ใครก็หยุดไม่อยู่! "มาร์เกซ" แรงจริงเถลิงแชมป์โมโตจีพีสุดยิ่งใหญ่
การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโตจีพี 2018 สนาม 16 รายการ เจแปนีส กรังด์ปรีซ์ ดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศเมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่สนาม ทวินริง โมเตกิ ประเทศญี่ปุ่น ระยะทางต่อรอบ 4.801 กิโลเมตร ดวลความเร็ว 24 รอบสนาม
โพลโพซิชั่นในเรซนี้เป็นของ อันเดรีย โดวิซิโอโซ รองจ่าฝูงชาวอิตาเลียนจาก ดูคาติ ทีม ที่ต้องการทำทุกอย่างเพื่อหยุด มาร์ค มาร์เกซ จาก เรปโซล ฮอนด้า ไม่ให้ฉลองแชมป์ในสนามนี้ โดยมี โยฮันน์ ซาร์โก นักบิดฝรั่งเศสจาก มอนสเตอร์ ยามาฮ่า เทคทรี ขนาบข้างในกริดที่ 2 ตามด้วย แจ็ค มิลเลอร์ นักบิดออสเตรเลียนจาก อัลมา พรามัค ในกริดที่ 3 ขณะที่ มาร์เกซ ออกสตาร์ทในกริดที่ 6
ออกสตาร์ทเรซด้วยการขึ้นนำอย่างรวดเร็วของ โดวิซิโอโซ เจ้าของโพล ขณะที่ มาร์เกซ ซึ่งลุ้นแชมป์โลกสมัยที่ 5 ขยับจากกริดที่ 6 ขึ้นมารั้งอันดับ 2 หลังผ่านไปเพียง 5 โค้งเท่านั้น เช่นเดียวกับ รอสซี่ ที่ทะลุขึ้นมาถึงอันดับ 5 ในรอบแรกเช่นกัน โดยในรอบที่ 3 คาล ครัทช์โลว นักบิดอังกฤษจาก แอลซีอาร์ ฮอนด้า ขยับแซง มาร์เกซ ขึ้นมารั้งอันดับ 2
ในรอบที่ 4 รอสซี่ ที่บู๊อย่างสุดมันส์เบียดแซง มิลเลอร์ ขึ้นมารั้งอันดับ 4 ส่วน มาร์เกซ ทวงรองฝูงจาก ครัทช์โลว ได้อีกครั้งในรอบที่ 6 โดย รอสซี่ มาโดนคู่หู ซูซูกิ อย่าง อันเดรีย อิอันโนเน และ อเล็กซ์ รินส์ แซงขึ้นไปในอันดับ 4-5 ในรอบที่ 8 ซึ่งเป็นรอบเดียวกันที่ มิลเลอร์ พลาดล้มออกไป
ผ่านครึ่งทางการแข่งขันเกมในกลุ่มนำเป็นการวัดกันของ 3 นักบิดอย่าง โดวิซิโอโซ ผู้นำ ตามด้วย มาร์เกซ อันดับ 2 และ ครัทช์โลว ในอันดับ 3 ก่อนที่ มาร์กซ จะเริ่มเปิดเกมบุกขึ้นมาเป็นผู้นำได้สำเร็จในรอบที่ 12 ทว่า โดวิซิโอโซ ก็เอาคืนได้ทันควันในรอบถัดมา ขณะที่ อิอันโนเน พลาดล้มในรอบเดียวกัน
เกมเริ่มมาเดือดอีกครั้งช่วง 4 รอบสุดท้าย เมื่อ มาร์เกซ แซงขึ้นเป็นผู้นำได้สำเร็จ โดย โดวิซิโอโซ ที่พยายามไล่เอาคืนอย่างหนักกลับพลาดล้มอย่างน่าเสียดายในรอบรองสุดท้าย
จบการแข่งขัน มาร์เกซ บิดเข้าป้ายอันดับ 1 ด้วยเวลา 42 นาที 36.438 วินาที คว้าแชมป์โลกรวมทุกรุ่น 7 สมัย พร้อมกับคว้าแชมป์โลกพรีเมียร์คลาสสมัยที่ 5 ได้อย่างยิ่งใหญ่ ได้ฉลองแชมป์โลกในโฮมเรซของค่ายผู้ผลิตอย่างฮอนด้าในประเทศญี่ปุ่น ส่วนอันดับ 2 และ 3 เป็นของ ครัทช์โลว ตามหลังแชมป์ 1.573 วินาที ตามด้วย รินส์ ช้ากว้าแชมป์ 1.720 วินาที ขณะที่ รอสซี่ นำรถแข่งเข้าป้ายในอันดับ 4 ตามด้วย อัลวาโร เบาติสต้า ในอันดับ 5 ส่
จากชัยชนะครั้งนี้ของ มาร์ค มาร์เกซ ยอดนักบิดสแปนิช ทำให้เจ้าตัวคว้าแชมป์โมโตจีพี ได้เป็นสมัยที่ 5 ซึ่งหากนับแชมป์โมโตทู ที่เคยคว้าแชมป์ได้ 2 สมัย (ปี 2011 และ ปี 2012) ก็จะทำให้เจ้าตัวคว้าแชมป์รวมสมัยที่ 7 แม้ยังเหลืออีกถึง 3 สนามก็ตาม โดยมีคะแนนทิ้งห่างอันดับ 2 ถึง 102 คะแนน
อัลบั้มภาพ 15 ภาพ