"ลุงคนหนึ่ง" ณ บุรีรัมย์

"ลุงคนหนึ่ง" ณ บุรีรัมย์

"ลุงคนหนึ่ง" ณ บุรีรัมย์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ระยะเวลาเกือบๆ 10 ปี มานี้ ทุกครั้งที่มีโอกาสได้เดินทางกลับบ้านเกิดที่จังหวัดสุรินทร์ ผมใช้เส้นทางผ่านเข้าไปจังหวัดบุรีรัมย์

เหตุผลสำคัญคือ มีผู้ชาย ที่เป็นอดีตนักการเมืองคนหนึ่ง หันมาจับเส้นทางสายฟุตบอล ด้วยการทำทีมลูกหนังที่ชื่อว่า "บุรีรัมย์ พีอีเอ" (ทีมการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเก่า ปัจจุบันคือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

ภาพต่างๆ ถูกย้อนกลับมาถึงคำถามว่า คำพูดของชายที่ชื่อ  "เนวิน ชิดชอบ"  ที่บอกว่า "กูไม่กลับไปเล่นการเมืองอีกแน่นอน กูจะทำเมืองนี้ให้เป็นเมืองสปอร์ตซิตี้" นั้นจะทำได้จริงอย่างที่พูดเอาไว้หรือไม่?

เออว่ะ....พี่แกทำได้จริงๆ ด้วย!!!

n03
ตรรกะนับไม่ถ้วนตลอดทุกครั้งที่ได้อยู่ในการสนทนา ผมเห็นความตั้งใจจริงของแก และแนวคิดแบบคนรุ่นใหม่สุดๆ ถึงสิ่งที่แกมองไปยังเมืองที่เป็นแค่ทางผ่านอย่างบุรีรัมย์

จนบางครั้ง ผมเองยอมรับนะว่าเคยสงสัยอยู่เหมือนกันว่า "นี่กูคุยกับคนขี้โม้อยู่รึเปล่าวะ?"

คำตอบตัวโตตอนนี้ผมได้รับมันเต็มๆ สายตา!!!

นั่นก็เพราะตลอด 10 ปี ของการมาเยือนจังหวัดบุรีรัมย์ของผม มันมีความแตกต่างและแปลกใหม่ไปเสียทุกครั้ง

n01
จากวันแรกที่เดินทางมาทำข่าวการเปิดตัวทีมบุรีรัมย์ในไอโมบายสเตเดี้ยม แล้วหลังจากนั้น 9 ปี ให้หลัง จังหวัดบุรีรัมย์มีสนามแข่งรถ พร้อมได้ใช้เป็นสนามแข่งขันโมโตจีพีครั้งประวัติศาสตร์ไปซะแล้ว!!!

ตาสีตาสา ชาวไร่ชาวนาของที่นี่ ไม่มีใครไม่เคยมาสนามฟุตบอล "ไอโมบาย สเตเดี้ยม" ที่ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อตามสปอนเซอร์มาเป็น "ช้างอารีน่า"

ลูกเล็กเด็กแดงก็รู้จักสนาม "ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต" กันทั้งนั้น ทุกคนล้วนมาเช็กอินแลนด์มาร์กของบุรีรัมย์กันทั้งสิ้น

โรงแรมที่บุรีรัมย์เอง  ก็ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด จนทุกวันนี้ น่าจะมีจำนวนยอดห้องพักทะลุหลักหมื่นห้องไปแล้ว

n04
คำถามที่หลายคนคิดคือ "บุรีรัมย์ทำได้อย่างไร???"

นั่นเพราะเมืองนี้มีผู้ชายที่ชื่อ "เนวิน ชิดชอบ" ยังไงล่ะ

ผมเคยได้คุยกับแกในหลายๆ ครั้งที่ได้เดินทางไปทำข่าวที่บุรีรัมย์ 

และทุกๆ ครั้งที่เจอกับชายคนนี้ สิ่งสำคัญที่สัมผัสได้ คือ "การพูดแล้วลงมือทำจริงๆ ของแก"  

ครั้งหนึ่งแกเคยบอกว่า "เฮ้ย มึงรู้ไหม คนที่เขามาสนามฟุตบอล สนามแข่งรถเขาบ่นร้อน ไม่มีร้านอาหารแบบง่ายๆ ให้กิน คอยดูนะ เดี๋ยวกูจะสร้างอะไรสักอย่างที่นี่ เอาให้มันอยู่ข้างสนามนี่แหละ"

ผ่านไปไม่ถึง 6 เดือน หลังจากที่แกปล่อยประโยคนี้ โปรเจกต์ "บุรีรัมย์ คาสเซิล" ก็ถูกลงเสาเข็มก่อสร้าง พร้อมกับเสร็จลงอย่างรวดเร็ว แถมอยู่ข้างสนามฟุตบอลในระยะแค่ 50 เมตร เท่านั้น!!!

หรือแม้กระทั่ง หากยังพอจำกันได้ แกเคยบอกว่า "กูอุตส่าห์สร้างสนามแข่งรถระดับมาตรฐานโลก ก่อนตายสักครั้ง คนบุรีรัมย์ หรือคนไทย ควรได้ดูรถแข่งโมโตจีพีในสนามแห่งนี้"

สุดท้ายมันก็เกิดขึ้นจริง

n02
มันปฏิเสธไม่ได้หรอก ว่าเขาคือ ผู้อยู่ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังของงานนี้

"อิทธิพลทางลมปาก" ของเนวิน ชิดชอบ มันคือพลัง เหนือสิ่งอื่นใด มันคือการลงมือทำจริงๆ ให้เห็น

อย่าลืมว่า ลำพังแค่แกคิดอย่างเดียว บอกเลย ไม่มีทางที่จะทำให้เมืองบุรีรัมย์มาได้ไกลขนาดนี้หรอก

ขณะเดียวกัน วันนี้ เวลานี้ วินาทีนี้ แกเองก็ได้ใจคนทั้งจังหวัด ทำให้คนนับถือและพร้อมยกมือไหว้ด้วยความสนิทใจ และเต็มใจที่จะมอบความรักให้อย่างจริงใจ ไม่ใช่แค่ความรักที่หวังผลตอบแทนเหมือนสมัยเล่นการเมือง

มีหลายคนเคยบอกนะว่า สมัยเป็นนักการเมือง ฯพณฯ ท่านเนวิน ชิดชอบ "คนรักเยอะ คนเกลียดก็มาก" แต่ตอนนี้ ผมคนหนึ่งล่ะ ที่เชื่อว่ามีคนรักผู้ชายที่ชื่อเนวิน หรือลุงเนวินของชาวบุรีรัมย์ มากขึ้นหลายเท่าตัว

นั่นก็ด้วย "ตัวตน" การเป็นคนแบบนี้นี่แหละ  

พูดจาตรงๆ กูๆ มึงๆ ไม่ต้องมาตอแหลใส่กัน (นี่แกบอกแบบนี้นะ ไม่ใช่ผมพูดเอง)
 
ที่ร่ายยาวมาทั้งสิ้น ผมที่เป็นลูกหลานชาวสุรินทร์ ไม่เคยคิดอิจฉาการเจริญก้าวหน้าทางด้านกีฬา และเศรษฐกิจของเมืองบุรีรัมย์ในตอนนี้นะครับ
 
แต่ผมกลับยินดี และดีใจกับคนในจังหวัดนี้ ว่าพวกเขาและผู้นำของพวกเขา ได้ก้าวมาเป็นเมืองต้นแบบให้กับจังหวัดอื่นๆ ได้เห็น และพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าให้ได้เหมือนอย่างที่บุรีรัมย์เป็น

จังหวัดแห่งหนึ่งที่เติบโตได้ขนาดนี้ ด้วยอุดมคติของคนคนหนึ่ง ที่มุ่งมั่นตามกำลังความสามารถที่ตัวเองมี ก้าวไปพร้อมกับภาครัฐ และเอกชนได้อย่างลงตัว 

จะแปลกอะไรล่ะ ถ้าจะยกให้จังหวัดบุรีรัมย์ คือเมืองต้นแบบดีๆ ด้วยการผลักดันของคนที่น่าทึ่งอย่าง ลุงคนนี้ "เนวิน ชิดชอบ"


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook