5 ประเด็นสำคัญ หลังหงส์แดง ทุบ เบิร์นลีย์ 4-2
ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่แรกคืนวันอาทิตย์ คู่ระหว่าง หงส์แดง ลิเวอร์พูล เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ เบิร์นลีย์ โดยผลการแข่งขันจบลงด้วยทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ เอาชนะไปได้ 4-2 เก็บ 3 คะแนนสำคัญ อย่างที่พวกเขาต้องการ แบบสุดมันส์
สถานการณ์ล่าสุดของ ลิเวอร์พูล ยังคงรั้งอันดับ 2 ผ่านมาแล้ว 31 เกม มี 73 คะแนน ตามหลังจ่าฝูงอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่ 1 คะแนน ส่งข้อความถึง เรือใบสีฟ้า ว่า ยังต้องวัดกันอีกยาว
สำหรับวันนี้เรามีประเด็นหลังเกมให้พูดถึงกันเช่นเคย ไปดูกันดีกว่าว่าเกมนี้มีเรื่องอะไรบ้างที่ต้องหยิบมาพูดถึง
5. สถิติหลังเกม และรูปเกมโดยรวมเจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล มีโอกาสยิงประตูมากถึง 23 ครั้ง เข้ากรอบ 5 ครั้ง ทำได้ 4 ประตู มีเปอร์เซนต์การครองบอลอยู่ที่ 69 เปอร์เซนต์ ทางฝั่งทีมเยือน เบิร์นลีย์ มีโอกาสยิงประตู 3 ครั้ง เข้ากรอบ 2 ครั้ง ทำได้ 2 ประตู มีเปอร์เซนต์การครองบอลอยู่ที่ 31 เปอร์เซนต์
รูปเกมโดยรวมถือว่าทำได้ค่อนข้างดี โดย ลิเวอร์พูล โดน เบิร์นลีย์ ยิงนำไปก่อน มีอาการเกร็ง ๆ ให้เห็นเหมือนกัน แต่ก็พยายามสร้างสรรค์เกมบุก อย่างต่อเนื่องและกลับมาได้เร็ว ภาพรวมครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ไม่ได้เล่นดีมากนักแต่แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่สำคัญกว่าคือแคแรคเตอร์ของนักสู้ ว่าหัวใจยังได้อยู่
ส่วนในครึ่งเวลาหลัง ช่วงแรก ๆ อาจดูเนือย ๆ กันสักหน่อยปล่อยให้ เบิร์นลีย์ ตั้งเกมบุกอยู่ช่วงนึง ก่อนที่ได้ประตูหนีห่างอีกลูกจากความผิดพลาดของ เบิร์นลีย์ อีกแล้ว จากจังหวะ ทอม ฮีตัน เตะเปิดเกมแป้กมาเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เก็บบอลก่อนจะลากลุยเข้าเขตโทษ ถึงจะโดนตามมาดักทันจบสกอร์เองไม่ได้แต่บอลยังมาเข้าทาง โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน เก็บส้มหล่นกินสบาย
ช่วงทดเจ็บ ลิเวอร์พูล มาพลาดเสียแบบง่าย ๆ เสียสมาธิไม่ประกบติด ทำให้ เบิร์ยลีย์ ไล่ตามจี้มา 3-2 ทำให้เกมดูตื่นเต้นอีกครั้ง
แต่ในที่สุด ลิเวอร์พูล ก็มาโต้กลับและเป็น แดเนียล สเตอร์ริดจ์ จ่ายให้ ซาดิโอ มาเน่ หลุดไปยิงปิดท้ายเข้าไป เป็น 4-2
4. เมื่อตรงกลางมี ลัลลานาเยอร์เก้น คล็อปป์ สร้างความประหลาดใจอีกครั้งเมื่อเลือก อดัม ลัลลานา ลงสนามในแดนกลาง โดยให้เหตุผลว่านักเตะซ้อมได้ดีมากจึงให้โอกาสลงเล่น
ลัลลานา ไม่ทำให้ คล็อปป์ ผิดหวัง เพราะเจ้าตัวทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ ลัลลานา วันนี้ตั้งใจพิสูจน์ตัวเองเป็นพิเศษ และเป็นคนเริ่มจังหวะได้ประตูตีเสมอ โดยสวิตชิงบอลไปทางขวาให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก่อนที่ ซาลาห์ จะทำชิ่งกับ ไวจ์นัลดุม และตบกลับมากลาง เบิร์นลีย์ พลาดบอลมาเข้าทาง ฟิร์มิโน่ ที่อยู่หน้าประตูพอดีนำมาซึ่งลูกตีเสมอ
ช่วงเวลาที่ ลัลลาน่า อยู่ในสนามเกมตรงกลางของ ลิเวอร์พูล ดูมีสีสันพอสมควร เพราะดูกล้าจ่ายขึ้นหน้า ขยันไล่บอล เล่นด้วยความทุ่มเท แถมยังดูเป็นคนที่ทำให้ทีมมีพลังบุกได้เรื่อย ๆ
สถิติหลังเกมของ อดัม ลัลลาน่า
โอกาสยิงประตู 1 ครั้ง
เปอร์เซนต์การจ่ายบอลสำเร็จ 78 เปอร์เซนต์
เลี้ยงผ่านสำเร็จ 1 ครั้ง
แท็คเกื้ลสำเร็จ 4 ครั้ง
มีส่วนกับประตู 2 ครั้ง
3. สถิติใหม่ที่เกิดขึ้น- ซาดิโอ มาเน่ กลายเป็นผู้เล่นคนที่ 6 ของ ลิเวอร์พูล ที่สามารถยิงประตูได้ 6 เกมติดต่อกันใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ต่อจาก ไมเคิล โอเว่น, เฟอร์นานโด ตอร์เรส, หลุยซ์ ซัวเรซ, โมฮาเหม็ด ซาลาห์
- โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ สามารถยิงได้ถึง 10 ประตู ถึง 4 ฤดูกาลติดต่อกัน
- โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ มีส่วนร่วมกับประตูที่ ลิเวอร์พูล ยิงได้ 100 ประตู แบ่งเป็นยิง 63 ประตู แอสซิตส์ 37 ครั้ง
2. วัดกันอีกยาวลิเวอร์พูล เก็บ 3 คะแนนสำคัญในเกมที่กดดัน ยังคงทำคะแนนไล่จี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่ 1 คะแนน บ่งบอกได้ชัดเจนว่าพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปีนี้ยังต้องวัดกันอีกยาว
เหลือโปรแกรมอีกเพียงแค่ 8 นัด กับคะแนนที่ไล่จี้กันไม่ห่าง ทั้งทีมลุ้นแชมป์, ทีมชิงพื้นที่ UCL ยังลุ้นกันสนุกต่อเนื่อง
1. โมฮาเหม็ด ซาลาห์เกมนี้ปืนยังฝืด ไม่สามารถบวกประตูเพิ่มให้ตัวเองได้แต่อย่างไรก็ตามเกมวันนี้เจ้าตัวถือว่าทำผลงานได้ดี เพราะปั่นป่วนแนวรับของ เบิร์นลีย์ ได้หลายจังหวะ แถมยังมีส่วนร่วมกับประตูวันนี้ถึง 3 ครั้ง
โดยหลังเกม เยอร์เก้น คล็อปป์ ยังให้สัมภาษณ์ด้วยว่าเขาชื่นชมฟอร์มการเล่นของ ซาลาห์ มากที่สุดถึงขนาดเลือกให้เป็น แมน ออฟ เดอะ แมตซ์ โดยส่วนตัว
"สำหรับผมแล้ว เกมวันนี้ โม คือนักเตะที่ดีที่สุดในสนาม" เยอร์เก้น คล็อปป์ กล่าว
สถิติหลังเกมของ ซาลาห์
มีโอกาสยิง 5 ครั้ง
เข้ากรอบ 1 ครั้ง
เปอร์เซนต์การผ่านบอลสำเร็จ 79 เปอร์เซนต์
เลี้ยงผ่าน 1 ครั้ง