"วิว เยาวภา" รับ เคยถูกโค้ชลงโทษเตะปาก ตาปิด ย้อนถาม "น้องก้อย" ถ้าโค้ชเช ไม่กลับมารับผิดชอบไหวไหม

"วิว เยาวภา" รับ เคยถูกโค้ชลงโทษเตะปาก ตาปิด ย้อนถาม "น้องก้อย" ถ้าโค้ชเช ไม่กลับมารับผิดชอบไหวไหม

"วิว เยาวภา" รับ เคยถูกโค้ชลงโทษเตะปาก ตาปิด ย้อนถาม "น้องก้อย" ถ้าโค้ชเช ไม่กลับมารับผิดชอบไหวไหม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม วิว เยาวภา บุรพลชัย อดีตนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทยเจ้าของเหรียญทองแดงโอลิมปิกที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ เขียนข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "Yaowapa Boorapolchai" ภายหลังที่ "น้องก้อย" รุ่งระวี ขุระสะ นักเทควันโดสาวทีมชาติไทยรุ่นประชาชนอายุ 23 ปี พร้อมครอบครัว ให้สัมภาษณ์เปิดใจในรายการเจาะข่าวเด่น ทางช่อง 3  จากกรณีที่มีการกล่าวหาว่าถูก "โค้ชเช" หรือ เช ยอง ซอก เฮดโค้ชเทควันโดทีมชาติไทยชาวเกาหลีใต้ ทำโทษโดยการทำร้ายร่างกาย โดย "วิว เยาวภา" ระบุว่า

โค้ชเช มาประเทศไทยครั้งแรกปี 2002 ครั้งแรกที่ได้เจอโค้ช คือแมทช์ เทควันโดชิงแชมป์ประเทศไทย โค้ชมานั่งดูการแข่งขัน แล้วก็มีคนมาแนะนำว่านี่เป็นโค้ชเกาหลีคนใหม่ ที่จะมาดูแลนักกีฬาแข่งขันเอเชียนเกมส์ ที่ปูซาน เกาหลีใต้ ตอนนั้นรู้สึกตื่นเต้น โค้ชก็ยิ้มให้ เราก็สวัสดีโค้ช แล้วนึกยังไงไม่รู้ ภาษาอังกฤษก็ไม่แข็งแรง อยู่ๆก็พูดออกไปว่า i want to be national player โค้ชก็ยิ้มๆแล้วก็พยักหน้าให้ ในที่สุดหลังจากได้เหรียญทองในรายการนั้น ก็ทำให้มีชื่อของ เยาวภา บุรพลชัย อยู่ในรายชื่อของนักกีฬาที่เข้าร่วมเก็บตัวฝึกซ้อมสำหรับเอเชี่ยนเกมส์

การฝึกซ้อมในช่วงแรกที่โค้ชเชเข้ามาคุม นักกีฬากับโค้ชยังไม่ค่อยเข้าใจกันเท่าไหร่ โค้ชยังพูดภาษาไทยไม่ได้ และเวลาซ้อมนักกีฬายังทำไม่ค่อยได้ตามที่โค้ชต้องการ ทั้งเรื่องระเบียบวินัย และเทคนิคการเตะ แต่โค้ชก็จะมีวิธีการต่างๆนานา ที่จะดึงศักยภาพของเราออกมา กดดันเรา กระตุ้นเรา ดุด่าเรา ปลุกใจเรา ให้กำลังใจเรา หรือแม้แต่ลงโทษเรา ทำให้เราต้องเจ็บทั้งตัวและหัวใจ

ยอมรับนะคะเวลาฝึกซ้อมโค้ชลงโทษหนักจริงๆ การฝึกซ้อมก็หนัก การร้องไห้ตอนซ้อมเป็นเรื่องปกติ บอกอย่างไม่อายนะคะ น้ำตากับเหงื่อมันปนกัน จนแยกไม่ออก เวลาที่เล่นไม่ถูกใจ เนือย เอื่อย โค้ชก็เรียกมาเข้าคู่ค่ะ ใส่อุปกรณ์ป้องกัน ไม่ใส่บ้าง เรียกมาเตะ จริงเค้าก็ให้โอกาสเราสู้นะคะ แต่แรกๆค่ะสู้ไม่ได้เลย แรงน้อยกว่า ช้ากว่า เตี้ยกว่า ยิ่งเตะกับโค้ชเตะไปเค้าก็หลบได้ แรงหมด พอยิ่งทำท่าหมดแรง โค้ชก็ยิ่งเตะ เตะจริงๆนะคะ ไม่ได้ยั้ง เคยโดนเตะ ปากแตก เลือดกำเดาไหล ตาปิดไปข้างนึง หน้าบวม โดนเตะท้องลงไปชักดิ้นชักงอ ก็บ่อย วิวซ้อมแบบนี้กับโค้ชทุกวันนะคะ เพราะเค้าเรียกทุกวัน ร้องไห้ทุกวัน ร้องในสนาม ร้องไห้ในห้องน้ำ เวลาซ้อมไม่คำว่าผู้หญิงผู้ชายนะคะ ทุกคนเท่ากันหมด ยอมรับนะคะ ในใจลึกๆโกรธโค้ช ว่าต้องทำถึงขนาดนี้ บางครั้งไม่ได้ดั่งใจใช้ไม้ตีแรงๆหลายๆที

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ด้วยวิธีการนี้ โค้ชทำให้นักกีฬาอย่างวิว ที่ไม่มีพรสวรรค์อะไร เวลาแข่งขันมีแต่ความบ้าใช้พลัง ในเวลาไม่กี่เดือน โค้ชทำให้วิว ได้เหรียญในเอเชี่ยนเกมส์ และ สร้างชื่อให้กับประเทศชาติอย่างต่อเนื่องในรายการต่างๆ จนกระทั่งเหรียญประวัติศาสตร์ในโอลิมปิกเกมส์

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้เพราะ "ความศรัทธา" และ "ความเชื่อ" ลูกศิษย์เชื่อในตัวโค้ช โค้ชเชื่อในตัวนักกีฬา บวกกับความทุ่มเท พยายาม จึงเกิดความสำเร็จขึ้นมาได้ โค้ชทำให้สิ่งที่คนอื่นคิดว่า "ทำยาก" เป็นสิ่งที่ "ทำได้"

อยากให้สังคมมองหลายๆมุมนะคะ ที่พูดอย่างนี้ไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์ใคร เพราะแต่ละคนความคิดก็แตกต่างกันไป แต่อยากให้วิพากษ์กันด้วยสติ อย่าใช้คำที่รุนแรง

อยากให้ทุกอย่างจบลง ด้วยผลประโยชน์ของประเทศเป็นที่ตั้งค่ะ

โค้ชเชพูดอยู่ตลอดนะคะว่า ความฝันสูงสุดของโค้ช คือ "คนไทยได้เหรียญทองโอลิมปิก"

อยากให้โค้ชอยู่ทำความฝันให้เป็นจริง และเมื่อวันนั้นมาถึง เราคนไทยทุกคนจะได้มีความสุขพร้อมกันทั้งประเทศ

ต่อมา วิว ยังโพสต์เพิ่มเติมอีกว่าว่า

พี่ไม่รู้จักน้องเป็นการส่วนตัวนะคะ น้องก็ไม่รู้จักพี่ แต่คงจะไปเที่ยวถามคนนู้นคนนี้ว่าพี่เป็นยังไง หรือโดนอะไรมา ในเรื่องที่เกิดขึ้นกับน้องพี่เสียใจด้วยที่ต้องโดนแบบนั้น

แต่พี่ก็ไม่เคยพูดประเด็นของน้องที่เกิดขึ้นที่เกาหลี เพราะพี่ไม่เห็น พี่ไม่อยู่ในเหตุการณ์ พี่เลยไม่พูด ดังนั้นก่อนจะพูดพาดพิงถึงพี่ น้องหาข้อมูลมาให้ดีกว่านี้นะคะ หรือถ้าไม่รู้ ไม่แน่ใจ ไม่ต้องพูดเลยก็ได้

เวลาที่พี่ให้สัมภาษณ์ พี่พูดแต่เรื่องตัวเองนะคะ

น้องเพิ่งติดทีมชาติไม่กี่เดือน แข่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 น้องคิดว่าน้องโดนหนักที่สุดแล้วเหรอคะ คนอื่นๆ ที่เค้าอยู่มานานๆ น้องคิดว่าไม่โดนเหรอคะ

น้องออกมาบอกให้โค้ชออกมาขอโทษผ่านสื่อ เพราะน้องดูเป็นคนไม่ดี ไม่มีวินัย ไม่อยากให้ใครมาว่า น้องน่าจะคิดก่อนที่จะโพสต์อะไรนะคะ มันไว ที่กระแสเค้าวิพากษ์วิจารณ์ ก็เพราะน้องทำอะไรวู่วามเอง ไม่คิดถึงผลที่จะตามมา เวลามันสะท้อนกลับก็แรงอย่างนี้ ต้องทำใจ

พี่ขอตอบคำถามสุดท้ายที่น้องถามนะคะ ว่าถ้าลูกพี่เป็นผู้หญิงพี่จะรู้สึกยังไง ถ้าโดนโค้ชทำร้าย ?

คือถ้าลูกพี่ อายุ 23 แล้ว แล้วเป็นทีมชาติ พี่ไม่ซีเรียสนะคะ ถ้าไม่ถึงกับ ตาปูด เลือดไหล เพราะพี่โดนมาแล้วไม่เป็นไรค่ะ ไม่ตาย จิตใจไม่บอบช้ำ เพราะพี่เข้าใจ และความฝันพี่ยิ่งใหญ่

สุดท้ายที่พี่ออกมาแสดงความเห็นอย่างนี้ไม่ใช่ว่า เกลียดน้องหรืออะไรนะคะ พี่อยากให้น้องทำความเข้าใจ และบอกเล่าประสบการณ์ในฐานะอดีตรุ่นพี่ทีมชาติคนหนึ่ง

ถ้าโค้ชเสียใจ ไม่กลับมา น้องรับผิดชอบไหวมั้ยคะ ?

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook