แชมป์เก่าร่วง! สายฟ้าบอดโทษพ่ายกระต่ายแก้ว 5-7

แชมป์เก่าร่วง! สายฟ้าบอดโทษพ่ายกระต่ายแก้ว 5-7

แชมป์เก่าร่วง! สายฟ้าบอดโทษพ่ายกระต่ายแก้ว 5-7
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
บางกอกกล๊าส ทะลุผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลมูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ ได้สำเร็จ ด้วยดวลจุดโทษบุกดับ บุรีรัมย์ คาบ้าน ด้วยประตูรวม 7-5 หลังเสมอในเวลา 120 นาที 2-2 บลาเซ่ อิลิโจสกี้ กองหน้ามาชิโดเนีย ยิงได้ 2 ประตู แจ้งเกิดในลีกไทยได้สำเร็จ

ศึกฟุตบอลมูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ 2014 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่สนามไอโมบาย สเตเดี้ยม เป็นการรีแมตข์ของคู่ชิงชนะเลิศเมื่อฤดูกาลก่อน “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบ “เดอะ แรบบิท” บางกอกกล๊าส เอฟซี  โดยผลการแข่งขันในรอบที่ผ่านมา บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเอาชนะ ชัยนาท ฮอร์นบิล 2-1 ส่วน บางกอกกล๊าส เอฟซี บุกไปเอาชนะ ราชนาวี 3-2
 
อเล็กซานเดอร์ กาม่า ไม่มีปัญหาเรื่องตัวนักเตะส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามครบครัน แนวรับ ดาวิด โรเชล่า ยืนปักหลักกับ อันเดรส ตูเนส, อนาวิน จูจีน และ ธีราทร บุญมาทัน ให้ ดาวิด โรเชล่า เป็นตัวโฮลด์บอล ปล่อยให้ คิม ฮยองบอม กับ สุเชาว์ นุชนุ่ม เดินเกมให้กับ 3 แนวรุก ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา, คาร์เมโล กอนซาเลซ และ อดิศักดิ์ ไกรษร ล่าประตู
 
ด้านทีมเยือน อนุรักษ์ ศรีเกิด กุนซือใหญ่ มีการหมุนเวียนนักเตะในบางตำแหน่ง ผู้รักษาประตูยังเป็น นริศ ทวีกุล ที่รับหน้าที่เฝ้าเสา แผงแบ็กโฟร์ใข้บริการ สุวรรณภัทร์ กิ่งแก้ว, เทรุยูกิ โมนิวะ, ประวีณวัช บุญยงค์ และ ศุภชัย คมศิลป์ ประจำการ แผงมิดฟิลด์ พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์,สุบรรณ เงินประเสริฐ และ ดาร์โก้ ทาเซฟสกี้ สร้างสรรค์เกมรุกให้ 3 ประสานอย่าง สุรเดช ธงชัย, โกชิ โอคูโบะ และ บลาเซ่ อิลิโจสกี้ เป็นตัวทีเด็ดในการทำประตู
 
เขี่ยบอลเริ่มเกมได้ 10 นาที เป็น บีจี ที่ขยับนำก่อน จากจังหวะที่  สุวรรณภัทร์ กิ่งแก้ว เปิดบอลจากกราบขวา ลึกมาถึง โกชิ โอคูโบะ ก่อนที่เจ้าตัวจะโหม่งชงกลับมาที่เสาแรกให้ บลาเซ่ อิลิโจสกี้ เข้าชาร์ทโล่งๆ เข้าประตู พา บีจี ขึ้นนำก่อน 1-0
 
เจ้าบ้านมาได้ลุ้นประตูตีเสมอ น.18 จากจังวะยิงฟรีคิกระยะ 25 หลา ของ ธีราทร บุญมาทัน แต่ก็ยังไม่ผ่าน นริศ ทวีกุล ที่จัดการป้องกันไว้ได้อย่างไม่มีปัญหา  
 
ถึง น.22 บุรีรัมย์ฯ ตามตีเสมอได้สำเร็จ 1-1 เมื่อได้ฟรีคิกริมเส้นด้านขวา ธีราทร บุญมาทัน กึ่งยิงกึ่งเปิดไปหน้าประตู ก่อนที่บอลจะเสียบเสาสองเข้าประตูไป
 
น.41 บีจี มาได้ลุ้นประตูขึ้นนำอีกครั้ง จากจังหวะที่ พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ ได้วางเท้ายิงด้วยขวาจากระยะกว่า 35 หลา ร้อนถึง ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ผู้รักษาประตูของบุรีรัมย์ฯ ต้องทุบบอลทิ้งช่วยรักษาสกอร์ของเจ้าบ้านเอาไว้ได้
 
ช่วงนาทีสุดท้ายของครึ่งแรก เจ้าบ้านเกือบจะได้ประตูพลิกขึ้นนำเช่นกัน เมื่อ คิม ฮยอง บอม ตวัดเปิดบอลจากด้านขวา เข้ามาในเขตโทษ และเป็น อดิศักดิ์ ไกรษร ที่ได้ตวัดวอลเล่ย์ยิงด้วยขวา ส่งบอลพุ่งข้ามคานออกหลังไปนิดเดียว
 
แต่ บีจี ก็มาพลิกขึ้นนำอีกครั้งจนได้ในช่วงทดเวลาเจ็บนาทีที่ 2 จากจังหวะที่ ศุภชัย คมศิลป์ บรรจงเปิดบอลในกรอบเขตโทษด้านซ้าย เข้าไปกลางประตู ก่อนที่จะเป็น บลาเซ่ อิลิโจสกี้ ที่สอดทะยานเข้ามาโหม่งเน้นๆ สุดปัญญาที่ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน จะป้องกัน พา บีจี ขึ้นนำ 2-1 ก่อนที่จะจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ดังกล่าว
 
ครึ่งหลังเจ้าบ้านที่ตกเป็นรองพยายามเปิดเกมรุกหวังทวงประตูคืนให้ได้ และเกือบจะทำได้ใน น.60 จากการโหม่งที่เสาสองของ สุเชาว์ นุชนุ่ม แต่ นริศ ทวีกุล ยังผวาปัดบอลทิ้งพ้นเสาแรกออกหลังไปได้ทัน
 
น.64 บุรีรัมย์ฯ ได้จังหวะยิงประตูอีกครั้ง หนนี้เป็น คาร์เมโล กอนซาเลซ ที่ได้เหวี่ยงด้วยขวาจากระยะกว่า 35 หลา ส่งบอลพุงแรงกะให้เสียบใต้คาน แต่ นริศ ทวีกุล ยังไม่ยอมง่ายทะยานปัดบอลพ้นคานออกหลังไปได้อย่างยอดเยี่ยม
 
บีจี ที่อาศัยจังหวะโต้กลับค่อยเล่นงานเกือบได้ประตูที่  3 น.71 หนีห่าง เมื่อ ชาตรี ฉิมทะเล ได้หลุดเข้าไปยิงด้วยขวาในเขตโทษ แต่ก็ยังข้ามคานออกหลังไป ก่อนที่นาทีถัดมาเจ้าบ้านเอาคืนจากจังหวะที่ จักรพันธ์ แก้วพรหม ยกบอลเข้าเขตโทษให้ ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา หลุดเข้าไปกระดกบอลยิงในเขตโทษ แต่ นริศ ทวีกุล ก็ยังออกมาบล็อกได้ทัน
 
น.85 บุรีรัมย์ฯ มาพลาดโอกาสได้ประตูตีเสมอไปอย่างน่าเสียดาย เมื่อ คาร์เมโล่ กอนซาเลซ กระชากพาบอลหลุดไปสุดเส้นหลังก่อนจะตบคืนกลับมาให้ สุเชาว์ นุชนุ่ม ได้ซัดด้วยขวาคนเดียวโล่งๆ บริเวณจุดโทษ แต่กัปตันทีมเจ้าบ้านกลับซัดบอลโด่งข้ามคานออกหลังไปเสียเอง
 
แต่เจ้าบ้านก็มาตามตีเสมอได้สำเร็จ ใน น.90 จากจังหวะเล่นฟรีคิกเล่นของ ธีราทร บุญมาทัน ให้ อนาวิน จูจีน หลุดเข้าเขตโทษด้านขวา ก่อนจะตบเข้ากลางให้ มารันเญา ได้เข้าชาร์ทเน้นๆ เป็นประตูตีเสมอ 2-2
 
ช่วงทดเวลาเจ็บ บีจี เกือบจะพลิกขึ้นนำอีกครั้ง เมื่อ บลาเซ่ อิลิโจสกี้ ได้แปด้วยขวาในเขตโทษ แต่  ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ยังพุ่งปัดพ้นเสาออกหลังไปได้ทัน ก่อนที่จะหมดเวลาการแข่งขันเสมอกันไป 2-2 ต้องสู้กันในช่วงต่อเวลาพิเศษ
 
เริ่มเกมช่วงต่อเวลาได้ไม่ถึงนาที บลาเซ่ อิลิโจสกี้ เกือบจะใส่แฮตทริกให้กับตัวเอง เมื่อได้ตวัดยิงด้วยขวาเต็มๆ จากริมกรอบเขตโทษ ส่งบอลพุ่งชนคานกระดอนออกมาอย่างน่าเสียดาย
 
น.104 เจ้าบ้านเกือบได้ประตู จากจังหวะเตะมุมทางด้านซ้ายของ อนาวิน จูจีน บอลพุ่งไปตกบนคานออกหลังไป
 
น.115 บุรีรัมย์ฯ น่าจะได้ประตูเพิ่มจากจังหวะโหม่งที่เสาสองแบบจังๆ ของ คาร์เมโล กอนซาเลซ แต่บอลกลับไปชนเสา และแม้จะกระดอนมาเข้าทางของ มารันเญา แต่บอลกลับกระเด้งออกหลังไปเสียอีก ก่อนที่จะทำอะไรกันไม่ได้ ครบ 120 นาที ยังเสมอกัน 2-2 ต้องหาผู้ชนะด้วยการยิงลูกที่จุดโทษ ซึ่งผลปรากฏว่าแข้งนักเตะ บีจี ยิงได้เข้าเป้ากว่าเอาชนะไป 5-3 รวมผลสกอร์ชนะไป 7-5 ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ
 
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน(GK), ธีรารทร บุญมาทัน, ดาวิด โรเชล่า, อันเดรส ตูเนส(มารันเญา น.76), อนาวิน จูจีน, ชิติพัทธ์แทนกลาง, ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา, สุเชาว์ นุชนุ่ม(C), คิม ฮยอง บอม(ประทุม ชูทอง น.46), คาร์เมโล่ กอนซาเลซ, อดิศักดิ์ ไกรษร(จักรพันธ์ แก้วพรหม น.58)
 
บางกอกกล๊าส เอฟซี : นริศ ทวีกุล(GK)(C), สุวรรณภัทร์ กิ่งแก้ว, เทรุยูกิ โมนิวะ (วสันต์ ฮมแสน น.63), ประวีณวัช บุญยงค์, ศุภชัย คมศิลป์, พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์, สุรเดช ธงชัย (ปิยะชาติ ถามะพันธ์ น.77), สุบรรณ เงินประเสริฐ(ชาตรี ฉิมทะเล น.69), ดาร์โก้ ทาเซฟสกี้, โกชิ โอคูโบะ, บลาเซ่ อิลิโจสกี้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook