"5 ประเด็นร้อน" หลังเกมเรือใบถล่มแหลก 9-0
แม้จะไม่เกินความคาดหมายที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะเปิดบ้านถล่มคู่แข่งจาก ลีกวัน อย่าง เบอร์ตัน อัลเบี้ยน กระจุบกระจาย
แต่การยิง 9 ประตูในเกมเดียวก็ออกจะเวอร์วังไปหน่อยสำหรับฟุตบอลสมัยใหม่ ซึ่ง ซิตี้ ก็พิสูจน์แล้วว่าไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้สำหรับพวกเขา
ไปดูกันว่ามีประเด็นอะไรที่น่าสนใจเกิดขึ้นบ้างในเกม คาราบาวคัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ เบอร์ตัน อัลเบี้ยน
5. ประตูแรกในนาม ซิตี้ ของ ซินเชนโก้ มิดฟิลด์ตัวรุกชาวยูเครนถูกจับไปเล่นเป็นแบ็คซ้ายเกือบตลอดในถิ่น เอติฮัด และนั่นทำให้เขาไม่เคยยิงประตูได้เลยกับ เรือใบสีฟ้า แต่ในเกมกับ เบอร์ตัน อัลเบี้ยน เขาก็ทำเรื่องเหลือเชื่อด้วยการยิงลูกใบไม้ร่วงสุดสวยให้ทีมออกนำ 4-0 ในนาทีที่ 37 ของเกม
จังหวะดังกล่าวเหมือนจะไม่มีอะไร เมื่อแนวรับของ เบอร์ตัน แพ็คเกมกันแน่นในเขตโทษและเปิดพื้นที่หน้าเขตโทษไว้นิดหน่อย เมื่อ ซาเน แตะบอลคืนให้เขา เจ้าตัวจึงทำงานปั่นย้อยที่เหมือนตั้งใจจะจ่ายเข้าเขตโทษ แต่กลายเป็นว่าบอลหมุนย้อยเสียบใต้คานไปแบบงง ๆ กลายเป็นประตูแรกของเขากับยอดทีมแห่งอังกฤษ
4. การใช้งาน VAR อย่างคุ้มค่า แม้จะไม่ค่อยมีจังหวะปัญหาให้ได้เห็นมากนัก แต่ในเกมนี้ที่ เอติฮัด สเตเดี้ยมก็มีการใช้ VAR ไป 2 จังหวะ และก็ถือว่าทำได้ดีเมื่อการตัดสินออกมาอย่างใสสะอาดและเป็นไปอย่างรวดเร็ว
VAR ถูกใช้ครั้งแรกในนาทีที่ 34 เมื่อ กาเบรียล เชซุส ส่งบอลไปตุงตาข่าย แต่นักเตะ เบอร์ตัน ข้องใจจังหวะก่อนหน้านั้นเมื่อ กุนโดกัน หยอดบอลเข้าเขตโทษให้ ซิลบา ชนิดที่ก้ำกึ่งสุด ๆ แต่เมื่อดูจาก VAR แล้วก็ชัดเขนว่า ซิลบา ไม่ล้ำหน้าแต่อย่างใด
ต่อมา VAR ถูกใช้อีกครั้งช่วงท้ายครึ่งแรก คราวนี้เป็นฝั่ง ซิตี้ ที่ขอให้ดู VAR บ้างเมื่อ เชซุส หโดยสอยล้มในจุดโทษ แต่หลังจากเช็คกับผู้ตรวจสอบวิดีโอ ไมค์ ดีน ผู้ตัดสินหลักก็เป่าให้เล่นต่อโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น
3. อีก 1 แฮตทริกของ เชซุส ด้วยความที่เจ้าตัวมักได้รับบทบาทเป็นตัวสำรองของ กุน อเกวโร ทำให้หลาย ๆ ครั้งเรามักจะลืมไปว่ากองหน้าคนนี้พังประตูได้เยอะสุด ๆ ทั้งที่เพิ่จะอายุแค่ 21 เท่านั้น โดยเมื่อบวก 4 ประตูในเกมนี้ เชซุส สามารถยิงให้ ซิตี้ ไปแล้ว 12 ประตูด้วยกันในฤดูกาลปัจจุบัน
แฮตทริกนี้ยังเป็นครั้งที่ 2 ที่เจ้าตัวทำได้ในฤดูกาลนี้อีกด้วย หลังจากก่อนหน้านี้ก็ทำได้ในเกม ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก ที่เอาชนะ ชัคตาร์ โดเน็ตสก์ ไป 6-0
2. ขุมกำลังสำรองที่ยังไว้ใจได้ สิ่งหนึ่งที่ทำให้ เรือใบสีฟ้า นั้น่ากลัวสุด ๆ ในฤดูกาลนี้ก็คิือขุมกำลังสำรอง อย่าลืมว่านักเตะอย่าง กาเบรียล เชซุส, อิลคาย กุนโดกัน, ริยาด มาห์เรซ, นิโคลาส โอตาเมนดี้ หรือ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ เป็นเพียงแค่แข้งอะไหล่หมุนเวียนเท่านั้น แต่พวกเขากลับไม่ได้ทำให้ความน่ากลัวของทีมหายไปแต่อย่างใด นี่ยังไม่นับพวกดาวรุ่งที่ฟอร์มจัด ๆ อย่าง ฟิล โฟเด้น หรือ เอริค การ์เซีย อีกนะ
เมื่อมองดูคู่แข่งแย่งแชมป์ พรีเมียร์ลีก พวกเขาถือว่าได้เปรียบสุด ๆ ในข้อนี้ชนิดที่ว่าไม่มีใครทาบทามได้ หรือให้เอาแข้งอะไล่อีก 5 ทีมที่เหลือมารวมกันก็อาจจะยังสู้ไม่ได้ด้วยซ้ำ
1. ต่างชั้นกันเกินไป ไม่มีปาฏิหาริย์สำหรับ เบอร์ตัน อัลเบี้ยน เมื่อพวกเขาบุกมาโดนถล่มถึง เอติฮัด สเตเดี้ยม 0-9 ทำให้เหลือแค่ลงเล่นในบ้านของพวกเขาที่ อีตันพาร์ค อย่างสุดความสามารถเท่านั้นก่อนจะอำลาถ้วยใบนี้ไปอย่างภาคภูมิในที่สุดเท่าที่จะทำได้
ในเกมนี้พวกเขาโดนยิงไปถึง 28 ครั้ง มากกว่าที่พวกเขาสร้างโอกาสได้ถึง 7 เท่า โนยิงตรงกรอบ 14 ครั้ง และเป็นประตู 9 ประตูด้วยกัน ในขณะที่ เบอร์ตัน ยิงตรงกรอบแค่ครั้งเดียวเท่านั้น และไม่ได้ทำปันตรายแก่ อาริยาเน็ต มูริช นายทวารเจ้าบ้านเลยแม้แต่น้อย
ด้านการครองบอลพวกเขาก็ทำได้แค่ 26% เท่านั้น ในขณะที่คู่แข่งครองบอลถึง 74% การจ่ายบอลก็ทำได้แค่ 292 ครั้ง จ่ายแม่นยำ 75% ในขณะที่ ซิตี้ จ่ายไปมากถึง 818 ครั้ง และแม่นยำถึง 91% ด้วยกัน
นัดสุดท้ายแค่ทำให้ดีที่สุดก็พอ เพราะสำหรับทีมที่อยู่ใน ลีกวัน มาถึงรอบเซมิไฟนอลได้ก็ถือว่าเก่งมากแล้ว