กังหันโกงตาย!พลิกแซงจังโก้หืด2-1ลิ่วทะลุ8ทีม

ฟุตบอลโลก 2014

รอบ 16 ทีมสุดท้าย

คืนวันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน 2557

ฮอลแลนด์ 2-1 เม็กซิโก

สนาม  : เอสตาดิโอ กาสเทเรา

ผู้ตัดสิน : เปโดร โปรเอ็นก้า (โปรตุเกส)

การแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 รอบสุดท้าย ประจำคืนวันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน 2557 ที่สนาม เอสตาดิโอ กาสเทเรา ในเมืองฟอร์ตาเลซ่า รัฐเซียร่า ประเทศบราซิล เกมรอบ 16 ทีมสุดท้าย เป็นการพบกันระหว่าง "อัศวินสีส้ม" ทีมชาติฮอลแลนด์ แชมป์กลุ่มบี พบ "จังโก้" เม็กซิโก อันดับสองของกลุ่มเอ

เริ่มเกมได้ 9 นาที ฮอลแลนด์ ต้องมาเสีย ไนเจล เดอ ยอง ที่ได้รับบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ต้องส่ง บรูโน่ มาร์ตินส์ อินดี้ ลงสนามมาช่วยเกมรับแทน

น.17 เม็กซิโก พลาดโอกาสได้ประตูขึ้นแบบหวุดหวิด เมื่อ โอริเบ เปรัลต้า ครองบอลในเขตโทษ ก่อนไหลมาให้ เอคตอร์ เอร์เรร่า ที่รออยู่ จัดการซัดด้วยขวาตรงจุดโทษพอดิบพอดี แต่บอลก็กลิ้งเฉียดเสาออกไปนิดเดียว

ผ่านมาถึงครึ่งชั่วโมงผู้ตัดสินก็เป่าหยุดเกมเพื่อให้ผู้เล่นทั้งสองทีมได้พักดื่มน้ำ ผ่านคลายจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดเป็นเวลาสามนาที

ท้ายครึ่งแรกยังเป็นทางฝั่ง เม็กซิโก ที่มีจังหวะบุกมากกว่าแต่ก็จบกสอร์ไม่ได้ แถมทีมยังต้องมาเสีย เอคตอร์ เอร์เรร่า ที่มีปัญหาเจ็บที่กล้ามเนื้อเล่นต่อไม่ไหวจนต้องขึ้นเปลหามออกไป ส่วน ฮอลแลนด์ เองก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากเท่าที่ควร หมดครึ่งแรกเสมอกันไปก่อน 0-0

กลับมาช่วงครึ่งหลัง เม็กซิโก เปลี่ยนเอา ดิเอโก้ เรเยส ลงสนามมาแทน เอคตอร์ เอร์เรร่า ที่บาดเจ็บในช่วงท้ายครึ่งแรก

น.48 มีประตูแรกของเกมเกิดขึ้นจนได้ เมื่อ โจวานนี่ โดส ซาโต๊ส เลี้ยงหนีการประกบของ ดาลี่ย์ บลินด์ ที่ตามเข้าป้องกันแบบถึงลูกถึงคน ก่อนเจ้าตัวจะซัดด้วยซ้ายเต็มข้อ บอลพุ่งหนีมือ ยาสเปอร์ ซิลเลสเซ่น เข้าไปอย่างสวยงาม เม็กซิโก ขึ้นนำ 1-0

น.54 ฮอลแลนด์ ไม่อยู่เฉยส่ง เมมฟิส ดีปาย กองหน้าตัวสำรองลงสนามมาเพิ่มเพื่อลุ้นตีเสมอโดยเร็ว และเปลี่ยนเอา พอล เวอร์ฮาร์ท ออกไป

น.58 "อัศวินสีส้ม" น่าจะตามตีเสมอได้สุดๆ จากลูกเตะมุม อาร์เยน ร็อบเบน โยนไปหน้าประตู บอลเลยมาถึง สเตฟาน เดอ ฟราย โดดมาชาร์จจ่อๆ หน้าประตู บอลพุ่งตรงตัว กิลเยร์โม่ โอชัว ปัดบอลชนเสากระดอนออกไปอย่างน่าเสียดาย

น.61 เม็กซิโก เปลี่ยนเอา ฮาเวียร์ อาควินโน่ ลงสนามมาเพิ่มทางเลือกในเกมรุก โดยถอดเอา โจวานนี่ โดส ซานโต๊ส ผู้ทำประตูให้ทีมขึ้นนำออกไป

น.69 พอล อากีร์ล่า มาโดนใบเหลืองเป็นคนแรกของเกมนี้ หลังเจ้าตัวเข้าไปเตะใส่เท้าของ เมมฟิส ดีปาย แบบน่าเกลียด และเจ้าตัวจะไม่สามารถลงสนามในเกมนัดต่อไปหากทีมผ่านเข้ารอบได้สำเร็จ

ผ่านมาถึงนาทีที่ 74 ฮอลแลนด์ เกือบตีเสมอได้อีกครั้ง จากจังหวะที่ ร็อบเบน กระชากเข้าเขตโทษ ก่อนจะโดดหลบการสกัดของ ราฟาเอล มาร์เกซ แล้วแปกะลอดขา โอชัว ที่ออกมาป้องกัน แต่ก็ยังไปติดเซฟของนายทวารของเม็กซิโกไปอีกครั้งอย่างน่าเสียดา

น.75 "จังโก้" เปลี่ยนเอา ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ ลงสนามเป็นคนสุดท้าย พร้อมกับถอด โอริเบ เปรัลต้า ออกไป ขณะที่ "อัศวิน" ถอด โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ที่เกมนี้ไม่ได้สร้างความกดดันให้คู่แข่งมากนัก โดยเอา คลาส-แยน ฮุนเตลาร์ ลงสนามมาเล่นในแดนหน้าแทน

น.88 หลังจากพยายามอยู่นาน ฮอลแลนด์ ก็มาทำประตูได้สำเร็จ จากจังหวะลูกเตะมุม ร็อบเบน โยนไปให้ เมมฟิส ดีปาย โหม่งกลับไปด้านนอก บอลกระดอนออกมาเข้าทาง เวสลี่ย์ สไนจเดอร์ วิ่งมากดด้วยขวาเน้นๆ บอลพุ่งเสียบตาข่ายเข้าไปอย่างเฉียบคมชนิดที่ โอชัว ได้แต่ยืนขาตายเท่านั้นช่วยให้ทีมตีเสมอสำเร็จ 1-1

ช่วงทดเจ็บ ฮอลแลนด์ มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ ร็อบเบน ไปถูก ราฟาเอล มาร์เกซ เตะล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้เป็นลูกโทษทันทีพร้อมชักเหลืองให้แก่เจ้าตัวไปด้วย และเป็น คลาส-แยน ฮุนเตลาร์ รับหน้าที่สังหารซัดเสียบหน้าต่างซ้ายของประตูเข้าไปให้ทีมพลิกขึ้นนำ 2-1

หลังจากนั้น "จังโก้" พยายามบุกหนักเพื่อตามตีเสมอให้ได้แต่ก็ไม่ทัน หมดเวลา ฮอลแลนด์ พลิกเอาชนะ เม็กซิโก ไปได้ 2-1 ส่งผลให้ทีมผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ โดยจะเข้าไปพบกับผู้ชนะระหว่าง คอสตาริกา กับ กรีซ ต่อไป

รายชื่อผู้เล่น ทีมชาติฮอลแลนด์ (4-3-1-2) :
ยาสเปอร์ ซิลเลสเซ่น - พอล เวอร์ฮาร์ท (เมมฟิส ดีปาย น.54), สเตฟาน เดอ ฟราย, รอน ฟลาร์, ดาลี่ย์ บลินด์ - ไนเจล เดอ ยอง (บรูโน่ มาร์ตินส์ อินดี้ น.9), จอร์จินโญ่ วิจนัลดัม, เดิร์ค เคาท์ - เวสลี่ย์ สไนจเดอร์ - โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (คลาส-แยน ฮุนเตลาร์ น.76), อาร์เยน ร็อบเบน
ผู้เล่นสำรอง
มิเชล ฟอร์ม - ทิม ครูล - ดารีล ยันมาต - โจเอล เฟลท์มันน์ - เทอร์เรนซ์ คงโกโล่ - โจนาธาน เด กุซมัน - จอร์ดี้ แคลร์ซี่ - ลีรอย เฟอร์ - เจอร์เมน เลนส์
 
รายชื่อผู้เล่น ทีมชาติเม็กซิโก (5-3-2) :
กิลเยร์โม่ โอชัว - พอล อากีร์ล่า, ฟรานซิสโก้ โรดริเกซ, ราฟาเอล มาร์เกซ, เอคตอร์ โมเรโน่, มิเกล ลายุน - เอคตอร์ เอร์เรร่า (ดิเอโก้ เรเยส น.46), คาร์ลอส ซัลซิโด้, อันเดรส กวาร์ดาโด้ - โอริเบ เปรัลต้า (ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ น.75), โจวานนี่ โดส ซานโต๊ส (ฮาเวียร์ อาควินโน่ น.61)
ผู้เล่นสำรอง
โจเซ่ โคโรน่า - อัลเฟรโด้ ตาลาเวล่า - มิเกล ปอนซี่ - ราอูล ฆิมิเนซ - คาร์ลอส เปน่า - มาร์โก ฟาเบียน - อลัน ปูลิโด้ - ไอแซค บริซูเอล่า