5 ประเด็นร้อนหลังเกม ลิเวอร์พูล 1-1 เลสเตอร์ ซิตี้
ลิเวอร์พูล ไม่สามารถฉวยโอกาสโกยแต้มห่างกับ แมนฯ ซิตี้ ได้ เมื่อทำได้เพียงเสมอกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ผู้มาเยือนไป 1-1 ทำให้หนี ซิตี้ ออกไปเพียง 5 คะแนนเท่านั้น ในขณะที่ เลสเตอร์ ซิตี้ รั้งอันดับ 11 ของตาราง
ไปดูกันว่ามีประเด็นอะไรที่น่าสนใจเกิดขึ้นบ้างในเกมนี้
5. แนวรับที่แสนภาคภูมิใจกลายเป็นปัญหา
ลิเวอร์พูล มีแนวรับสุดแกร่งที่แสนภานคภูมิใจเมื่อช่วงต้นฤดูกาลลากยาวมาจนสิ้นปีที่แล้ว แต่หลังจากที่กองหลังตัวหลักบาดเจ็บรัว ๆ ตอนนี้แนวรับของพวกเขายวบไปเป็อย่างมาก โดยเฉพาะตำแหน่งทางด้านขวา
เยอร์เก้น คล็อปป์ ตัดสินใจใช้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงมาคุมเกมด้านข้าง หลังจากที่เสีย เจมส์ มิลเนอร์ จากโทษแบนไปในเกมก่อน ซึ่งกัปตันทีม ฟงส์แดง ทำได้ไม่ดีนักในการคุมตัว และบ่อยครั้งทำให้เพื้อนร่วมทีมต้องเหนื่อยเกินเหตุ
ส่วน โจเอล มาติป ก็ยังคงไม่สามารถตอบแทนความคาดหวังของ คล็อปป์ ที่ไปดึงตัวมาจากเยอรมนีได้ หลังในเกมนี้เขามีจังหวะโดนเล่นงานอยู่ 3-4 ครั้ง ส่วน ฟาน ไดค์ กับ โณเบิร์ตสัน ที่ดูเหมือนจะทำได้ดีและคงเส้นคงวากว่าก็ดันมีส่วนกับการเสียประตูของทีมเสียอีก
แนวรับคนเดียวที่ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมนี้เห็นจะเป็น อลิสซอน ที่ช่วยเซฟสำคัญได้ในต้นครึ่งหลัง ไม่อย่างนั้น หงส์แดง อาจมีชะตากรรมที่แย่กว่านี้ไปแล้ว
4. ชิลเวลล์ เจิดจรัส
หากให้เลือกแบ็คซ้ายที่ดีที่สุดในเกมนี้คงต้องบอกว่าเป็นเรื่องยากมากจริง ๆ เมื่อทั้ง ชิลเวลล์ และ โรเบิร์ตสัน ทำผลงานได้ดีทั้งคู่ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับผลงานของแบ็คซ้ายฝั่ง ลิเวอร์พูล ที่ไม่โดนโจมตีมากนักในครึ่งหลัง เจ้าหนู เบ็น ชิลเวลล์ ก็ดูจะมีภาษีดีกว่าในเกมนี้
ชิลเวลล์ ทำหน้าที่ทางกราบซ้ายได้ดีพอสมควรในการหยุดเกมของ เฮนเดอร์สัน กับ ชากิรี และยังมีโอกาสตัดบอลแจ่ม ๆ อีกหลายครั้ง เขายังเป็นคนโหม่งชงเข้าเขตโทษให้ แม็กไกวร์ ตีเสมอให้กับทีมอีกด้วย และทำให้ เลสเตอร์ ซิตี้ ยังมีลุ้นในการทำอันดับไปเล่นบอลยุโรปต่อไป
3. ผู้รักษาประตูดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
ต่อเนื่องจากข้อก่อนหน้านี้ ลิเวอร์พูล และ เลสเตอร์ ซิตี้ ได้พิสูจน์ว่าพวกเขาคือทีมที่มีผู้รักษาประตูระดับท็อปของลีก หลังจากที่ทั้งคู่โชว์เซฟแจ่ม ๆ ที่ช่วยให้ทีมของพวกเขาเก็บแต้มที่ต้องการออกไปได้
อลิสซอน มีจังหวะเซฟยาก ๆ เพียงครั้งเดียวก็จริงในเกมนี้ แต่ก็เป็นการเซฟจากการสกัดของเพื่อนร่วมทีมในระยะประชิด ซึ่งต้องอาศัยไหวพริบและปฏิกิริยาอันยอดเยี่ยมจึงจะเซฟได้
ในขณะที่ ซไมเคิล เซฟลูกยิงของ ฟีร์มิโน ในเขตโทษไปถึง 2 ครั้ง ละยังออกมาตัดลูกโก่งได้อีกจำนวนหนึ่งด้วย
2. จิ้งจอก สู้ถวายหัว
แม้ว่า เลสเตอร์ ซิตี้ แทบไม่หลงเหลือคราบของการเป็นแชมป์ พรีเมียร์ลีก เมื่อฤดูกาล 2015/16 อีกแล้ว แต่แข้ง จิ้งจอกสีน้ำเงิน ยังคงรักษาความตายยากเอาไว้เมื่อสามารถต่อกรกับ ลิเวอร์พูล ได้อย่างสนุก แม้จะเสียประตูขึ้นนำเร็ว มีจังหวะให้โจมตีใส่ ลิเวอร์พูล อยู่บ้าง และสุดท้ายก็สามารถรักษาผลเสมอออกไปจาก แอนฟิลด์ ได้สำเร็จอีกด้วย
นักเตะตัวเก๋าอย่าง เจมี วาร์ดี้ และ แคสเปอร์ ซไมเคิล ช่วยทีมรักษารูปเกมได้ดี ในขณะที่นักเตะหลังยุคคว้าแชมป์อย่าง เบ็น ชิลเวลล์, แฮร์รี แม็กไกวร์, เจมส์ แมดดิสัน, ริคาร์ดู เปไรรา หรือ เดมาราย เกรย์ ช่วยกันงัดฟอร์มที่ดีที่สุดขิงพวกเขาออกมาจนทำให้จ่าฝูงถึงกับไปไม่เป็น และมีอยู่แวบนึงเหมือนกันที่พวกเขาเกือบจะกลายเป็นอีกทีมที่สามารถยัดเยียดความปราชัยให้เจ้าบ้านได้ หากไม่ใช่ว่าปายเท้าของ อลิสซอน ไปขวางทางบอลเอาไว้ก่อนละก็
1. จังหวะที่น่าข้องใจ
แม้ว่า โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ลิเวอร์พูล จะโดนวิจารณ์ขรมในช่วงหลังว่าพยายามทิ้งตัวล่มเอาจุดโทษบ่อยเกินไป แต่ในเกมนี้พวกเขาก็พลาดได้จุดโทษแบบน่ากังขา เมื่อ นาบี้ เกอิต้า โดนสกัดล้มในเขตโทษจากด้านหลัง แต่ผู้ตัดสินกับเมินเฉยเสียอย่างนั้น
เป็นเรื่องน่าเสียดายสำหรับ หงส์แดง เพราะถ้าหากพวกเขาได้ลูกขุดโทษลูกนั้น พวกเขาอาจทิ้ง ซิตี้ ไป 7 คะแนนแล้วก็ได้