5 ประเด็นร้อน : หลังเกมไทย - สิงคโปร์
ทัพช้างศึก กลับมาสู่เส้นทางแห่งชัยชนะอีกครั้ง เมื่อพวกเขาเปิดบ้านถล่ม สิงคโปร์ 3-0 คว้าแชมป์ต่อไปในกลุ่มบี เข้าไปเจอ มาเลเซีย อันดับสองจากลุ่มเอ ต่อไป
ไปดูกันว่ามีประเด็นอะไรที่น่าสนใจเกิดขึ้นบ้างในเกมส่งท้ายรอบแบ่งกลุ่ม ซูซูกิคัพ 2018
5. ความแตกต่างของ มิก้า และ ฟิลิป มิโลวาน ราเยวัช เปลี่ยนตำวแบ็คขวาทัพ ช้างศึก เป็นเกมแรก เมื่อเขาส่ง มิก้า ชูนวลศรี แบ็คขวาจาก แบงค็อก ยูไนเต็ด ได้โอกาสลงเล่นแทนที่ ฟิลิป โรลเลอร์ หนุ่มลูกครึ่งเยอรมนีในเกมนี้ และมีจุดแตกต่างที่ต้องพูดถึง
ที่เห็นชัดเจนเลยก็คือ มิก้า ทำหน้าที่เกมรับได้ดีมาก โดยเฉพาะการสกัดบอลที่เด็ดขาด และการเบียดปะทะที่ทำได้เยียมจน สิงคโปร์ เจาะทางฝั่งของเขาไม่ได้เลย นักเตะอย่าง ชากีร์ ฮัมซาฮ์ และ ซุลฟาฮ์มี อาริฟิน ทำอะไรไม่ได้มากนัก และต้องไปลุ้นเอาเกมรุกอีกฝั่งมากกว่าที่ก็ทำอะไรไม่ค่อยได้เหมือนกัน
แต่สิ่งที่ มิก้า เสียเปรียบจาก ฟิลิป อย่างชัดเจนก็คือการเติมเกมรุก ที่ในเกมนี้เราแทบไม่เห็น มิก้า อยู่ในแดนศัตรูเลย ต่างกับเวลาที่ ฟิลิป ลงเล่นที่เรามักจะเจอเขาบ่อย ๆ เวลาเติมขึ้นมาช่วย มงคล ทศไกร กับ ฐิติพันธ์ พุ่มจันทร์
ความแตกต่างของกองหลัง 2 สไตล์ น่าจะมีผลมากขึ้นในเกมรอบน็อกเอาต์ และเป็นงานของ มิโลวาน ราเยวัช ที่ต้องไขให้ออกว่ากองหลังแบบไหนที่เหมาะจะจัดการกับคู่แข่งอย่าง มาเลเซีย ในรอบต่อไป
4. ศุภชัย อนาคตสดใส แม้จะถูกจับไปเล่นเป็นปีกซ้าย แต่ ศุภชัย ใจเด็ด ยังคงทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อมีทั้งความเร็วและความแข็งแกร่งที่สามารถเล่นงานแบ็คขวาของ สิงคโปร์ ได้ แถมเมื่อโอกาสส้มหล่นมาถึง เขาก็ไม่ใช้โอกาสเปลือง
ศุภชัย มาเบิกสกอร์ของตัวเองได้ในเกมนี้จากจังหวะที่ ซุลกอร์นัย บิน ซุสลิมัน เตะสกัดบอลผิดเหลี่ยมเข้าทาง ศุภชัย ซึ่งเขาก็ยังมีสติเอาบอลลงพื้นได้ดี ก่อนจะยิงเข้าประตูอย่างเฉียบคมแม้มุมยิงไม่กว้างนัก
ถือว่าไม่เลวทีเดียวกับกองหน้าวัย 19 ปีรายนี้ และมีโอกาสที่เขาจะจบทัวร์นาเมนท์ด้วยการยิงเกิน 3 ประตูเสียด้วย
3. ฉัตรชัย น่าเป็นห่วง การทดลองส่งนายประตู 2 รายมาวัดฝีมือกันคนละ 2 เกมในรอบแบ่งกลุ่มคงมาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว และดูเหมือนว่า ฉัตรชัย บุตรพรม น่าจะต้องตกเป็นตัวสำรองตามเดิม
ฉัตรชัย อาจจะทำได้เยี่ยมก็จริงจากการเซฟโอกาสของ อิคซาน ฟานดี้ ได้ถึง 2 ครั้งในเกมนี้ แต่การส่งเขาลงสนามก็ต้องแลกมากับโอกาสที่ทีมจะเสียประตูแบบง่าย ๆ อย่างเช่นในเกมนี้ที่เขาเกือบจะปล่อยบอลที่ส่งคืนหลังจาก สรรวัชญ์ เดชมิตร เข้าประตูตัวเอง
ที่น่าเป็นห่วงก็คือ ฉัตรชัย นั้นดูเต็มไปด้วยความมั่นใจในการเล่นด้วยเท้า เพราะนั่นไม่ใช่ครั้งเดียวที่เขาใช้เท้ารับบอล มีอีกครั้งนึงที่ สิงคโปร์ ได้โอกาสยิงแต่โดนไม่เต็ม บอลไหลเอื่อย ๆ ไปทาง ฉัตรชัย ซึ่งตามปกติแล้วก็น่าจะใช้มือรับมากกว่า แต่เจ้าตัวเลือกที่จะใช้เท้าเล่น โชคดีที่จังหวะดังกล่าวเขายังทำได้ดี เพราะหากบอลหลุดเท้าไปละก็ จังหวะนั้นเป็นประตูแน่นอน
เสริมให้อีกอย่างว่าความผิดพลาดที่รับบอลจาก สรรวัชญ์ พลาดไม่ใช่ความผิดพลาดแรกของเขา เมื่อในเกมที่แล้วกับ ฟิลิปปินส์ เขาก็มีส่วนให้ทีมเสียประตู เมื่อบอลที่ยิงไปชนเสาของคู่แข่งกำลังจะกระดอนกลับมาทางเขา แต่แทนที่เข้าตัวจะพุ่งตะครุบไว้ เขากลับพยายามใช้มือข้างเดียวปัดบอล แต่กลายเป็นว่าบอลกลับหมุนผ่านมือเขาแล้วย้อนเข้าประตูไปแทน
2. อดิศักดิ์ เดินหน้าลุ้นดาวซัลโว แม้จะไม่ใช่เกมที่เขาเล่นได้อย่างโดดเด่น แต่ อดิศักดิ์ ไกรษร ก็ยังยิงประตูได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมนี้ พร้อมขยับเข้าใกล้การเป็นดาวซัลโวสูงสุดของทัวร์นาเมนท์ไปเรื่อย ๆ
ปัจจุบันนักเตะที่เคยทำประตูสูงสุดใน 1 ทัวร์นาเมนท์ได้ก็คือ นอ อลัม ชาฮ์ ของ สิงคโปร์ ซึ่งยิงไป 10 ประตูในปี 2007 แต่ในปัจจุบัน อดิศักดิ์ ไกรษร ซึ่งเล่นไปเพียง 4 นัดเท่านั้นทำไปแล้ว 8 ประตูด้วยกัน และน่าเชื่อว่ายังมีโอกาสยิงเพิ่มอีกแน่จากเกม 2 นัดในรอบน็อกเอาต์กับ มาเลเซีย ที่กำลังจะมาถึงช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้
1. สรุปผลรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ
เวียดนาม จบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มจากการชนะในเกมสุดท้ายเหนือ กัมพูชา ชนะ 3 เสมอ 1 มี 10 คะแนน ยิงได้ 8 ประตู และเป็นทีมเดียวในทัวร์นาเมนท์ที่ยังไม่เสียประตูเลยจาก 4 นัด รอเจอ ฟิลิปปินส์ ในรอบน็อกเอาต์
มาเลเซีย จบด้วยการเป็นรองแชมป์กลุ่ม หลังเปิดบ้านถล่ม เมียนมาร์ 3-0 แซงเข้าป้ายอันดับ 2 ด้วยการมี 9 คะแนนจากการชนะ 3 นัด แพ้ 1 นัด ยิงได้ 7 เสีย 3 รอเจอ ไทย ในรอบน็อกเอาต์
กลุ่มบี
ไทย จบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มหลังถล่ม สิงคโปร์ 3-0 มี 10 คะแนนจากการชนะ 3 นัด เสมอ 1 นัด เป็นทีมที่ยิงได้มากที่สุดในตอนนี้ที่ 15 ประตู เสีย 3 ประตู รอเจอ มาเลเซีย ในรอบต่อไป
ฟิลิปปินส์ ยันเสมอกับ อินโดนีเซีย ไว้ได้ที่ 0-0 ทำให้พวกเขาตามเข้ามาเป็นอันดับ 2 มี 8 คะแนนจากการชนะ 2 นัด เสมอ 2 นัด ยิงได้ 5 ประตู เสีย 3 ประตู รอเจอ เวียดนาม ในรอบต่อไป