ไร้วินัย VS ลงโทษเกินกว่าเหตุ : กระแสสังคมที่เราต้องขบคิด?

ไร้วินัย VS ลงโทษเกินกว่าเหตุ : กระแสสังคมที่เราต้องขบคิด?

ไร้วินัย VS ลงโทษเกินกว่าเหตุ : กระแสสังคมที่เราต้องขบคิด?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วงการกีฬาเมืองไทย ณ เวลานี้ คงไม่มีข่าวใหน ตกเป็นกระแสสังคมได้มากมาย เท่ากับข่าววุ่นๆในรั้วสมาคมเทควันโด้ไทย

ตลอดเกือบสัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าวของนักกีฬาจอมเตะของไทย "น้องก้อย" รุ่งระวี ขุระสะ  เจ้าของเหรียญทองแดงศึกชิงแชมป์เอเชีย 2014 ที่อุซเบกิสถาน ที่ได้ออกมาแฉว่าตัวเองโดน "โค้ชเช"  เช ยอง ซอก  ผ่านสังคมออนไลน์อย่างเฟซบุ๊ค

ว่าตัวเองนั้นถูกเฮดโค้ชทีมชาติไทยชาวเกาหลีใต้รายนี้ ลงโทษเกินกว่าเหตุ ด้วยการทำร้ายร่างกาย หลังจากตัวเองไม่มีความพร้อม ในเรื่องการเตรียมอุปกรณ์ป้องกันตัวมาแข่งขัน ในรายการ โคเรีย โอเพ่น 2014" ณ ประเทศเกาหลีใต้



ในเรื่องนี้ กลายเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง บ้างก็เห็นใจและเข้าใจโค้ชเช บ้างก็ว่าทำเกินกว่าเหตุบ้าง

งานนี้ความกดดันจึงตกไปอยู่ที่ "บิ๊กชา" นายปรีชา ต่อตระกูล อุปนายกสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย ที่ต้องเข้ามาจัดการในเรื่องน่าปวดหัวเช่นนี้

โค้ชเช ที่ชาวไทยเรียกกันอย่างคุ้นหู สร้างผลงานให้เป็นทีรู้จักไปทั่วเมืองไทย จากการปั้น "น้องวิว" เยาวภา บุรพลชัย ให้โด่งดังเป็นพลุแตก ด้วยการก้าวขึ้นไปคว้าเหรียญทองแดง ในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ เมื่อปี 2004

หลังจากนั้นหนุ่มจากแดนกิมจิ ก็เดินหน้าพาทีมเทควันโด้แห่งแดนสยาม เก็บความสำเร็จมาอย่างมากมาย ทั้งแชมป์โลก และ เหรียญทองกีฬาเอเชี่ยนส์เกมส์ มาตลอด 10 ปีเต็มๆ

ภาพที่นักกีฬาของไทยคว้าควำสำเร็จบนสังเวียน แล้วก้มลงกราบโค้ชเช เป็นภาพที่ชินตา และเห็นอยู่เนืองๆ ว่านี่เกิดจากการเทิดทูนและความรักความผูกพันมิใช่หรือ?



ถ้าหากจำกันได้ ช่วงที่โค้ชเช กำลังจะหมดสัญญาในการคุมทีมชาติไทย มีหลายต่อหลายประเทศ ที่พร้อมทุ่มเงินจำนวนมหาศาล เพื่อหวังดึงเฮ็ดโค้ชอย่างเขาไปคุมทีม เพราะประเทศเงินถุงเงินถังเหล่านั้น ได้เห็นสิ่งที่เขาบรรจงสร้างให้จอมเตะทีมชาติไทยประสบความสำเร็จอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

แต่ทว่า โค้ชเช กลับมองข้ามก้อนเงินจำนวนนั้น และเลือกที่จะต่อสัญญาเพื่ออยู่คุมทีมชาติไทย เพื่อเป้าหมายสูงสุดในชีวิตการเป็นโค้ชของเขา คือ "พานักกีฬาเทควันโด้ไทยคว้าเหรียญทองโอลิมปิก" ที่สำคัญเขายังบอกด้วยว่าเขารักและผูกพันกับคนไทยไปแล้ว

แต่หลังจากที่กระแสข่าวนี้ออกมา ต้องยอมรับว่า สร้างแรงกดดันให้กับโค้ชเชอย่างมากมาย แม้กระทั่ง "เจ้าแม็กซ์" ชัชวาล ขาวละออ อดีตแชมป์โลก ที่ปัจจุบันผันตัวเองมาเป็นผู้ช่วยโค้ชทีมชาติไทย

ซึ่งเดินทางไปคุมทีมนักกีฬาที่เกาหลีใต้ยังพูดเองเลยว่า การลงโทษของโค้ชเชแบบนี้ ไม่ได้เกินกว่าเหตุเลย หนำซ้ำยังบอกอีกด้วยว่า ตอนที่ตัวเองเป็นนักกีฬา ตนก็เจอแบบนี้มาแล้วและไม่รู้สึกว่ามันเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุเลย

แต่จุดหนึ่งที่ทำเอาแฟนกีฬาชาวไทยรู้สึกใจหายจากการที่เจ้าแม็กซ์ได้เปิดเผย นั่นคือ เวลานี้โค้ชเชเสียใจมาก และถึงกับร้องไห้เลย ผู้ใหญ่ของเกาหลีรู้เรื่องนี้แล้วและโกรธมาก พร้อมกับชวนให้โค้ชเชกลับไปเป็นอาจารย์ที่เกาหลี และตอนนี้ภรรยาพร้อมกับลูกชายของโค้ชเชก็เดินทางมาเกาหลีแล้ว



"หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ ทำใจไว้ล่วงหน้าได้เลยครับ โค้ชเชอาจจะไม่กลับเมืองไทยแล้ว" !!!

ทางด้าน นายปรีชา ต่อตระกูล อุปนายกสมาคมเทควันโดก็ออกมาเปิดเผยเช่นกันว่า โค้ชเชเสียกำลังใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งที่ทำเพื่อไทย สอนกีฬาให้มีระเบียบวินัยและการทำโทษก็ทำต่อหน้านักกีฬาและโค้ชทุกคน ส่วนรายละเอียดของเรื่องไม่ขอเปิดเผย ให้เป็นหน้าที่ คณะกรรมการสอบสวน ส่วนที่เป็นห่วงคือกลัวเกาหลีใต้ เรียกตัวให้กลับไปคุมทีม

จากเหตุการณ์ทั้งหลายทั้งปวง คงต้องยอมรับกันครับว่า เป็นเรื่องยากที่จะตัดสินว่า "นี่คือถูก นี่คือผิด" แต่เหตุการณ์แบบนี้ใช่ว่าจะไม่เคยเกิดขึ้น

แต่คนหรือนักกีฬาในวงการเขาก็พอที่จะรู้ และรับทราบว่า การลงโทษของโค้ช มันมีหนักมีเบาเสมอ อันนี้ก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน

สุดท้ายต่อให้โลกนี้หมุนไปมากขนาดใหน แต่สุภาษิตไทยที่ว่า "รักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี" เชื่อว่า ทุกวันนี้ยังใช้ได้เสมอ 



เรื่องโดย : "บ.ส้มซิ่ง"

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook