ชี้ชะตาลีกคัพ 8 ทีมนัดสองบิ๊กแมตช์กิเลนฟัดสายฟ้า

ความพร้อมก่อนการแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ลีกคัพ 2014 รอบก่อนรองชนะเลิศหรือรอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดสอง ซึ่งจะลงสนามทั้งหมด 4 คู่ ในวันพุธที่ 2 ก.ค.นี้ บิ๊กแมตช์อยู่ที่ เอสซีจี สเตเดี้ยม "กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทองฯ จะเปิดบ้านรับมือแชมป์เก่า "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ส่วนอีก 3 คู่ บีอีซี เทโรฯ พบ บางกอกกล๊าส เอฟซี, ชัยนาท ปะทะ นครราชสีมา และปตท.ระยอง หวด ราชบุรี

 

 

ที่สนามเอสซีจี สเตเดี้ยม เวลา 19.00 น. เป็นการโคจรมาพบกันอีกครั้งของ เอสซีจี เมืองทองฯ จ่าฝูงไทยลีกกับคู่ปรับดีกรีแชมป์เก่า 3 สมัยอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โดยเกมแรกเสมอกันมา 0-0 เกมนี้เจ้าถิ่นจะเป็นนัดส่งท้าย ธีรศิลป์ แดงดา ก่อนไปสเปน ส่วนขุมกำลังคนอื่นๆ จะได้ อีริค ปาร์ตาลู ที่โดนแบนในลีกกลับมาเป็นตัวจริงในเกมนี้ เช่นเดียวกับ มาริโอ ยูรอฟสกี้, ดัสกร ทองเหลา และคลีตัน ซิลวา ก็พร้อมลงเล่นในเกมนี้ทั้งหมด โดยเกมนี้จะยังคงเป็น พล ชมชื่น และ ดาร์เรน รีด คุมทีมข้างสนามเหมือนเดิม แม้จะมีกระแสเรื่องโค้ชใหม่แต่คาดว่ายังไม่คุมทีมในเกมนี้ โดยกิเลนผยองต้องชนะสถานเดียวถึงจะได้ผ่านเข้ารอบต่อไป

 

ส่วนทีมเยือน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ได้เปรียบเล็กน้อยเพราะขอแค่ผลเสมอแบบมีสกอร์พวกเขาก็จะได้ผ่านเข้าไปป้องกันแชมป์ต่อไป สภาพทีมตัวหลักอยู่กันครบไม่มีปัญหาทั้ง ธีราทร บุญมาทัน, สุเชาว์ นุชนุ่ม, คาร์เมโล่ กอนซาเลซ และฆาเบียร์ ปาติโญ่ ด้านทัดเทพ พิทักษ์พูนสิน ผจก.ทีม มั่นใจจะบุกเอาชนะเมืองทองฯ ได้แน่นอนในเกมนี้

 

 

ที่สนามเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มีนบุรี บีอีซี เทโร ศาสน เวลา 19.00 น. จะพบกับ บางกอกกล๊าส เอฟซี โดยเกมแรกเสมอกันมา 0-0 ด้านทีม "มังกรไฟ" ไม่มีปัญหาเรื่องการจัดทัพโดยจะได้ จอร์จี้ เวลคัม ที่ถูกแบนในเกมลีกกลับมายืนเป็นศูนย์หน้าตัวเป้าอีกครั้ง โดยจะประสานงานร่วมกับ โช ชิโมจิ, รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค และชนาธิป สรงกระสินธ์ ด้าน ธัญญะ วงศ์นาค ผจก.ทีม เผย สำหรับฟุตบอลโตโยต้า ลีกคัพ ถือเป็นถ้วยที่เราหวังไว้ดังนั้นเกมนี้ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ทีมเก็บชัยชนะและผ่านเข้ารอบต่อไป

 

ส่วนทีมเยือนบีจี สถานการณ์เหมือนกับ บุรีรัมย์ คือขอแค่เสมอแบบมีประตูก็จะได้ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศทันที สภาพทีมถือว่ามีปัญหาเล็กน้อยเมื่อตัวหลักอย่าง ลาซารัส คาอิมบี้ ดาวยิงผิวสีมีอาการบาดเจ็บลงไม่ได้แน่นอน อีกคนยังต้องเช็คความฟิตคือ ซูรับ ซิซคาริดเซ่ กองหลังที่เจ็บกล้ามเนื้อจะพร้อมลงสนามหรือไม่ แต่ที่ลงได้แน่นอนก็คือ เทรุยูกิ โมนิวะ, ดาร์โก ทาเชฟสกี้ และโกชิ โอคูโบะ ด้าน "โค้ชจุ่น" อนุรักษ์ ศรีเกิด เฮดโค้ช มั่นใจจะได้ผลการแข่งขันที่ต้องการเพื่อพาทีมผ่านเข้ารอบต่อไป

 

 

ที่สนามเขาพลอง สเตเดี้ยม เวลา 18.00 น. ชัยนาท ฮอร์นบิล จะพบกับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ตัวแทนหนึ่งเดียวจากดิวิชั่น 1 โดยเกมแรกเป็นโคราชที่เอาชนะมาได้ 3-1 เกมนี้ชัยนาทจะต้องชนะ 2-0 ขึ้นไปถึงจะได้ผ่านเข้ารอบ หากชนะ 3-1 ต่อเวลา ถ้าชนะ 4-2 ตกรอบทันที สำหรับสภาพทีมไม่มีปัญหาตัวหลักอยู่กันครบนำโดย ภานุวัฒน์ ไฟใหล,สุรเชษฐ์ งามทิพย์, ภานุวัฒน์ จินตะ และนิโคล่า นิเคซิค ด้าน จเด็จ มีลาภ กุนซือใหญ่เผย แม้ผลการแข่งขันจะเป็นรองแต่มั่นใจเกมนี้จะพลิกสถานการณ์กลับมาเอาชนะเเละผ่านเข้ารอบต่อไปได้สำเร็จ

 

ด้านทีมเยือนนครราชสีมา ขอแค่เสมอหรือไม่แพ้ 2-0 ขึ้นไปก็จะเข้ารอบทันที เรื่องตัวผู้เล่นในเกมนี้จะได้ อิวาน บอสโควิช พ้นโทษแบนจากนัดแรก ส่วน ลี ทัค หัวหอกตัวใหม่ก็สามารถลงเล่นได้เช่นกันเนื่องจากยังไม่ได้เล่นรายการนี้กับต้นสังกัดเก่า ทว่ายังต้องเช็คความฟิตของ ศราวุฒิ จันทพันธ์ ที่เจ็บมาจากเกมลีก คาดว่า คัมเบะ ซูกาโอะ เทรนเนอร์ของทีมน่าจะจัด อิวาน บอสโควิช ลงยืนคู่กับ ลี ทัค ในแนวรุก ส่วนขุมกำลังหลักอย่าง ไกรเกียรติ เบียดตะคุ , ซาโตชิ นากาโนะ และโชตะ โคอิเดะ ก็น่าจะยังลงนำทัพออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเหมือนเดิม

 

 

ที่สนามพีทีที สเตเดี้ยม เวลา 18.00 น. ปทต.ระยอง จะพบกับ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี รองแชมป์เก่า โดยผลนัดแรก ราชบุรี ชนะมาก่อน 3-1 ด้านเจ้าถิ่น "พลังเพลิง" เงื่อนไขเหมือนชัยนาท คือต้องชนะ 2-0 ขึ้นไป แต่ห้ามโดนยิงเกิน 2 ลูก สภาพทีมไม่มีปัญหาตัวหลักอย่าง ไมเคิล บัวแชมป์, แมทธิว ทอมสัน สองกองหลังจิงโจ้น่าจะจับคู่กันเหมือนเดิม แนวรุกมี อมาดู อ็อตทาร่า, กีรติ เขียวสมบัติ และรูฟิโน่ ซานเชส ด้านชัยยง ขำเปี่ยม กุนซือใหญ่หวังพาทีมสร้างเซอร์ไพรส์เอาชนะและผ่านเข้ารอบต่อไปในเกมนี้

 

ส่วนทีมเยือนราชบุรี มิตรผล เอฟซี โอกาสเข้ารอบสูงขอเพียงแค่เสมอหรือแพ้ไม่เกิน 2 ลูก เรื่องขุมกำลังไม่มีปัญหาเช่นกันตัวหลักอยู่ครับ นำโดย แฮเบอร์ตี้ เฟอร์นานเดส, ฆวน เกวโร่ และอองรี โจแอล ด้าน ธนวัชร์ นิติกาญจนา ผจก.ทีมมั่นใจจะพาทีมผ่านเข้าไปรอบรองชนะเลิศได้แน่นอน