แดน ตัน : เจ้าพ่อในดินแดนความมืดของโลกฟุตบอล ผู้ชนะพนัน 100%

ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าการพนันกับกีฬาคือสิ่งที่แยกกันไม่ออก เพราะบางประเทศก็เปิดให้เล่นพนันอย่างถูกกฎหมาย ขณะที่บางประเทศป่าวกระกาศว่าปิดกั้นแต่สุดท้ายก็ทำเอาหูไปนาเอาตาไปไร่แกล้งทำเป็นไม่รู้ว่ามีเจ้ามือ และนักเล่นพนันในประเทศ

การเดิมพันฟุตบอลคือการพนันที่ยอดฮิตที่สุดในโลก คนเราชอบดู ชอบลุ้น และชอบได้เงิน นั่นคือเหตุผลที่มีชาวสิงคโปร์คนหนึ่งเล็งเห็นช่องทางความรวยโดยที่ตัวเขาเองไม่ต้องเป็นเจ้ามือ แค่วางเงินเดิมพันไว้ เขาก็ได้เงินกลับมา เพราะการแทงของเขามีสถิติเข้า 100%

เหล่าตัวเลขขึ้น-ลง ราคาไหลที่ผันผวนชวนงงสำหรับนักเดิมพัน คือสิ่งที่ชายคนหนึ่งได้ผลประโยชน์จากมันไปเต็มๆ และเขาคนนั้นคือ แดน ตัน "ก็อดฟาเธอร์" ในดินแดนแห่งความมืดของโลกฟุตบอล เขาคือคนที่แม้แต่ ฟีฟ่า ก็ทำอะไรไม่ได้แม้ว่าจะเห็นๆ กันอยู่ว่า เขาจ้างล้มบอลไปไม่น้อยกว่า 150 เกม ...

เด็กติดพนัน
แดน ตัน ไม่ใช่ชื่อตามใบเกิดของมาเฟียชาวสิงคโปร์คนนี้แต่อย่างใด ชื่อนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เขาก้าวเข้ามามีธุรกิจเกี่ยวกับการเดิมพันขันต่อจึงถูกเรียกชื่อว่า "แดน ตัน" ตามประสาแก๊งมาเฟียที่ต้องมีชื่อ AKA นั่นเอง แท้จริงแล้วเขาคือ "ตัน เซียะ อ่อง" เกิดและโตที่สิงคโปร์ และแน่นอนว่าการถีบตัวเองเข้าสู่ด้านมืดได้เกิดจากความยากจนในวัยเด็ก

ตัน เซียะ อ่อง เป็นเด็กที่ฉลาดเป็นกรดและนอกห้องเรียนก็ยังเป็นที่รักของเพื่อนๆ โดยเฉพาะในช่วงสมัยมัธยมศึกษา นี่คือเหตุผลที่เพื่อนของเขาตกใจมากเมื่อรู้ว่า ตัน กลายเป็นอาชญากรตัวเอ้ของโลกเหมือนที่เป็นอยู่ทุกวันนี้

"จริงๆ เขาเป็นคนที่ร่าเริงและดูมีความสุขดีมากๆ ฉายาของเขาสมัยอยู่ในกลุ่มชื่อว่า 'Ah Blur' เพราะเขาเป็นคนที่เหมือนไม่รู้จักความกดดันและไม่กลัวสิ่งที่จะเกิดขึ้นรอบตัวเขาเลย" เพื่อนสนิทในวัยหนุ่มของเขาเล่าให้กับสื่ออย่าง Straits Times ฟัง

การที่เป็นคนฉลาดและยากจนทำให้เขาคิดว่าการเรียนไม่ได้ทำให้ฐานะของเขาดีขึ้นในเร็ววัน เขาจึงออกไปสมัครงานเป็นพนักงานออฟฟิศของบริษัทท้องถิ่นแห่งหนึ่งในสิงคโปร์ มีคำบอกเล่าว่าเขาเป็นพนักงานที่ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม ได้รับคำชมจากเจ้านายเสมอ ทว่าก็อีกนั่นแหละ เขาคิดว่าเงินเดือนที่ได้มันน้อยไป จึงคิดหาวิธีที่จะร่ำรวยได้ภายในระยะเวลาอันสั้น และเมื่อบวกกับอุปนิสัยที่เป็นคนชอบเสพชัยชนะซึ่งเป็นแรงขับในตัวของเขาที่สูงมาก ทำให้ แดน ลาออกจากงานประจำและกลายเป็นนักพนันเต็มตัว โดยเริ่มจุดแรกที่ "ม้าแข่ง"

"เขาชอบม้าแข่ง เขาชอบชนะ และเกลียดการสูญเสียไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม" แหล่งข่าวที่เคยรู้จักกับเขามา 4 ปี กล่าวถึงจุดเริ่มต้นสู่การพนัน

มีความเชื่อบางอย่างในวงการพนันที่เรียกว่า "โชคดีหนแรก" มันป็นเหมือนคำสาปที่คนที่เลือกเล่นพนันครั้งแรกมักจะได้เงินและปลาบปลื้มกับชัยชนะ ทว่าหลังจากนั้นโชคดีจะถูกผีพนันเป่าพัดหายไปเหลือแต่เพียงหายนะสำหรับนักพนันเท่านั้น นี่คือกฎที่พิสูจน์ไม่ได้ แต่นักพนันส่วนใหญ่ไม่รอด แดนเองก็เช่นกันคำสาปโชคดีหนแรกเล่นงานเขาหนักไม่ใช่น้อย

แดน เสียม้าหมดเงินไปจำนวนไม่น้อยเมื่อเทียบกับคนไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่งในยุค '90 แต่นิสัยการชอบเอาชนะคือสิ่งที่สลัดอย่างไรก็ไม่มีวันหลุด เมื่อแทงเองไม่เวิร์ก เขาเลยเปลี่ยนเส้นทางมาเป็นเจ้ามือรับพนันม้าแข่งและฟุตบอลแบบผิดกฎหมายไปพร้อมๆ กันด้วย ซึ่งแน่นอนว่าการเป็นเจ้าเล็กทำให้เขาเส้นไม่หนาพอ หาเงินแบบนี้ไม่นานในที่สุดเขาก็เกมจนได้

ตำรวจบุกจับแดน ตัน ติดคุกในช่วงปี 1990 ทำให้เขาต้องรับโทษในระยะหนึ่ง และออกมาสู้กันใหม่ในภายหลัง หนนี้เส้นทางการเป็นเจ้าเองนั้นดูตีบตัน และเป็นไปไม่ได้เพราะความผิดเก่าที่เคยก่อไว้ ทำให้เขาต้องเปลี่ยนฐานะจากคนเป็นเจ้ากลับมาเป็นผู้เล่นธรรมดาอีกครั้งหนึ่ง


นักพนันนั้นมี 2 แบบ แบบแรกคือเสียแล้วยอมแพ้ หยุดแค่ตรงนั้นยอมรับและจ่ายในสิ่งที่ผิดพลาดไป อีกแบบคือนักพนันที่บ้าดีเดือดเดิมพันจนหมดหน้าตักเจ๊งเป็นเจ๊ง และแดน กากบาทเลือกอย่างที่สอง เขาเล่นต่อไปและต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงจุดจบในที่สุด

ฟุตบอลโลกปี 1994 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา แดน งานเข้าหนักที่สุดในชีวิต เพราะติดหนี้โต๊ะถึง 1.5 ล้านดอลลาร์ นี่คือจำนวนที่มากโขหากเทียบกับยุคสมัยนั้น แน่นอนว่าเขาไม่มีเงินจ่ายให้ จนถูกตามล่าตัวและต้องหนีออกไปอยู่นอกประเทศชั่วคราว ก่อนจะเจรจาขอชำระเป็นงวดๆ ในภายหลัง จึงจะสามารถกลับประเทศได้อีกครั้ง  

ผงาด
หลังจากกลับสิงคโปร์ได้ แดน ใช้เวลาไม่นานทำให้ตัวเองกลับสู่ความร่ำรวยแบบที่ควรจะเป็น ไม่มีการเปิดเผยวิธีการอย่างแน่ชัด แต่ที่แน่นอนคือเขากลับมามีคอนโดหรู มีห้องรับแขกขนาดใหญ่ ให้ตัวเองกับลูกเมียได้อยู่อาศัย และมีรถ BMW ซีรี่ส์ 7 ไว้ครอบครองเป็นของตัวเองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แดน มีเริ่มมีธุระในต่างประเทศบ่อยขึ้น พาสสปอร์ตระบุว่าเขาไม่อยู่ติดที่เลย อีกทั้งเขาไม่ได้ทำตัวเป็นบุคคลร่ำรวยเกินเหตุ เขาพยายามเก็บตัวเงียบที่สุดราวกับว่าเขาเก็บซ่อนความลับบางอย่างไว้ และความลับนี้เองที่ทำให้เขามีเงินใช้มากที่สุดตั้งแต่เกิดมา


"แดน ทำตัวโลว์โปรไฟล์มาก เขาไม่ใส่เครื่องประดับ ไม่ใส่นาฬิกาแพงๆ ผมมักจะเจอเขาในร้านกาแฟแถวบ้าน เขาใส่แค่เสื้อยืดและกางเกงยีนส์เท่านั้น" แหล่งข่าวคนเดิมกล่าว

คนแถวนั้นพบว่าแดนมักจะไปไหนมาไหนคนเดียวและพกโน้ตบุ๊คแลปท็อปติดตัวเสมอ เขาจะมานั่งที่ร้านกาแฟเพื่อดูตัวเลขที่วิ่งบนหน้าจอ ซึ่งคนทั่วไปคิดว่าเป็นตลาดหุ้น แต่เปล่าเลยนั่นคือราคาเดิมพันฟุตบอลที่ผันผวนทุกวินาที เขาจะดูมันเพียงแค่แว่บเดียว จากนั้นเขาก็จะปลีกตัวหายไปเหมือนสายลม และที่แปลกคือแม้จะได้และเสียจากฟุตบอลมาเป็นล้านๆ แต่เขากลับไม่ใช่คนที่ชอบดูฟุตบอลเป็นทุนเดิมเลย

"แดนไม่ใช่แฟนบอลของทีมไหน และไม่ใช่นักพนันที่ดูลนลานอะไร เขาแทงบอลก็จริง แต่ถ้าเขากดวางเดิมพันแล้ว เขาจะทำตัวสบายๆ นักพนันหลายคนแทงแล้วจ้องดูจอหรือเช็คผลจากไลฟ์สกอร์ทั้งวัน แต่แดนคือรูปแบบที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง"

อยากรวยต้องโกง
แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่นักพนันคนไหนจะเดิมพันด้วยการ WIN รวดไม่มีผิดเลยแม้แต่คู่เดียว อย่างไรก็ตาม แดน ทำได้มันได้ ด้วยทริกง่ายๆ นั่นคือการเดิมพันเฉพาะฟุตบอลที่เตะในอาเซียนเท่านั้น นั่นเพราะว่าเขารู้อยู่แล้วว่าใครจะชนะด้วยการจ้างล้มบอลนั่นเอง


แดน รู้จักกับ วิลสัน ราช เปรูมัล คนที่วนเวียนเป็นวงในของวงการฟุตบอลอาเซียนตั้งแต่ปี 1992 จากคำให้การของอีกฝ่าย เขาเป็นคนแนะนำการเล่นพนันแต่ละคู่ให้กับ แดน ก่อนที่จะกลายเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกันหลังจากนั้นเป็นต้นมา

ทั้งสองคนเริ่มจากเกม มาเลเซีย คัพ ในปี 1994 และฟุตบอลในประเทศอีกหลายคู่ วิธีการคือจ่ายเงินสดให้กับเหล่านักเตะบางคน เพื่อให้ผลการแข่งขันเป็นไปตามที่เขาต้องการ โดย แดน ตัน จะเดิมพันกันทีละ 20,000 ดอลลาร์ต่อ 1 คู่

เท่านั้นยังไม่พอเขายังทำการนำผลที่เขาได้ว่าจ้างไว้ เอาไปแนะนำให้กับนักพนันคนอื่นๆ ที่เข้ามาเดิมพันตามที่เขาบอก ซึ่งในวงการเรียกการกระทำแบบนี้ว่าการ "ขายสายบอล" ว่าง่ายๆคือนอกจาก แดน จะได้เงินจากการแทงเองแล้ว เขายังมีลูกค้าที่จะมารอซื้อสายบอลของเขาอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวอย่างแท้จริง บางที นี่อาจเป็นวิธีการที่ช่วยให้เขาปลดหนี้ร่วมล้านที่แดนเสียไปจากตอนฟุตบอลโลก จนกลับมาร่ำรวยอีกครั้งก็เป็นได้

"หลังจากมาเลเซียคัพจบลงบริษัทของแดนเดินหน้าเข้าสู่ฟุตบอลยุโรป เริ่มแรกเขาเข้าไปในฐานะมือขวาของนักธุรกิจชาวอินเดียชื่อว่า อิสวรามูรติ พิลเลย์ หรือที่ผมเรียกเขาว่า มิสเตอร์เอ็กซ์" วิลสัน เขียนถึงเรื่องนี้ไว้ภายหลัง หลังจากที่เขาโดนจับที่ประเทศฮังการี


"จังหวะนั้น มิสเตอร์เอ็กซ์ เกิดหนี้มหาศาลทำให้เขาออกจากยุโรป ทำให้ แดน เข้าเทคกิจการต่อทันที และเริ่มทำมันในรูปแบบใหม่ที่เขาถนัด"

แดน เริ่มทำการล็อกผลการแข่งขันในหลากหลายรูปแบบ ส่วนใหญ่เป็นเกมการแข่งขันในลีกฟินแลนด์ ลีกที่เขา และ วิลสัน ได้ซื้อทีม เทมเปเร่ ยูไนเต็ด ไว้ในปี 2009 นอกจากนี้ยังมีบอลลีก ฮังการี และลีก สวิตเซอร์แลนด์ อย่างทีม ชิอัสโซ่ โดย วิลสัน อ้างว่านักเตะที่รับงานจากแดนเป็นประจำคือ อัลเมียร์ เกกิช ซึ่งผลประกอบการก็ยอดเยี่ยม ธุรกิจของเขาใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ และเดินทางมาถึงลีกที่ใหญ่ขึ้นอย่าง อิตาลี

"ในปี 2009 แดน ตัน เข้าไปในอิตาลีและล็อกผลการแข่งขันอยู่หลายเกม ผมจำได้มันเกมหนึ่งมันเป็นเกม เซเรีย บี ของทีม อัลบิโนเลฟเฟ จากนั้นเขาก็กลายเป็นหุ้นส่วนของทีม คุณหาประวัติการร่วมหุ้นไม่เจอหรอก แต่ผมรับรองได้เลยว่า แดน ตัน มีส่วนร่วมในลีกอิตาลีแน่นอน" วิลสัน กล่าว

"ในปี 2010 ชื่อเสียงของ แดน ตัน ใหญ่โตขึ้นมาก ชาวอิตาเลียนหลายคนเริ่มรู้จักเขามากขึ้นและซื้อบริการเพื่อการเดิมพันจากเขา ไม่ว่าจะในเซเรีย อา หรือ เซเรีย บี โดยในเซเรีย บี นั้นจะทำเงินได้ราวเกมละ 4-6 ล้านยูโร ขณะที่เซเรีย อา จะอยู่ที่ 10-15 ล้านยูโรต่อ 1 เกม นับรวมถึงราคาแฮนดิแค็ปและประตูรวมทั้งหมด"


"นี่คือที่ที่แดน ตัน ทำให้ชาวอิตาเลียน ดูเป็นคนโง่ เขาเสนอเงินให้ราว 600,000-800,000 ยูโร สำหรับผู้เล่นที่รับงาน ขณะที่แดนทำเงินได้มากมายกว่านั้นถึง 3-4 เท่า"

วิธีการล็อกผลของ แดน มีหลายแบบ ทั้งการว่าจ้างนักเตะเพื่อให้เล่นเหลาะแหละหากได้ลงสนาม ไปจนถึงการจ้างให้ดับไฟสนามเพื่อให้ยกเลิกการแข่งขันหากสกอร์ไม่เป็นไปตามที่วางแผนไว้ และร้ายไปกว่านั้น คือ การทำให้นักเตะที่ลงเล่นมีสมรรถภาพน้อยลงด้วยการ "วางยาพิษ"

ในปี 2010 แดน ว่าจ้าง มาร์โก เปาลินี่ ผู้รักษาประตูของเครโมเนนเซ่ ให้วางยาในขวดน้ำของเพื่อนร่วมทีมทุกคน โดยข้อแลกเปลี่ยนคือการยกหนี้ให้เพราะ เปาลินี่ เป็นคนที่ติดหนี้พนันกับเขา และผลการแข่งขันก็เป็นไปตามเป้า เพียงแต่ว่าหลังจากนั้น เปาลินี่ โดนจับได้และติดคุกไป 5 ปี ขณะที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคาดว่าเกมนี้ไม่แคล้วต้องเป็นฝีมือของ ก็อดฟาเธอร์ อย่างแดน ตัน แน่นอน

"แดน ตัน ขยายเขตทำมาหากินออกไปทั่วโลก เขาล็อกผลการแข่งขันในเกม เวเนซูเอล่า เจอกับ มอลโดว่า และ เอล ซัลวาดอร์ อีกในภายหลัง นอกจากนี้ยังมีเกมระหว่าง เปอร์โต ริโก เจอกับ นิคารากัว อีก แล้วฟีฟ่าทำอะไรเขาได้บ้าง?" วิลสัน เผยว่า 4 ทวีปทั่วโลกแดนล้วนแต่เคยเข้าไปเกี่ยวพันกับการล้มบอลทั้งสิ้น


แดน ตัน ถูกสาวถึงเรื่องการล็อกผลในภายหลัง มีการกล่าวอ้างว่าเขาสั่งล็อกผลไม่น้อยกว่า 150 เกม และนี่คือจำนวนที่ถูกยืนยันจากคนรับงานเท่านั้น ไอ้ที่ยังจับไม่ได้และเงียบๆ อาจจะยังมีอีกเพียบก็เป็นได้

ทุกวันนี้เป็นอย่างไร?
มีคำกล่าวเหน็บแนมและตลกร้ายมาทุกยุคทุกสมัยนั่นคือหากคุณรวยมากพอ คุกจะไม่ใช่ที่อยู่ของคุณ และแดน ตัน รอดคุกมาเกือบ 20 ปีได้ด้วยเหตุผลนี้ อย่างไรก็ตามหน้าต่างมีหูประตูมีช่อง ใครจะอยู่เหนือความผิดได้ตลอดไป ไม่ว่าจะยิ่งใหญ่แค่ไหนสักวันก็ต้องพลาดจนได้ และคนที่ทำให้ แดน ตัน พลาดคือ วิลสัน ราช มือขวาคนสนิทของเขานั่นเอง

เหตุการณ์ความแค้นหักเหลี่ยมเกิดขึ้นสมัยที่ทั้งคู่สิงกันอยู่ใน ฟินแลนด์ ที่สโมสร เทเปมเร่ มันคือช่วงเวลาที่ วิลสัน อยากจะเป็นใหญ่ทั้งสองคนมีความเห็นไม่ตรงกันก่อนที่ "มิสเตอร์เอ็กซ์" จะบอกให้ ตัน ถอนหุ้นและแยกออกมาลุยเดียว

"แดน ตัน รู้ว่า วิลสัน วางแผนที่จะเป็นเจ้าของสโมสรเพื่อล็อกผลการแข่งขันและเก็บผลประโยชน์เอง เขาจึงถอนตัวจากการลงทุนครั้งนี้ ซึ่งหลังจากแดนถอนหุ้นได้ไม่นาน วิลสัน ก็ถูกจับที่ฟินแลนด์ และมันทำให้เขาเชื่อว่า แดน คือคนทรยศเขา จึงทำให้มีความขุ่นเคืองเกิดขึ้น นั่นคือเหตุที่ว่าทำไม วิลสัน จึงบอกเจ้าหน้าที่หมดเปลือกว่าแดน เกี่ยวข้องกับการล็อกผลทั้งในฟินแลนด์และอิตาลี" สแตนลี่ย์ โฮ นักข่าวชาวสิงคโปร์กล่าว

ด้วยความแค้นที่สุมอก จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เมื่อ วิลสัน ถูกตำรวจจับกุม เขาจะให้การซักทอดไปถึงเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดผู้นี้ทันที อย่างไรก็ตาม แดน ตัน ไหวตัวทัน เขาหนีกลับมา สิงคโปร์ อีกครั้ง และทำให้ยากที่จะจับตัวเขาได้เพราะปากคำของ วิลสัน เพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ


สื่อประเทศสิงคโปร์พยายามสืบหาความจริงด้วยการพยายามเข้าถึงตัวของ แดน ตัน ให้ได้ พวกเขาบุกหาชายผู้นี้ถึงบ้าน แต่ก็เจอเพียงภรรยาของเขาเท่านั้น ก่อนที่ แดน จะโทรศัพท์เข้ามาเพื่อบอกสั้นๆ ว่าเรื่องทั้งหมดไม่ใช่เรื่องจริง และเป็น วิลสัน ที่ใส่ความเขา

อย่างไรก็ตาม ราวเดือนธันวาคมปี 2011 ตำรวจ อิตาลี ออกหมายจับผู้เกี่ยวข้อง 17 คนที่มีเอี่ยวในการล้มบอล เซเรีย อา และเซเรีย บี แม้รายชื่อส่วนใหญ่เป็นนักฟุตบอล แต่ก็มีชื่อของ แดน ตัน อยู่ในนั้นด้วย

"การที่แดนกลับมาสิงคโปร์เป็นเรื่องที่เดาง่ายมาก เพราะ สิงคโปร์ ไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนไป อิตาลี ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่ แดน จะถูกส่งไปขึ้นศาลที่ อิตาลี" สุพัส อนันดาน ทนายชื่อดังของสิงคโปร์ให้เหตุผลว่าทำไม แดน จึงรอดมาได้หลายครั้ง

"ไม่มีหลักฐานที่บอกว่าเขากระทำความผิดใดๆ ในสิงคโปร์ ดังนั้นจึงไม่มีใครจัดการเขาได้" ทนายดังทิ้งท้าย

ไม่เพียงเท่านั้น ในปี 2013 ยูโรโพล หรือ ตำรวจยุโรป ยังเผยอีกว่ามีอีกถึง 680 แมตช์ที่น่าสงสัยระดับโลกอย่าง ฟุตบอลโลก, ฟุตบอลยูโร, แชมเปี้ยนส์ลีก และเกมฟุตบอลในอังกฤษ ที่มีการเคลื่อนไหวและคำสั่งล็อกมาจากสิงคโปร์ ก่อนที่สุดท้ายในช่วงปลายปีเดียวกัน สำนักงานสืบสวนคดีทุจริต (CPIB) ปฎิบัติการจับตัวสายฟ้าแล่บ แดน ตัน บ้านของเขาถูกล้อมกว่า 12 ชั่วโมงก่อนจะจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 13 คน อย่างไรก็ตาม 5 จาก 13 คนถูกควบคุมตัวภายใต้กฎหมายอาญา ขณะที่เหลือนั้นถูกประกันตัวออกมาในภายหลัง

เห็นได้ชัดว่า แม้แต่ประเทศสิงคโปร์ ก็ต้องเดือดร้อนกับเรื่องนี้เพราะถูกกดดันจากหลายฝ่าย จนกระทั่งเขาต้องสูญสิ้นอิสรภาพ ที่น่าแปลกก็คือ การจองจำดังกล่าวเป็นแค่การถูกกักตัวภายใต้กฎหมาย ซึ่งเขาไม่จำเป็นต้องเข้าไปนอนคุกเพราะศาลอุทธรณ์ของสิงคโปร์ได้ตัดสินว่าเขาไม่ได้อยู่ในความเสี่ยงต่อความปลอดภัยสาธารณะและถูกปล่อยตัวให้เป็นอิสระในอีก 2 ปีต่อมา  


อย่างไรก็ตามการปล่อยตัวเป็นอิสระกินเวลาได้ไม่กี่วัน ก็มีข่าวยืนยันว่า เเดน ตัน ถูกจับตัวอีกครั้งในเดือน ธันวาคม ปี 2015 โดยทางการสิงคโปร์ให้เหตุผลว่า "เพื่อการสอบสวนถึงความเกี่ยวข้องในอาชญากรรมหลายกระทง" ขณะที่ ฮามิดุล ฮัค หนึ่งในทีมงานทนายก็ยังงงๆ ว่าลูกความของเขาต้องสูญสิ้นอิสรภาพอีกครั้งจากคดีใดกันแน่ … และนั่นคือสิ่งสุดท้ายที่ปรากฎเกี่ยวกับตัวเขา

หลังจากปี 2015 มีข่าวคราวและเรื่องราวของ เเดน ตัน ออกมาหน้าสื่อน้อยมากหรือแทบไม่มีเลย ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าเขากำลังประกอบธุรกิจหรือทำอะไรอยู่ หรือกำลังติดคุกอยู่ที่ไหน แต่ที่แน่ๆ สิ่งที่เขาทำส่งผลให้ทั่วโลกได้รับรู้ว่าบางครั้งการแข่งขันกีฬาก็ไม่ได้สะอาดเสมอไป และอิทธิพลของเหล่ามาเฟียก็มากพอที่จะทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้โดยง่าย หากพวกเขาเจอกับนักฟุตบอลที่อ่อนแอและพ่ายแพ้ให้กับข้อเสนอที่ยั่วใจ ดังนั้นต่อให้ไม่มีคนอย่างแดน ตัน เพียงคนเดียว ก็ใช่ว่าจะไม่มีใครทำ เพราะเค้กก้อนนี้มีผลประโยชน์มากมายเหลือเกิน

"หากทีมฟุตบอลยุโรปยังกล้าขายเกมและรับเงินจากแดน ตัน คุณไม่คิดเหรอว่าทีมเหล่านั้นจะไม่ลองติดต่อกับบริษัทอื่นบ้าง?" สแตนลี่ย์ โฮ ทิ้งท้ายไว้ด้วยคำถามที่น่าเป็นห่วงที่สุดกับโลกลูกหนัง

เรื่องเงินๆ ทองๆ ไม่เข้าใครออกใคร ไม่แน่ฟุตบอลแมตช์ล่าสุดที่คุณเพิ่งเชียร์อย่างเมามันและดีใจสุดเสียงกับชัยชนะ อาจจะถูกจัดฉากขึ้นตั้งแต่แรกแล้วก็เป็นได้ …