด้วย แต่รวม ๆ แล้ว เสียงส่วนใหญ่มองว่า จังหวะนี้เป็นการฟาล์ว และ "จุดโทษ" จริงครับ

คำถามที่ตามมา คือ คำว่า "Honest" หรือซื่อสัตย์ ของผู้เล่นว่ามีจริง หรือมีระดับไหน?

อลัน แฮนเซ่น กล่าวในรายการ "แมตช์ ออฟ เดอะ เดย์ 3" ครับว่า ผม และกองหลังทุกคนในโลกคงไม่เดินไปบอกกรรมการว่า อาจารย์! ผมสกัดพลาด ลูกนี้ฟาล์วนะครับ หลังจากกรรมการไม่ให้จุดโทษกองหน้าที่ตัวเองเพิ่งสกัดล้มลงไป

แพท เนวิน อดีตปีกพ่อมดทีมชาติสกอตต์ก็เช่นกันที่เปรยว่า หากผมโดนสกัด และสามารถล้มได้ในเขตโทษก็คงต้องทำ มิฉะนั้นเดินออกมานอกสนาม ผู้จัดการทีมคงเล่นงานผมตายแน่ ๆ โทษฐาน ไม่ยอมล้ม

ที่สุดแล้วก็นำมาซึ่ง อีก 1 ประโยคคลาสสิคที่ว่า "ถ้ามันมีการสัมผัสตัวเกิดขึ้น แล้วผู้เล่นล้มลง ยังไงมันก็ฟาล์ว"

ครับ สถานนี้ ซัวเรซ "ล้มง่าย" ก็จริงอยู่ หรือไม่ต้องล้มก็ได้เพื่อเอาฟาล์ว และสร้างสถานการณ์ "จุดโทษ" ให้กับทีม

แต่ "ต้นเหตุ" อยู่ที่ แบรด คูซาน ที่ทะเล่อทะล่า และซุ่มซ่ามพุ่งเข้ามาแบบไม่ระวังด้วยความเร็ว และโมเมนตัมสูงบนพื้นสนามที่ฉ่ำน้ำ

ต้องชม เจอร์ราร์ด กับลูกเปิดยาว 40 หลาด้วยไหม? และต้องชม "เฟิร์สทัช" ดาวเตะอุรุกวัยที่สร้างสรรค์พื้นที่ และความได้เปรียบให้ตัวเค้ามีเหนือทั้งกองหลัง และคูซาน ด้วยใช่ไหม?

ที่สุดแล้วก็คือ มีส่วนหนึ่งส่วนใดของ คูซาน สัมผัสขาซัวเรซ จริง และหลังจากเหตุการณ์นี้ โกล์อเมริกัน ยังยกมือยกไม้อันเป็น "body language" ที่ปฏิเสธความผิด แต่กรรมการมักมองว่า ผิดแล้วไขสือ

เหตุการณ์นี้ ยังอาจจะถูกมองเป็นอีกประเด็นได้ว่า จอน รอสส์ ตัดสินถูกต้องหรือไม่ที่ให้จุดโทษ!?

แต่คนทั่วโลก ไม่ได้ตั้งคำถามนี้ แต่กลับตั้งคำถามในอีก "มิติ" ว่า ซัวเรซ พุ่งล้มหรือไม่? ทดแทน

สุดท้าย หากคูซาน ไม่โดนตัวซัวเรซเลย แล้วดาวเตะอุรุกวัยล้มลง

มันก็จบแหละครับว่า "พุ่งล้ม" แต่นี่โดนตัว และจอน รอสส์ ก็เป่าจุดโทษไปแล้ว และเป่าทันที

ถ้าคุณเป็นซัวเรซ คุณจะทำอย่างไร?

ก.พยายามไม่ล้ม และโดนรอดเจอร์ส กับแฟนหงส์ "แอบด่า" ว่า ทำให้ทีมพลาดโทษ และถึงแพ้ ทั้งที่โดนสัมผัสตัวจนเสียจังหวะ ทำให้หมดโอกาสทำประตู

ข.ล้มแบบที่เกิดขึ้น แต่เดินไปบอก จอน รอสส์ ว่า ผมโดนสกัดนิดเดียว และล้มง่ายไป อย่าเป่าเป็นลูกโทษเลยครับ

ค.ทำแบบซัวเรซเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

ช่วยตอบแบบ "ซื่อสัตย์" ต่อตัวเองด้วยนะครับ :)

ปล.จริง ๆ แล้ว หากมองเป็นกลาง ซัวเรซ ปรับพฤติกรรมการ "ล้มง่าย" ได้ดีขึ้นแล้ว แต่ยี่ห้อ "ขี้พุ่ง" ยังปะอยู่เต็มหน้า ดังนั้นไม่ว่าถูก หรือผิด ดาวเตะอุรุกวัยก็จะโดนแบบนี้แหละครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook