′บุรีรัมย์′ แถลงการณ์ติง ′ส.บอล′ ลงโทษแบน ′คาร์เมโล่′ เกินกว่าเหตุ ตั้งคำถามเลือกปฎิบัติหรือไม่?

′บุรีรัมย์′ แถลงการณ์ติง ′ส.บอล′ ลงโทษแบน ′คาร์เมโล่′ เกินกว่าเหตุ ตั้งคำถามเลือกปฎิบัติหรือไม่?

′บุรีรัมย์′ แถลงการณ์ติง ′ส.บอล′ ลงโทษแบน ′คาร์เมโล่′ เกินกว่าเหตุ ตั้งคำถามเลือกปฎิบัติหรือไม่?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจากที่ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ลงโทษแบน คาร์เมโล่ กอนซาเลซ กองกลางชาวสเปนของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แบบไม่มีกำหนด จากกรณีที่ คาร์เมโล่ แสดงความไม่พอใจ หลังโดนไล่ออกจากสนาม รวมทั้งเจตนาเตะขวดน้ำ อีกทั้งยังเตะลูกบอลระบายอารมณ์และพยายามเดินเข้าไปหาผู้ตัดสิน ในเกมที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกไปชนะ ราชบุรี มิตรผล 2-1 ในศึกโตโยต้า ลีกคัพ รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 เมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา

ล่าสุด บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ของสโมสรฯ ลงวันที่ 1 ส.ค.57 โดยระบุว่า สมาคมฟุตบอลฯ ลงโทษแบนรุนแรงเกินกว่าเหตุ และยืนยันว่า คาร์เมโล่ ไม่มีเจตนาที่จะทำร้ายผู้ตัดสิน พร้อมกับตั้งข้อสังเกตว่าการลงโทษแบนครั้งนี้เป็นการเลือกปฎิบัติหรือไม่ เพราะที่ผ่านมา สมาคมฟุตบอลฯ ยังไม่เคยลงโทษนักเตะรุนแรงแบบนี้มาก่อน ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

"สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยพันเอก (พิเศษ) วรวุฒิ ทองศรีงาม เลขาธิการสมาคมฯ ได้มีหนังสือถึงสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ห้ามส่ง คาร์เมโล่ กอนซาเลซ ลงแข่งขันฟุตบอลทุกรายการ ที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เป็นผู้จัด หรือมีส่วนร่วมจัดการแข่งขันแบบไม่มีกำหนด ตามข้อเสนอของ พลเอกชินเสณ ทองโกมล ประธานคณะกรรมการผู้ตัดสิน"

"สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ขอเรียนว่า การลงโทษครั้งนี้ เป็นการลงโทษเกินกว่าเหตุ และแสดงให้เห็นถึงการเลือกปฏิบัติ ของประธานคณะกรรมการผู้ตัดสินอย่างชัดเจน เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบกับนักกีฬาคนอื่นๆ ทั้งนักกีฬาไทยและนักกีฬาต่างชาติ ที่มีพฤติกรรมลักษณะเดียวกัน หรือร้ายแรงกว่า ส่อให้เห็นถึงเจตนาของผู้เสนอ ที่มีต่อ คาร์เมโล่ กอนซาเลซ และสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด"

"สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ขอเรียนว่าเกมการแข่งขันระหว่างทีมราชบุรี มิตรผล เอฟซี กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คาร์เมโล่ กอนซาเลซ ไม่มีเจตนาที่จะทำร้ายผู้ตัดสิน และผู้เล่นของทีมราชบุรี ทั้งๆ ที่เขาถูกสกัดอย่างรุนแรงหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้แสดงพฤติกรรมดังที่ถูกกล่าวหา"

"นาทีที่ 82 ของการแข่งขัน คาร์เมโล่ ถูกทำฟาล์วอย่างรุนแรง หลังปฐมพยาบาล กรรมการก็ให้ออกนอกสนาม คาร์เมโล่ เดินออกมาเตะขวดน้ำที่อยู่นอกสนาม และเดินไปขอน้ำดื่มจากสต๊าฟฟ์ของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เมื่อดื่มน้ำเสร็จ จะกลับเข้าไปเล่นในสนาม ปรากฎว่าโดนใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดง เพราะกรรมการที่ 4 ให้ข้อมูลต่อกรรมการว่า คาร์เมโล่ เตะขวดน้ำใส่กรรมการ แสดงพฤติกรรมไม่สุภาพในสนามแข่งขัน"

"เมื่อทราบว่าโดนใบแดง โดยไม่คาดคิด คาร์เมโล่ ก็วิ่งเข้าไปเตะลูกฟุตบอลอย่างแรง แต่ไม่มีเจตนาจะทำร้ายใคร ทั้งกรรมการผู้ตัดสิน และ ผู้เล่นของราชบุรี สังเกตได้จากทิศทางของฟุตบอลที่วางอยู่ และเมื่อเตะออกไป ไม่มีกรรมการและผู้เล่นคนอื่นๆ ยืนขวางอยู่"

"การเข้าไปหาผู้ตัดสิน ก็เพียงเพื่อแค่ต้องการคำชี้แจง ว่าให้ใบเหลืองที่ 2 ด้วยเหตุผลอะไร ซึ่งเป็นพฤติกรรมทั่วไปของนักกีฬาที่ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสิน แต่ไม่มีเจตนาทำร้ายแต่อย่างใด"

"คาร์เมโล่ เป็นนักกีฬาที่มีอารมณ์ร้อน แต่ไม่เคยมีพฤติกรรมคุกคาม หรือทำร้ายกรรมการผู้ตัดสินและผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม"

"การเสนอให้ลงโทษห้ามยุ่งเกี่ยวกับการแข่งขันฟุตบอล ทุกรายการเช่นนี้ จึงเป็นการลงโทษที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ เมื่อเปรียบเทียบกับนักกีฬาที่มีพฤติกรรมใกล้เคียงกัน หรือ ร้ายแรงกว่า คือ มีเจตนาทำร้ายกรรมการผู้ตัดสิน และ นักกีฬาฝ่ายตรงข้าม อย่างชัดเจน เช่น กรณี ลี ซัง โฮ ถูกลงโทษ แบน 6 นัด ปรับ 20,000 บาท จากการแสดงพฤติกรรมว่ามีเจตนาทำร้ายผู้ตัดสิน"

"หากจะกล่าวถึงการแสดงกิริยาไม่เหมาะสม ก็ยังมีอีกหลายกรณีที่ไม่เหมาะสมมากกว่า คาร์เมโล่ เช่น ถ่มน้ำลายใส่หน้าผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม หรือ นักกีฬาที่มีเจตนาทำร้ายคู่แข่ง ใช้กิริยาไม่สุภาพ กระชากคอเสื้อ ทะเลาะวิวาทกับผู้ชมการแข่งขัน กรณีเหล่านี้ ไม่เคยมีใครถูกเสนอให้ลงโทษห้ามยุ่งเกี่ยวกับการแข่งขันฟุตบอล ทุกรายการ ตลอดฤดูกาล"

"สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และนักกีฬาทุกคนของสโมสร เคารพคำตัดสินของกรรมการและพร้อมรับบทลงโทษที่เหมาะสม เมื่อกระทำผิดกฎกติกาการแข่งขัน สโมสรฯ ไม่เคยสนับสนุนให้นักกีฬาทำผิดกฎกติกา และมีมาตรการลงโทษนักกีฬาทุกคน ที่มีเจตนาทำผิดกฎกติกา ได้รับใบเหลือง ใบแดง แบบมีเจตนาทำร้ายคู่ต่อสู้และกรรมการผู้ตัดสิน"

"แต่กรณีนี้ เป็นการเสนอลงโทษนักกีฬา ที่เกินกว่าเหตุ และไม่เป็นบรรทัดฐานเดียวกันกับนักกีฬาคนอื่นๆ เป็นลักษณะ สองมาตรฐาน หรือ หลายมาตรฐาน"

"อีกทั้ง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเหตุจากการแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ลีกคัพ ซึ่งการลงโทษควรจะเป็นการลงโทษห้ามแข่งขันในรายการโตโยต้า ลีกคัพ ดังเช่นที่เคยปฏิบัติมากับทุกๆ กรณี และทุกๆ สโมสร มิใช่ลงโทษห้ามยุ่งเกี่ยวกับการแข่งขันทุกรายการ โดยเฉพาะรายการโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นคนละรายการแข่งขัน"

"สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จึงขอเรียกร้องความธรรมให้แก่ คาร์เมโล่ กอนซาเลซ และขอเรียกร้องให้ประธานคณะกรรมการผู้ตัดสิน ในฐานะผู้เสนอลงโทษและเลขาธิการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้ออกคำสั่งลงโทษ ได้ใช้วิจารณญาณ พิจารณาการลงโทษนักกีฬาทุกคน ด้วยมาตรฐานเดียวกัน เพื่อรักษามาตรฐานของฟุตบอลไทย ทั้งในปัจจุบันและอนาคต นายทัดเทพ พิทักษ์พูลสิน ผู้จัดการทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook