ไม่มีนักเตะคนไหนยิ่งใหญ่กว่าสโมสร

"ประวัติศาสตร์" ก็คือ "ประวัติศาสตร์" หลายต่อหลายคนได้ก้าวเท้าเข้ามาเพื่อเรียนรู้สิ่งสวยงามในอดีต และก็เดินจากไปเมื่อซึมซับสิ่งเหล่านั้นได้แล้ว

คงไม่ต่างอะไรจากสโมสร ลิเวอร์พูล ซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์อันหอมหวาน ที่ยังพอจะเป็นแรงดึงดูดกวักมือเรียกให้นักเตะรุ่นใหม่เข้ามายังสโมสร แต่แล้วเมื่อวันเวลาผ่านไปประวัติศาสตร์ที่ว่านั้นมันไม่ได้สวยงามอีกแล้ว ทำให้ผู้เล่นหลายๆ คนเลือกที่จะเดินออกประตูแอนฟิลด์ ไปหาความสำเร็จกับสโมสรใหม่ๆ

ไม่ว่าจะเป็น ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, เฟร์นานโด ตอร์เรส รวมไปถึง ชาบี อลอนโซ่ (แม้รายนี้ จะออกเพราะน้อยใจก็ตาม) ในยุคทองของ ราฟาเอล เบนิเตซ ต่างตบเท้าออกจากทีมไปหมดแล้ว โดยเฉพาะรายล่าสุดที่ "หงส์แดง" ต้องเสีย หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าเบอร์ 1 ของทีม ไปให้กับ บาร์เซโลน่า เรียบร้อย ด้วยค่าตัว 75 ล้านปอนด์ (4,125 ล้านบาท)

ภาพที่ผมไม่อยากเห็นมากที่สุด

ยอมรับว่าเลยว่ายังคงทำใจไม่ได้เหมือนกันกับการที่ ลิเวอร์พูล ต้องขาย "คิงหลุยส์" ออกไป แม้ลึกๆ จะทำใจไว้แล้วว่ายังไงเราก็ต้องเสียดาวเตะรายนี้ไปอยู่ดี ด้วยปัจจัยอะไรรวมกันหลายอย่างๆ

เพราะนับตั้งแต่ที่ ซัวเรซ ไปโชว์พฤติกรรม "ทไวไลต์ ภาค 3" กัดหัวไหล่ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ กองหลังทีมชาติอิตาลี ในการแข่งขัน "เวิลด์ คัพ" ฉบับแซมบ้า ตำนานแข้ง ลิเวอร์พูล ต่างก็พาเหรดพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "ขายเนื้อร้ายทิ้งไปซะ"

ภาพลักษณ์ของสโมสรที่สะสมมาต้องถูกทำลายลงเพราะคนๆเดียวเหรอ?

เฉกเช่นเดียวกับ ลิเวอร์พูล ที่ก็นิ่งเฉยแทบไม่ได้ออกมาปกป้อง ซัวเรซ กับเหตุการณ์ครั้งนี้ เหมือนแต่ครั้งก่อนๆอีกแล้ว พร้อมทั้งปล่อยตัวให้กับ "บาร์ซ่า" ไปอย่างง่ายดาย ทั้งๆที่ดิ้นรนจนเลือดตาแทบกระเด็นในการรั้งตัว "คิงหลุยส์" เอาไว้เมื่อซีซั่นก่อน

แต่ช่วงเวลาที่กำลังเลียแผลใจหลังการจากไปของ ซัวเรซ ในหัวก็กลับคิดถึงคำพูดของ "คิงเคนนี่" สมัยที่ ลิเวอร์พูล ต้องเสีย ตอร์ไม้ เอ้ย ตอร์เรส ไป (จำได้ว่าตอนนั้นนอนไม่หลับ นอนลุ้นทั้งคืนว่าจะย้ายไหม สุดท้าย ตอร์เรส ย้ายไปหาแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์กับ เชลซี)

เคนนี่ ดัลกลิช พูดมาประโยคเดียวที่ทำให้ "เดอะ ค็อป" ทั่วโลก แทบจะลืม ตอร์เรส ไปได้อย่างสนิทใจ นั่นก็คือ

"สิ่งสำคัญที่สุดก็คือสโมสร สำคัญและยิ่งใหญ่กว่าใครแค่คนเดียว"

ดังนั้นคิดในแง่ดีการเสีย ซัวเรซ ทำให้เรามีนักเตะใหม่ๆเข้ามาเสริมทีมหลายคน มีมิติเกมรุกมาขึ้น ขนาดของทีมก็อาจจะใหญ่มากขึ้น!

ตอนนี้ ลิเวอร์พูล ได้มาแล้ว 4 คน ริคกี้ แลมเบิร์ต, อดัม ลัลลาน่า, เอ็มเร่ ชาน และล่าสุด ลาลาซาร์ มาร์โควิช ซึ่งอาจจะมีนักเตะมาเสริมทัพอีกด้วยสัก 2-3 ราย โปรดเชื่อมั่นกับคนที่ยังทำงานให้กับ ลิเวอร์พูล และทุ่มเทให้กับสโมสรอย่างเต็มที่ ว่าสักวันพวกเขาเหล่านั้นจะพาสโมสรประสบความสำเร็จ

4 หน้าใหม่แม้จะไม่ใช่เบอร์ใหญ่ยังไงก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย

โปรดอย่าไปยึดติดกับของเดิมๆ ที่เขาทิ้งเราไว้ข้างหลัง มองไปที่อนาคตกับสิ่งใหม่ๆจะมาถึง

มันก็จริงอยู่ผมคงปฏิเสธไม่ได้หรอกนะครับว่าการขาด ซัวเรซ ไป มันจะส่งผลให้ ลิเวอร์พูล ลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการแข่งขันรายการต่างๆด้วยทั้ง เอฟเอ คัพ, ลีก คัพ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็อาจจะยากตามไปด้วย

แต่แล้วยังไงล่ะครับ ผมว่าชีวิตมันก็ยังคงต้องดำเนินต่อไป (เหมือนชีวิตที่ยังสวยงาม เพลงใหม่จากพี่ตูน !) ตราบใดที่เรายังมีแรงหายใจ ก็ศรัทธาเชียร์กันต่อไป เชื่อว่าสักวันหนึ่งคำว่า "ประสบความสำเร็จ" ก็น่าจะมาถึงไม่ช้าก็เร็วในรั้วของสโมสรที่ชื่อว่า "ลิเวอร์พูล"

HaiiHowdy-

รักนะจ๊ะ "แอนฟิลด์"