ย้อนศร Adidas : "ซิโมน่า ฮาเลป" มือ 1 ของโลกที่ใช้ชุดแข่ง Made in China
สิ่งหนึ่งที่คุณรู้แน่ๆคือ ซิโมนา ฮาเลป เป็นนักเทนนิสหญิงมือ 1 ของโลกในปัจจุบัน เธอเก็บคะแนนมากถึง 6,642 คะแนนนำโด่งอันดับ 2 อย่าง แองเจลิค แคร์เบอร์ กว่า 700 แต้ม ด้วยระยะห่างขนาดนี้มั่นใจได้เลยว่าเธอไม่ใช่พวกครึ่งๆกลางๆกับความฝันแน่นอน
อย่างไรก็ตามชื่อของ ฮาเลป ยังถือว่าห่างไกลมากเมื่อเทียบกับอดีตไอคอนเทนนิสหญิงในยุคที่ผ่านมา ไม่ว่าจะพี่น้องวิลเลี่ยมส์, มาเรีย ซาราโปว่า หรือ แอนนา คูร์นิโคว่า อะไรแบบนั้น และความที่เป็นนักเทนนิสที่ไม่ขายนี่เองทำให้เกิดเรื่องราวมันๆระหว่างเธอกับแบรนด์กีฬาดังอย่าง Adidas ขึ้นมา
เรื่องราวระหว่างนักเทนนิสคนเก่งที่ไม่แมส กับการเสียเหลี่ยมของแบรนด์ดัง เป็นอย่างไรติดตามพร้อมๆกับ Main Stand ได้ที่นี่
เส้นทางคนจริง
ฮาเลป ถือว่าเป็นเด็กน้อยอัจฉริยะแห่งโรมาเนียเลยก็ว่าได้ สาวน้อยจากเมือง คอนสตันต้า เล่นเทนนิสตั้งแต่ 4 ขวบจากการฝึกไปพร้อมๆกับพี่ชาย
นี่คือครั้งแรกที่เธอแสดงให้เห็นถึงความจริงจังกับสิ่งที่ทำ เพราะนับตั้งแต่วันนั้นที่จับแร็คเก็ตเธอไม่เคยทำมันเล่นๆ อีกเลย เธอตั้งใจฝึกเทนนิสอย่างจริงจังจนถึงขั้นยอมขอที่บ้านออกไปใช้ชีวิตใน บูคาเรสต์ เมืองหลวงของประเทศเพื่อความก้าวหน้าและพัฒนาฝีมือของตัวเอง และอยากจะตามรอย อังเดร พาเวล นักเทนนิสชาวโรมาเนี่ยนฝ่ายชายที่ถือว่ามีชื่อเสียงที่สุดในประเทศ แม้ว่าจะไม่เคยคว้าแกรนด์สแลมได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว
"ฉันชอบสไตล์การเล่นของ พาเวล มาก แบ็คแฮนด์ของเขาหนักหน่วง และมีอะไรที่คล้ายฉันเยอะ โดยเฉพาะต้นขาที่ใหญ่มากๆ" ฮาเลป ติดตามพาเวลมาตลอดและหวังว่าจะไปเล่นในระดับโลกให้ได้ที่สุดแล้วเธอก็กลายเป็นกลายเป็นเด็กเทพในรุ่นจูเนียร์ การออกจากบ้านแต่เด็กไม่สูญเปล่า เพราะ ฮาเลป คว้าแชมป์ระดับประเทศและได้เงินรางวัลมาถึง 10,000 เหรียญสหรัฐซึ่งถือว่าเป็นเงินไม่น้อยสำหรับเด็กอายุ 15 ปี
ฮาเลป เดินหน้าล่าแต้มเก็บเงินรางวัลในช่วงเยาวชนมากขึ้นเรื่อยๆจาก 10,000 เป็น 25,000 และจาก 25,000 เป็น 50,000 เหรียญ ใครต่อใครต่างบอกว่าเธอเก่งอย่างนั้นเก่งอย่างนี้ แต่เมื่อเธอคือคนจริงมันจึงแตกต่าง คนจริงไม่ชอบที่จะพอใจกับอะไรง่ายๆอยู่แล้ว
นักเทนนิสชายหลายคนยิ่งเป็นหนุ่มยิ่งมีความเร็วมากขึ้น แต่สำหรับนักเทนนิสหญิงอย่าง ฮาเลป มันสวนทางกัน เมื่อโกรว์ธฮอร์โมนเจริญเติบโตถึงขีดสุดเธอก็กลายร่างจากเด็กสาวเป็นผู้หญิงเต็มตัว ร่างกายของเธอใหญ่ขึ้นทุกส่วน ต้นขา,รอบแขน ความสูง อวัยวะเหล่านี้ใหญ่แล้วดี เพราะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับร่างกาย แต่เธอกลับได้ของแถมที่ไม่อยากได้ นั่นคือหน้าอกที่ใหญ่ขึ้น … มาก
สิ่งที่สาวๆ หลายคนอยากได้เธอกลับไม่อยากได้ เพราะมันทำให้เธอเชื่องช้า จะเหวี่ยงมือหวดสักทีก็อืดอาด จะวิ่งไปบุกหน้าเน็ตก็อึดอัด หากเป็นเช่นนี้ต่อไปรับรองได้ว่าเป้าหมายการเป็นมือ 1 ของโลกของเธอเจ๊งไม่เป็นท่าแน่นอน สิ่งที่เธอพยายามมาตั้งแต่ 4 ขวบกำลังถูกท้าทายด้วยหน้าอกคัพ 34DD ของเธอ
มีแล้วไม่มีประโยชน์ก็ตัดมันเสีย ...
ใช่ครับ ฮาเลป ไม่สนเสน่ห์ของเพศหญิง เธอตัดสินใจผ่าตัดลดไซส์หน้าอกทิ้งจาก 34DD เป็น 34C แบบไม่คิดมากในวัยเพียง 17 ปีเท่านั้น เธอเด็ดเดี่ยวพอที่จะแฮปปี้กับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะก่อนจะผ่าตัดลดขนาด เหล่าแฟนเทนนิสที่เข้ามาชมเกมนั้นดูจะสนใจกับหน้าอกของเธอมากกว่าฝีมือ
"ความสามารถของฉันดูแย่ลงไป หน้าอกของฉันทำให้ฉันไม่ค่อยสบายใจนัก มันหนัก เทอะทะ และสร้างปัญหาให้กับฉัน มันไม่สะดวกสบายในการเล่นเอาซะเลย ฉันไม่ชอบมันจริงๆ แม้กระทั่งในชีวิตประจำวัน ต่อให้ฉันไม่ได้เป็นนักกีฬา ฉันก็อยากจะเฉือนมันทิ้งอยู่ดี" คนจริงเขาว่าเอาไว้อย่างนี้
แม้จะมีคำเตือนที่ว่าทุกการลงทุนมีความเสี่ยง แต่การลงทุนหนนี้ของ ฮาเลป เข้าเป้าที่สุด เพราะอันดับโลกของเธอพุ่งทะยานอย่างไม่หยุดยั้ง เพียงปีเดียวเธอขยับจากมืออันดับที่ 166 ของโลกขึ้นมาอยู่อันดับที่ 50 ของโลกได้อย่างรวดเร็วปานติดจรวด อีกทั้งยังได้ อังเดร พาเวล ที่เปลี่ยนจากไอดอลกลายมาเป็นโค้ชของเธออีกด้วย นี่คือช่วงเวลาทองของ ฮาเลป อย่างแท้จริงยิ่งผ่านปีอันดับก็ยิ่งเพิ่ม และเมื่ออันดับสูงขึ้นเธอก็ยิ่งได้ดวลกับคนเก่ง และเมื่อได้ดวลกับคนเก่งๆ เธอจึงเก่งขึ้นแบบก้าวกระโดด … ทว่ากับโลกกีฬายุคใหม่ แค่เก่งมันไม่พอ
คนเก่งที่โลกไม่ชอบ
ทำไมคุณถึงจดจำนักกีฬาที่มีคาแร็คเตอร์โดดเด่นได้อย่างแม่นยำ? ... แน่ล่ะเหตุผลก็คือพวกเขาทำตัวเองให้น่าจดจำกว่าการปรากฎตัวผ่านสื่อแต่ละครั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่มนุษย์จริงจังอย่าง ฮาเลป ทำไม่ได้ จะว่าไปไม่ใช่แค่ในวงการกีฬาหรอก ในทุกสังคมเลยก็ว่าได้ คนประเภทที่ชอบเก็บตัว มุ่งมั่นกับเป้าหมายชนิดที่ว่าจะไม่ยอมแตกแถวให้กับสิ่งเร้าต่างๆ มักเป็นคนที่ใครไม่ค่อยอยากสุงสิงด้วยต่อให้เก่งแค่ไหนก็ตาม
ฮาเลป เป็นคนที่รักในความสมบูรณ์แบบหรือที่เรียกกับว่า เฟอร์เฟ็คชั่นนิสต์ หากสิ่งใดที่เธอหวังไม่เป็นอย่างที่หวัง เธอจะหงุดหงิดเป็นอย่างมาก และสิ่งนี้นอกจากจะทำให้ภาพลักษณ์ไม่น่าสนใจ เพราะไม่ชอบแต่งตัวสวย,ไม่มีจริตจะก้านความเป็นสตรีแล้ว มันยังทำให้เธอแพ้ภัยตัวเองอยู่เสมอ กดดันมากไปก็พังง่ายๆอย่างนั้นเอง นี่คือเหตุผลที่ว่าในช่วงเวลาหนึ่ง ฮาเลป ไม่อาจก้าวข้ามบันไดขั้นเล็กๆในการเป็นกระบี่มือ 1 ของวงการได้
ทุกอย่างสัมพันธ์กันหมด ...
นักกีฬาอันดับโลกเบอร์ต้นๆส่วนใหญ่จะถูกสปอนเซอร์รุมทึ้งจนหายใจหายคอแทบไม่ทัน เพราะเมื่อพวกเขาลงเล่นในรายการต่างๆแบรนด์ที่สนับสนุนจะมีโอกาสปรากฎตัวบนหน้าจอโทรทัศน์ในวันที่ยอดคนดูถ่ายทอดสดมากที่สุด... Nike, Asics และ Adidas คือแบรนด์ชื่อดังที่จะมารอต่อแถวเป็นเบอร์แรกเสมอในการสนับสนุนนักกีฬาที่เก่งและ "ขายได้"
ช่วงปี 2014 ถึง 2016 เป็นช่วงที่ ฮาเลป ไม่ได้ถือสปอนเซอร์เจ้าใหญ่ (สำหรับวงการเทนนิส) เลย เธอได้รับการสนับสนุนเสื้อแข่งจาก Lacoste รองเท้าจาก Nike นาฬิกาจาก Hublot และมีสปอนเซอร์อย่าง โวดาโฟน เครือข่ายเน็ตเวิร์คซึ่งก็เป็นบริษัทภายในประเทศโรมาเนียของเธอเอง เรียกได้ว่า Vodafone นั้นมาในรูปแบบสปอนเซอร์บังคับ เหมือนกับที่ SCG หรือ Singha ให้สปอนเซอร์นักกีฬาไทยนั่นแหละ
แม้จะดูเหมือนเยอะแต่ถือว่าแตกต่างกับนักกีฬาดังๆในรุ่นเดียวกันกับเธออย่าง แคร์โรไลน์ วอซเนียคกี้ คือ Adidas มีเท่าไหร่เทให้หมด ทุกอุปกรณ์ที่นักหวดสาวจากเดนมาร์กใช้ในการแข่งขันล้วนแต่มีโลโก้ Adidas และสัญลักษณ์ 3 แถบติดตัวเท่านั้น
หลังจากปี 2014 ฝีมือของ ฮาเลป ช่วยเธอได้บ้างในเรื่องนี้ เธอแวะเวียนเข้ามาถึงรอบลึกๆในแกรนด์สแลมบ่อยขึ้น ดังนั้นจึงถือว่าเป็นนักเทนนิสหญิงระดับโลกเต็มตัว ป้วนเปี้ยนอันดับท็อป 5 โดยตลอด ดังนั้นผู้จัดการของเธอจึงเดินหน้าเข้าไปคุยกับ Adidas เพื่อหาข้อตกลงในการเป็นสปอนเซอร์ ด้วยแต้มต่อที่มากขึ้นหนนี้ Adidas ยอมเป็นออฟฟิเชียลพาร์ทเนอร์ของ ฮาเลป แต่ว่าเม็ดเงินที่เธอได้ก็ยังถือว่าเทียบกับนักเทนนิสหญิงหัวแถวไม่ได้อยู่ดี อยู่ที่ 1 ล้านดอลล่าร์ต่อปี
ส่วนคนที่นำหน้าเธอได้แก่ อนา อิวาโนวิช แฟนสาวของ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ที่ได้จากค่ายสามแถบปีละ 6.5 ล้านเหรียญ, แคโรไลน์ วอซเนียคกี้ 11 ล้านเหรียญ, เซเรน่า วิลเลี่ยมส์ รับกับไนกี้ 13 ล้านเหรียญ และ มาเรีย ชาราโปว่า ทีได้ค่าสปอนเซอร์มากที่สุดถึง 21 ล้านเหรียญจากแบรนด์ค่ายโลโก้ Swoosh หากเทียบกับอันดับที่ 1 แล้ว ฮาเลป ได้รับเงินสนับสนุนห่างกันถึง 21 เท่าเลยทีเดียว
แล้วคุณจะเสียใจ
ปี 2017 เป็นปีที่ฮาเลปประสบความสำเร็จมากที่สุดนับตั้งแต่พยายามตามหาความเพอร์เฟ็กต์... แม้จะบาดเจ็บในช่วงต้นปี แต่หลังจากกลับมาฟิตเต็มร้อย ฮาเลปก็กลับมาเข้าเกียร์ 5 แบบไม่ต้องตั้งหลักอะไรเลย
เดือนตุลาคม เธอบดขยี้ เยเลนา ออสตาเปนโก สาวน้อยชาวลัตเวีย ที่พรากความฝันของเธอในการคว้าแชมป์แกรนด์สแลมอย่าง เฟรนช์ โอเพ่น เมื่อช่วงกลางปีไปแบบขาดลอย 2 เซตรวด 6-2 และ 6-4 ในรอบรองชนะเลิศเทนนิสระดับพรีเมียร์ แมนดาโตรี และหลังจากจบรายการดังกล่าวไม่นานความฝันของเธอก็สำเร็จ ด้วยการขึ้นมาเป็นมืออันดับ 1 ของโลก และถือเป็นราชินีเทนนิสสาวคนที่ 25 ในประวัติศาสตร์ที่มาถึงตำแหน่งนี้
“ตอนนี้ฉันกลายเป็นมือ 1 ของโลกคนใหม่ในวันนี้ มันเยี่ยมมากเลย ฉันบอกได้เลยว่าฉันลืมเรื่องอื่นๆไปแล้ว เพราะฉันกำลังเอ็นจอยกับช่วงเวลานี้และฉันมีความสุขมากกว่ากับโมเมนต์ในปีนี้” เธอกล่าวอย่างภาคภูมิใจ
ตอนนี้ทีมงานของฮาเลป มีเรื่องให้ต้องทำเพราะสัญญากับ Adidas กำลังจะหมดลง ดังนั้นสัญญาฉบับใหม่สำหรับนักเทนนิสหญิงมือ 1 ของโลก ย่อมต้องเป็นอะไรที่สมน้ำสมเนื้อหากว่ากันตามเนื้อผ้า ดูเหมือนว่า ฮาเลป ถือไพ่เหนือกว่าพอจะเรียกร้องบางสิ่งได้ แต่ Adidas ไม่คิดแบบนั้น
ไม่มีการเปิดเผยว่า ฮาเลป เรียกร้องไปเท่าไหร่ แต่ Adidas ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เธอเสนอไป ทั้งสองฝ่ายคุยกันไม่ลงตัว แม้ทีมงานของเธอจะเปิดการเจรจากับแบรนด์อื่นๆด้วยเช่นกัน แต่ก็ไม่สามารถตกลงกันได้
ที่สุดแล้ว ทีมงานของฮาเลปก็ปลงตก ย้อนกลับไปหา Adidas อีกครั้งเพื่อยอมเซ็นสัญญาตามที่ค่ายสามแถบโอเคในตอนแรก… ปัญหาก็คือ Adidas ปิดงบประมาณการสนับสนุนนักกีฬาสำหรับปี 2018 ไปแล้ว ทำให้ฮาเลปไม่มีสปอนเซอร์ชุดแข่ง
"ขอบคุณสำหรับ 4 ปีกับ Adidas และอ้อมกอดของ เคล้าส์ มาร์เทน วันนี้เป็นวันที่ฉันรู้สึกเศร้าเล็กๆ แต่ก็ตื่นเต้นที่จะได้รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร เอาล่ะขอให้ทุกคนโชคดีสำหรับปี 2018" ฮาเลปโพสต์ลงบนทวิตเตอร์เพื่อบอกให้แฟนๆทราบถึงสถานการณ์ของเธอที่กำลังเผชิญ
นี่คือเรื่องที่แปลกที่สุดเรื่องหนึ่ง นักเทนนิสหญิงอันดับ 1 ของโลกไม่มีสปอนเซอร์สนับสนุน... แต่คนจริงอย่าง ฮาเลป นั้นมีทางออกเสมอ
"ใช่ ทีมงานของฉันกำลังทำงานของพวกเขาอยู่ ฉันไม่มีสัญญากับที่ไหน และยังคงไม่มีแบรนด์เสื้อผ้ามาสนับสนุน" เธอว่าเช่นนั้นระหว่างการแข่งขันออสเตรเลี่ยนโอเพ่น 2018 รอบแรก
เธอตัดปัญหาเรื่องชุดแข่งออกไปอย่างง่ายดายดังคำคมที่ว่ากระบี่อยู่ที่ใจแค่ไม้ไผ่ก็ไร้เทียมทาน ฮาเลป ส่งแบบชุดแข่งที่เธออยากจะได้และสีที่เธอต้องการให้ไปยังแดนไกล ณ ประเทศจีน
"ฉันส่งรูปไปให้ช่างเย็บผ้าในเมืองจีนดู และผู้จัดการคนหนึ่งก็ช่วยฉันได้"
24 ชั่วโมงหลังจากส่งแบบไป ชุดแข่งสีแดงถูกจ่าหน้าถึง ซิโมนา ฮาเลป เรียบร้อย ราชินีแร็คเก็ตกำลังจะสวมชุดจากช่างในเมืองจีน แม้จะเป็นสิ่งที่ประหลาดจากนักเทนนิสชื่อดังคนอื่นๆ จนดูเหมือนทางตกอับ แต่เธอก็ได้หาแคร์ไม่ เพราะเธอบอกเพียงว่าชุดแข่งของเธอชุดนี้ช่างโดนใจเธอจริงๆ
"ฉันมีชุดแข่งแล้ว และมันเพอร์เฟ็กต์ไปเลย ฉันเลือกทรงเองหมด เห็นไหมล่ะจะมีอะไรยอดเยี่ยมไปกว่านี้ มันออกมาดูดีมากฉันรักมันเลยล่ะ"
ฮาเลปสวมชุดแข่งสีแดงและหมวกโลโก้ออสเตรเลี่ยนโอเพ่นที่ไม่ได้มีความพิเศษทางนวัตกรรมอะไรเลย มันคือหมวกแบบเดียวที่ขายให้แฟนๆในร้านของฝากนั่นแหละ
และเหมือนบทละครได้เตรียมไว้ ทันทีที่ชุดแดงของ ฮาเลป ออกโรง เธอได้เข้าไปเจอกับ วอซเนียคกี้ นักเทนนิสตัวชูโรงของ Adidas ที่เป็นมืออันดับ 2 ของโลกรองจากเธอ... และได้เงินสนับสนุนมากกว่าเธอด้วย
ฉากแรกผ่านไปด้วยชัยชนะและ Adidas ได้ยิ้มกริ่ม วอซเนียคกี้เอาชนะซิโมนา ฮาเล็ปไป 2-1 เซต 7-6 (2), 7-6(2), 3-6, 6-4 คว้าแชมป์ออสเตรเลียน โอเพ่น สแลมแรกในชีวิต หลังเล่นเทนนิสมา 12 ปีครึ่ง และเธอกำลังจะเก็บแต้มแซง ฮาเลป เป็นมือ 1 ของโลก
ความพ่ายแพ้นี้อาจจะน่าผิดหวังแต่มันเป็นการเปิดเส้นทางให้ผู้ค้ารายใหม่อย่าง Nike เข้ามาเจรจากับ ฮาเลป และดีลจบลงด้วยตัวเลข 2 ล้านเหรียญต่อปี มากกว่าที่ Adidas มอบให้เธอเกือบ 2 เท่าเลยทีเดียว
เทศกาลตบหน้าดังฉาด!
แม้จะหล่นไปชั่วครู่ แต่นั่นก็แค่ชั่วคราว... ฮาเลป กลับมาลงเล่นแกรนด์สแลมอีกครั้งในรายการ เฟร้นช์ โอเพ่น หนนี้เธอมาชุดแข่งสีน้ำเงินของ Nike และทุกอย่างเรียบร้อยดี ไม่มีอะไรต้องน่าเป็นห่วง
เธอ เข้าไปชิงกับ สโลน สตีเฟ่นส์ นักหวดฟอร์มแรงจากสหรัฐอเมริกา
เซตแรก สตีเฟ่นส์ เป็นฝ่ายคุมเกมได้ดีกว่า แม้จะมีเสียสมาธิไปบ้าง แต่ก็สามารถเอาชนะไป 6-3 เก็บเซตแรกไปก่อน แต่ว่าในเซตต่อมา ฮาเล็ป แก้เกมมาดี เล่นได้แน่นอนและแม่นยำ เบรคเกมเสิร์ฟได้ จนทำให้ชนะไป 6-4 ต้องมาลุ้นกันในเซตที่ 3
ตอนนี้ ฮาเลป เป็นคนใหม่เต็มตัว เธอเปิดใจยอมรับขึ้นและรู้ว่าบนโลกนี้ไม่มีใครเพอร์เฟ็กต์ 100% ดังนั้นเธอจึงได้ปรึกษากับนักจิตวิทยาทางกีฬา และได้คำแนะนำว่าเธอควรจะใจดีกับตัวเองและควรทำความเข้าใจว่าความเพอร์เฟ็กต์ไม่มีจริงบนโลกใบนี้ ทุกอย่างล้วนต้องใช้เวลาสั่งสม และเมื่อถึงเวลาแล้วจงเชื่อมั่นเดินบนเส้นทางของตัวเอง
ฮาเลป มีสมาธิกับเกม เธอเดินหน้าบดต่อเนื่อง โยกให้ สตีเฟ่นส์ ต้องวิ่งไล่อยู่บ่อยครั้งจนหมดแรง และสุดท้ายก็ชนะไปได้สบาย ๆ 6-1 รวม 3 เซต ฮาเล็ป เป็นฝ่ายชนะ 2-1 เซต คว้าแชมป์เฟรนช์ โอเพ่น ไปครอง และเป็นแชมป์แกรนด์สแลมแรกในชีวิตของเธออีกด้วย โดยหลังรับถ้วยแชมป์ ฮาเล็ป บอกว่าเธอตัดสินใจเทิร์นโปรตั้งแต่อายุ 14 เพื่อทุ่มเทให้กับเทนนิส และรอคอยช่วงเวลานี้มานานถึง 12 ปี วันนี้ทำสำเร็จแล้วจึงมีความหมายกับเธอมาก
และ ณ ตอนนั้นใครล่ะจะเป็นมือ 1 ของโลกได้ถ้าไม่ใช่เธอ...
ชุดแข่งขันของ ฮาเลป ที่มีโลโก้ของ Nike โชว์หราแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของติดอยู่กับตัวของนักเทนนิสหญิงที่ดีที่สุดในโลก
แม้ Adidas จะมีนักกีฬาดังๆในสังกัดมากมาย แต่อย่างน้อยๆพวกเขาก็ต้องชวดดึงตัวนักเทนนิสหญิงมือ 1 ของโลกเข้าสู่ทีมด้วยด้วยเหตุผลเรื่องเงินๆทองๆ ซึ่งไม่ใช่จำนวนที่มากมายอะไรเลยหากลองพิจารณาสิ่งที่ Nike มอบให้ ฮาเลป ในปี 2018
เธอไม่ต้องใส่ชุดแข่งขันจากช่างชาวจีนอีกแล้ว ตอนนี้ ฮาเลป เฉิดฉายอยู่กับชุดแข่งของแบรนด์ดังคู่แข่งที่ทำให้ Adidas ต้องกินแหนงแคลงใจเล็กๆ
เมื่อไม่มีปัญหานอกสนามและเรื่องตัวเลขมาทำให้ปวดหัว แถมเจ้าตัวยังปิดจุดอ่อนตัวเองเรื่องการควบคุมอารมณ์และสมาธิได้ ทำให้ปัจจุบัน ฮาเลป ครองตำแหน่งนักเทนนิสหญิงมือ 1 ของโลกทั้งปี 2018 และต่อเนื่องมาถึงปี 2019 อีกด้วย
ขยันผิดที่ 10 ปีก็ไม่รวย... ดูเหมือนว่าคำนี้จะพอเอามาใช้อ้างอิงกับเรื่องนี้ได้บ้างอยู่แหละน่า
อัลบั้มภาพ 13 ภาพ