ประวัติกีฬาเอเชียนเกมส์
เอเชียนเกมส์ (Asian Games) เป็นมหกรรมกีฬาที่ใหญ่ที่สุดของทวีปเอเชีย โดยจะจัดการแข่งขันทุกๆ 4 ปี
กีฬาเอเชียนเกมส์ ถือกำเนิดมาจากการจัดแข่งขันกีฬา "แชมเปี้ยนแห่งภาคตะวันออกไกล" (Far Eastern Championship Games) โดยบุคคลกลุ่มหนึ่งในภาคพื้นเอเชีย แต่การแข่งขันก็ได้เลิกราไปด้วยสภาพปัญหาทางการเมืองและเศรษฐกิจในขณะนั้น
ต่อมาปี พ.ศ. 2490 การแข่งขันกีฬาระหว่างประเทศในภาคพื้นเอเชียก็ได้เกิดขึ้นภายใต้ชื่อของการแข่งขันว่า "เอเชียนเกมส์" ซึ่งเป็นความคิดริเริ่มของ ดร.จี. ดี. สนธิ (Dr.G.D.Sondhi) คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศอินเดีย
ทั้งนี้โดยมีความเห็นว่า จากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกทุกครั้งที่ผ่านมา ประเทศในแถบเอเชียมีโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันน้อยมาก เนื่องจากนักกีฬาเอเชียมีความเสียเปรียบนักกีฬาจากประเทศยุโรปและอเมริกา ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหรือมาตรฐานการกีฬา จึงคิดที่จะยกระดับมาตรฐานการกีฬาของประเทศในกลุ่มเอเชียให้ได้มาตรฐานทัดเทียมกับนักกีฬาในกลุ่มประเทศยุโรปและอเมริกา
โดยเฉพาะประการสำคัญที่สุดคือสานสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศในภาคพื้นเอเชีย เนื่องจากในช่วงเวลานั้นประเทศในกลุ่มเอเชียหลายประเทศ มีความแตกต่างกันในทางเศรษฐกิจและความคิดเห็นทางการเมือง
กระทั่งในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2491 จึงสามารถจัดตั้ง สหพันธ์กีฬาแห่งเอเชีย ได้ด้วยความร่วมมือกันของ อินเดีย จีน เกาหลี พม่า ฟิลิปปินส์และศรีลังกา ตามมาด้วยประเทศในกลุ่มเอเชียอื่นๆ อีก ในปี พ.ศ.2492 ซึ่งประเทศไทยได้เข้าร่วมสังเกตการณ์เป็นครั้งแรก เอเชียนเกมส์ จึงถือกำเนิดขึ้นอย่างเป็นทางการนับ แต่นั้นเป็นต้นมา พร้อมกับกำหนดการแข่งขันทุกๆ 4 ปี ในช่วงกึ่งกลางของกีฬาโอลิมปิก โดยให้ทุกประเทศ ผลัดกันเป็นเจ้าภาพตามลำดับตัวอักษร และถึงแม้ไทยจะเข้าร่วมเป็นสมาชิกช้ากว่าประเทศอื่นๆ แต่ก็น่าภูมิใจไม่น้อยที่ไทยได้รับเลือกให้เป็น เจ้าภาพมากที่สุดถึง 4 ครั้งจากการจัดการแข่งขัน ทั้งหมด 17 ครั้ง ที่ผ่าน
ทั้งนี้ตลอดการแข่งขันที่จัดมา 17 ครั้งที่ผ่านมา มีเพียงแค่ 2 ประเทศเท่านั้นที่ได้ครองความเป็นเจ้าเหรียญทอง โดย ญี่ปุ่น ได้เจ้าเหรียญทองในครั้งที่ 1-8 ส่วนตั้งแต่เอเชียนเกมส์ครั้งที่ 9 มาจนถึงครั้งล่าสุด ครั้งที่ 18 ประเทศจีน ครองความเป็นเลิศในการยึดบัลลังก์เจ้าเหรียญทองมาโดยตลอด
- เอเชียนเกมส์ครั้งที่ 18
กีฬาเอเชียนเกมส์ 2018 ที่ประเทศอินโดนีเซีย รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ จะแข่งขันในระหว่างวันที่ 18 สิงหาคม ไปจนถึง 2 กันยายน พ.ศ. 2561 โดยเป็นการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 18
ชื่อที่เป็นทางการ "กีฬาเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 18" หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ "จาการ์ตา ปาเล็มบัง 2018" เป็นมหกรรมกีฬานานาชาติที่สำคัญ ที่สุดในทวีปเอเชีย ควบคุมโดยสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย ซึ่งจัดขึ้นในกรุงจาการ์ตา และ เมืองปาเล็มบัง ประเทศอินโดนีเซีย
ประเทศอินโดนีเซียได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพกีฬาเอเชียนเกมส์อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2557 ในการประชุมสามัญแห่งสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย สมัยที่ 33 ณ เมืองอินช็อน ประเทศเกาหลีใต้ กรุงจาการ์ตาเคยเป็นเจ้าภาพมา 1 ครั้ง คือ กีฬาเอเชียนเกมส์ 1962 (พ.ศ. 2505) ซึ่งครั้งนี้ กรุงจาการ์ตาเป็นเมืองที่ 3 ที่ได้จัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์มากกว่า 1 ครั้ง และ เมืองปาเล็มบังเป็นเมืองที่อยู่นอกเขตเมืองหลวงเมืองที่ 5 ที่ได้จัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์
- สัญลักษณ์การแข่งขัน
สัญลักษณ์ประจำการแข่งขันเอเชียนเกมส์ 2018 (โลโก้) ได้ถูกเปิดเผยครั้งแรกในวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2558 ระหว่างการเฉลิมฉลองวันกีฬาแห่งชาติ สัญลักษณ์แบบแรกมีลักษณะคล้ายกับ นกปักษาสวรรค์ ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่พบได้ยากในประเทศอินโดนีเซีย
ในเดือนมกราคม 2559 คณะกรรมการจัดการแข่งขันได้ยกเลิกสัญลักษณ์แบบแรกไป หลังจากถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในเรื่องความทันสมัย และลักษณะของสัญลักษณ์ ซึ่งคณะกรรมการจัดการแข่งขันได้เปิดการแข่งขันเพื่อออกแบบสัญลักษณ์ใหม่ ภายใต้คำขวัญ "Energy of Asia" และได้ประกาศรางวัลชนะเลิศเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2559
โดยสัญลักษณ์แบบใหม่ได้แรงบันดาลใจจากหลังคาของสนามกีฬาเกลอรา บังการ์โน ส่วนสัญลักษณ์นำโชคใหม่ได้แรงบันดาลใจจากสัตว์ที่หาพบได้ในประเทศอินโดนีเซีย อาทิ นกปักษาสวรรค์ ("Bhin Bhin"), กวางบาวีน ("Atung") และแรดชวา ("Kala")
- ผลงานนักกีฬาไทยในเอเชียนเกมส์ครั้งที่ผ่านมา
กีฬา "เอเชียนเกมส์ 2014" ที่ประเทศเกาหลีใต้ "อินชอนเกมส์" เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ทัพกีฬาจาก "แดนมังกร" ประเทศจีน ประกาศศักดา คว้าเจ้าเหรียญทองแบบม้วนเดียวจบ โดยทำไปได้ถึง 151 เหรียญทอง
ส่วนผลงานนักกีฬาไทย ดีกว่าครั้งก่อนที่กว่างโจว เป็นเจ้าภาพ เมื่อปี 2010 อยู่ 1 เหรียญทอง ซึ่งถือว่า 12 เหรียญทอง 7 เหรียญเงิน และ 28 เหรียญทองแดง เป็นผลงานที่ยอดเยี่ยม แถมเรายังจบด้วยอันดับ 6 เป็นรองแค่ จีน, เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น, คาซัคสถาน และ อิหร่าน เท่านั้น
- ชนิดกีฬาและจำนวนเหรียญทองที่ชิงชัย ในเอเชียนเกมส์ 2018
*ในวงเล็บคือจำนวนเหรียญทอง
1.กีฬาทางน้ำ
- ว่ายน้ำ (41)
- ระบำใต้น้ำ (2)
- โปโลน้ำ (2)
2. ยิงธนู (5)
3. กรีฑา (48)
4. แบดมินตัน (7)
5. เบสบอล
- เบสบอล (1)
- ซอฟท์บอล (1)
6. บาสเกตบอล
- บาสเกตบอล (2)
- บาสเกตบอล 3 คน (2)
7. โบว์ลิ่ง (6)
8. มวยสากลสมัครเล่น
- มวยสากลสมัครเล่นชาย (7)
- มวยสากลสมัครเล่นหญิง (3)
9. เรือแคนู
- สปรินต์ (12)
- สลาลม (4)
- เรือประเพณี (5)
10. บริดจ์ (6)
11. จักรยาน
- บีเอ็มเอ็กซ์ (2)
- บีเอ็มเอ็กซ์ฟรีสไตล์ (2)
- จักรยานเสือภูเขา (4)
- ถนน (4)
- ลู่ (12)
12.ขี่ม้า
- ศิลปะการบังคับม้า (2)
- อีเวนติ้ง (2)
- กระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง (2)
13.ฟันดาบ (12)
14.ฮอกกี้ (2)
15.ฟุตบอล
- ฟตบอลชาย(1)
- ฟุตบอลหญิง(1)
16.กอล์ฟ (4)
17. ยิมนาสติก
- สากล (14)
- ลีลา (2)
- แทรมโพลีน (2)
18. แฮนด์บอล (2)
19. ยูโด (15)
20. กาบัดดี (2)
21.คาราเต้ (13)
22. ศิลปะการต่อสู้
- ยิวยิตสู (9)
- คูราช (8)
- ปันจักสีลัต (16)
- แซมโบ (6)
- วูซู (15)
23. กีฬาเครื่องกล
- เจ็ทสกี (4)
- ร่มร่อน (6)
24. ปัญจกีฬาสมัยใหม่ (2)
25.โรลเลอร์สปอร์ต
- สเกตความเร็ว (2)
- สเกตบอร์ด (4)
26. เรือพาย (15)
27. รักบี้ 7 คน (2)
28. เรือใบ (10)
29. เซปักตะกร้อ (6)
30. ยิงปืน (15)
31. ปีนผา (2)
32. สควอช (4)
33. เทเบิลเทนนิส (5)
34. เทควันโด (12)
35. เทนนิส (5)
36. ซอฟท์เทนนิส (5)
37. ไตรกีฬา (3)
38.วอลเลย์บอล
- วอลเลย์บอลชายหาด (2)
- วอลเลย์บอลในร่ม (2)
39. ยกน้ำหนัก (14)
40. มวยปล้ำ (18)