ฝืดแท้! ลิเวอร์พูล ได้แค่เจ๊า เอฟเวอร์ตัน ไร้สกอร์ ,แมนฯซิตี้ ยึดฝูงพรีเมียร์ลีกต่อ!

ผลการแข่งขัน พรีเมียร์ลีก 2018/19 นัดที่ 29

เอฟเวอร์ตัน 0-0 ลิเวอร์พูล

วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2562

สนาม : กูดิสัน พาร์ค

เจ้าบ้าน เอฟเวอร์ตัน เปิดสนาม กูดิสัน พาร์ค ต้อนรับการมาเยือน หงส์แดง ลิเวอร์พูล ในศึก เมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ แมตซ์ ด้วยสถิติที่ไม่ค่อยจะดี เกมนี้ มาร์โก้ ซิลวา จัดตัวผู้เล่นโดยการเลือกที่จะพัก ริชาร์ริซอน ไว้บนม้านั่งสำรอง แล้วมอบหมายหน้าที่ล่าตาข่ายให้กับ โดมินิก คัลเวิร์ต เลวิน ในตำแหน่งหน้าเป้า โดยมี ธีโอ วัลค็อตต์, กิลฟี ซิกูร์ดส์สัน, เบอร์นาร์ด คอยปั่นเกมอยู่ด้านหลัง 

ทางฝั่ง หงส์แดง เกมนี้ โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ มีรายชื่อเป็นเพียงตัวสำรองเนื่องจากสภาพความฟิต เยอร์เก้น คล็อปป์ เลือกที่จะใช้งาน ดิว็อค โอริกี ที่ทำประตูได้ในเกมล่าสุดลงเล่นด้านข้างแล้วขยับ ซาดิโอ มาเน่ เล่นเป็นกองหน้าตัวเป้า ผสานงานร่วมกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ในแดนหน้า

เริ่มเกมมาได้เพียง 7 นาที ธิโอ วัลค็อตต์ รับใบเหลือง จากจังหวะ  ไปดึง ดิว็อค โอริกี จากทางด้านหลัง จากนั้นนาทีที่ 11 ลิเวอร์พูล มีโอกาสได้สวนกลับเร็วจากจังหวะเตะมุมของ เอฟเวอร์ตัน แต่ ซาดิโอ มาเน่ โดนตัดฟาลว์ตรงกลางสนาม

จากนั้นไม่นาน นาที 12 เฮนเดอร์สัน เปิดไปหน้าประตูหมายจะให้โอริกี แต่เป็น ไวจ์นัลดุม ที่เกือบได้ยิง ทว่าพิกฟอร์ด ออกมาคว้าบอลได้เสียก่อน

ถัดมานาที 15 ลิเวอร์พูล ยังคงบุกต่อเนื่องและเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ มีโอกาสได้จบ จากจังหวะล็อคหลบผู้เล่นแนวรับ เอฟเวอร์ตัน แต่น่าเสียดายที่บอลพุ่งไปตรงตัว จอร์แดน พิคฟอร์ด

นาที 28 ลิเวอร์พูล เกือบจะได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ได้ดวลตัวต่อตัวกับ จอร์แดน พิกฟอร์ด แต่เจ้าตัวยิงไม่ผ่านมือ พิคฟอร์ด เฮนเดอร์สัน พยายามจะซ้ำก็ไม่ได้ หลังจากนั้นเกมในช่วงครึ่งแรกไม่มีสกอร์เกิดขึ้นทำให้จบลงด้วยผลเสมอ 0-0

Shaun Botterill/GettyImagesเกมในช่วงครึ่งหลัง นาที 52 เอฟเวอร์ตัน เกือบได้ประตูจากจังหวะเตะมุม แต่ อลิสสัน พุ่งรับการโขกเตะมุมของ คัลเวิร์ต-เลวิน เอาไว้ได้ ถัดมานาที 53 อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ปั่นฟรีคิกจากระยะ 30 หลา พิกฟอร์ด รับเข้าซอง

นาที 56 ลิเวอร์พูล มีโอกาสทองอีกครั้ง จากจังหวะพลาดของแนวรับ เอฟเวอร์ตัน บอลหลุดไปที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แต่ ไมเคิ่ล คีน ล้มตัวสกัดบอลจังหวะแต่งของ ซาลาห์ ออกหลังไปอย่างหวุดหวิด

นาที 59 เอฟเวอร์ตัน เปลี่ยนตัวคนแรก เลือกส่ง ริชาร์ริสัน ลงมาแทน ธีโอ วัลค็อตต์ ที่มีใบเหลืองติดตัวตั้งแต่ต้นเกม 

จากนั้น หงส์แดงก็มีโอกาสเปลี่ยนแปลงด้วยการส่ง เจมส์ มิลเนอร์ กับ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ลงสนามมาในนาทีที่ 63 แต่ดูเหมือนว่ารูปเกมของพวกเขาจะแย่ลงกว่าเดิมไปอีก 
หงส์แดงมีโอกาสดี เมื่อ โฌแอล มาติป ลากลุยขึ้นมาคนเดียวก่อนไหลต่อให้ ซาลาห์ แตะเข้าเขตโทษกำลังจะง้างยิง แต่ก็โดนแนวรับเจ้าบ้านตามมาสกัดออกหลังไปหวุดหวิด 

จากนั้นรูปเกมของ เอฟเวอร์ตัน ดีกว่าชัดเจน และมีลุ้นจากทั้ง แบร์นาร์ด และ ริชาร์ลิซอน ตัวสำรองอยู่พอสมควร ดีที่ไม่คมกันพอ ช่วงเวลาที่เหลือ ทั้งสองทีมก็ยังทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกมเสมอกัน 0-0 ทำให้ ลิเวอร์พูล เก็บได้เพิ่มแต้มเดียวตกลงมาอยู่อันดับ 2 ด้วยจำนวนนัดที่แข่งเท่ากับ แมนฯ ซิตี้ แล้ว

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม

เอฟเวอร์ตัน : จอร์แดน พิคฟอร์ด - เชมัส โคลแมน, ไมเคิล คีน, เคิร์ท ซูมา, ลูก้าส์ ดีญ - ,มอร์แกน ชไนเดอร์แลง, อิดริสซา เกย์ - ธีโอ วัลค็อตต์, กิลฟี ซิกูร์ดส์สัน, เบอร์นาร์ด - โดมินิก คัลเวิร์ต เลวิน

ตัวสำรอง : เยอร์รี่ มิน่า, เซงค์ โทซัน, มาร์ติน สเตเก้นเลนเบิร์ก, ฟิล จากิลก้า, จอนโจ้ เคนนี่, อันเดร โกเมส, ริชาร์ลิซอน, ทอม เดวีย์

 
ลิเวอร์พูล : อาลีสซง เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, โฌแอล มาติป, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ, จอร์จินโย ไวนัลดุม - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดิว็อค โอริกี, ซาดิโอ มาเน

ตัวสำรอง : ซิมง มินโญ่เลต์, เจมส์ มิลเนอร์, นาบี เกอิต้า, แดเนียล สเตอร์ริดจ์, อดัม ลัลลาน่า, เซอร์ดาน ชากิรี่, โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่