ไก่ตีปีก ! "กรีซมันน์" เหมา 2 พลิกแซงอัด เยอรมนี 2-1
ผลบอล ยูฟา เนชันส์ลีก ลีกเอ กลุ่ม 1
ฝรั่งเศส 2-1 เยอรมนี
คืนวันอังคารที่ 16 ตุลาคม 2561
สนาม : สต๊าด เดอ ฟรองซ์
ราฟาเอล วาราน หายเจ็บกลับมาได้และนั่นทำให้ ฝรั่งเศส จะขาดเพียง ซามูเอล อุมติตี้ เท่านั้นที่ไม่ได้ลงเล่นในเกมนี้
ส่วนอีก 10 ตัวที่เหลือล้วนเป็นชุดลักมาตั้งแต่ลงเล่นในศึกฟุตบอลโลกที่รัสเซีย ด้าน เยอรมนี เปลี่ยนตำแหน่งหลายอัตรา
โดยในเกมนี้ แซร์จ นาบรี้ และ เลรอย ซาเน ได้โอกาสลงทำเกมรุกร่วมกับ ติโม แวร์เนอร์ ด้าน ธีโล เคห์เรอร์ ได้โอกาสลงเล่นในแผงเกมรับร่วมกับ มัตส์ ฮุมเมลส์ และ นิคลาส ซือเล
GOAL!!! นาทีที่ 14 เลรอย ซาเน กระชากบอลหนี เปรสเนล คิมเป็มเบ้ ก่อนเปิดอัดเข้ากลางประตู บอลโดนแขนท่อนบนของ คิมเป็มเบ้ ที่ชูขึ้นมาขณะสไลด์ตัวบล็อก กรรมการให้เป็นลูกจุดโทษแก่ทีมเยือน โทนี โครส รับหน้าที่สังหารไม่พลาด
นาทีที่ 19 เยอรมนี เกือบได้ประตูที่สองจากจังหวะที่ เลรอย ซาเน หลุดขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้เขาเลือกจ่ายไปเสาไกลให้ แวร์เนอร์ แต่กองหน้าจาก แมนฯ ซิตี้ จ่ายแรงไปหน่อย พลาดโอกาสไป
นาทีที่ 24 จากจังหวะเตะมุมทางฝั่งซ้าย ฮุมเมลส์ โขกโดนไม่เต็มบอล บอลทะลักไปชนเข่าของ ซือเล กระดอนเข้าทางปืน กินเทอร์ ได้ยิงในเขตโทษ แต่ ยอริส ยังปัดออกไปได้
นาทีที่ 34 ชูลซ์ จ่ายเข้าในให้ ซาเน ได้โอกาสยิงในเขตโทษ บอลแฉลบ นาบรี้ เข้ามือ ยอริส
นาทีที่ 45 ลูก้าส์ แอร์นันัเดซ พาบอลลุยเข้าเขตโทษหนีแนวรับ เยอรมนี 3 คน ก่อนเปิดยัดเข้าเสาแรกให้ ชิรูด์ วอลเลย์ บอลเหินข้ามคานออกไป
จบครึ่งแรก ทีมเยือนเป็นฝ่ายออกนำไปก่อน 1-0
เริ่มครึ่งหลังมาไม่กี่นาที ฝรั่งเศส เกือบได้ประตูตีเสมอจากจังหวะที่ เอ็มบัปเป้ ห้อตะบึงเอาบอลเข้าเขตโทษ หนี นิคลาส ซือเล เข้าไปแปบอลกะให้เสียบเสาไกล แต่ นอยเออร์ ยังออกมาปิดมุมได้เร็ว บอลติดเท้าของนายทวารทีมเยือน
นาทีที่ 55 นิโก้ ชูลซ์ พาบอลหนี ป็อกบา ก่อนแตะเข้าในให้ ซาเน ได้ยิงจังหวะแรก บอลไม่ตรงกรอบ
GOAL!!! นาทีที่ 62 ป็อกบา จ่ายออกขวาให้ แอร์นันัเดซ ครอสเข้ากลาง กรีซมันน์ โฉบเข้ามาโขกที่เสาแรก บอลพุ่งไปเสียสามเหลี่มเสาสองอย่างสวยงาม จนปัญญาของ นอยเออร์ ที่จะปัดได้
นาทีที่ 67 คิมเป็มเบ้ จ่ายบอลเสียในแดนตัวเอง จังหวะสุดท้ายเป็น นาบรี้ ได้ซัดเต็มข้อ แต่ ยอริส ยังเซฟได้เยี่ยม
นาทีที่ 75 ยูเลียน ดรักซ์เลอร์ ลงมาแทน เลรอย ซาเน ที่เริ่มหมดแรง
นาทีที่ 78 มาตุยดี้ โดน ฮุมเมลส์ เสียบล้มในเขตโทษ ผู้ตัดสินให้เป็นลูกจุดโทษแก่ ฝรั่งเศส
GOAL!!! นาทีที่ 80 กรีซมันน์ รับหน้าที่สังหารจุดโทษไม่พลาด เจ้าบ้านออกนำอีกครั้ง 2-1
นาทีที่ 83 ยูเลียน บรันท์ ลงมาแทน มาเธียส กินเทอร์
นาทีที่ 86 อุสมาน เดมเบเล ลงมาแทน คิลิยัน เอ็มบัปเป้
นาทีที่ 88 โธมัส มืลเลอร์ ลงมาแทน แซร์จ นาบรี้ จกานั้น ฝรั่งเศส ได้โอกาสจากจังหวะเตะมุม เดมเบเล ยิงในเขตโทษไปตรงตัวของ นอยเออร์ ตะปบเข้าซอง
นาทีที่ 90+1 ต็องกี เอ็มดอมเบเล ลงมาแทน อ็องตวน กรีซมันน์
นาทีที่ 90+3 สตีเฟน เอ็นซองซี ลงมาแทน เอ็นโกโล ก็องเต้
หลังจากนั้น เยอรมนี พยายามบุกอีก 2-3 ครั้งแต่ไม่สามารถหาโอกาสยิงได้ จบเกมที่ สต๊าด เดอ ฟรองซ์ เจ้าบ้าน ฝรั่งเศส พลิกกลับมาเอาชนะ 2-1
คว้า 3 แต้มเต็ม 2 นัดติด ทิ้ง เยอรมนี ออกไปเป็น 6 แต้ม และทำให้ เยอรมนี ไม่มีสิทธิ์ลุ้นเข้ารอบน็อคเอาท์แล้วในปีนี้