จริงหรือ? 4ปัจจัยนี้..อาจทำหงส์พลาดแชมป์

ใกล้เข้ามาแล้วกับศึกลูกหนังอันดับหนึ่งเมืองไทย คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในขณะนี้ก็ว่าได้ และช่วงนี้ก็กำลังคึกคักน่าดู

เนื่องจากแต่ละทีมต่างเฟ้นหานักเตะเข้ามาเสริมทัพกันอย่างดุเดือด อาทิเช่น "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล, เชลซี, อาร์เซน่อล,แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และหลายต่อหลายทีมที่ก็ต้องการแข้งดีๆราคาเบาๆ มาร่วมทัพกันทั้งนั้น

แต่ตอนนี้ก็คงไม่พ้นทีมขวัญใจมหาชนอย่าง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ทีมรองแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลที่ผ่านมา ที่สื่อหลายสำนักในประเทศ อังกฤษ ต่างกำลังโจมตี เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีม "เดอะ ค็อป" อย่างหนัก จากการบริหารเงินอันมหาศาลแบบไม่ตรงจุด ด้วยการซื้อนักเตะเข้ามาร่วมทัพมากมาย แต่ไม่ใช่นักเตะระดับโลกเลย และก็น่าจะเทียบไม่ได้เลยกับการเสีย หลุยส์ ซัวเรซ ไป

ดังนั้นเราเลยขอมาโฟกัส ที่ทีมลิเวอร์พูล กันดีกว่า ว่าเหตุใด"หงส์แดง"อาจจะเล่นได้ไม่ดีเหมือนฤดูกาลที่แล้ว และผลงานอาจตกต่ำลงจนพลาดคว้าแชมป์ทุกรายการก็เป็นได้..

ส่วนปัจจัยหลักที่คิดว่า ลิเวอร์พูล จะพลาดแชมป์ทุกรายการมีอะไรบ้างลองไปดูกัน..

ปัจจัยที่1 การขาดกองหน้าอย่าง หลุยส์ ซัวเรซ

 

ซึ่งแน่นอนจากผลงานฤดูกาลที่แล้วของ ซัวเรซ ที่จับคู่กับ ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ ช่วยกันซัดประตูได้เป็นกอบเป็นกำถึง 52 ประตู โดยเจ้าตัวยิงคนเดียว 31 ประตู คว้ารางวัลดาวซัลโว พรีเมียรลีก ไปเมื่อฤดูกาลที่แล้ว จนทำให้ขึ้นไปเบียดลุ้นแชมป์กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ลุ้นกันทุกอาทิตย์กันเลยทีเดียว แต่สุดท้ายพวกเขาก็ได้แค่รองแชมป์ 

ซึ่งเชื่อว่าการขาดหายไปของ หลุยซ์ ซัวเรซ อาจจะส่งผลกระทบต่อทีมไม่มากก็น้อย เพราะอาจจะไม่มีนักเตะคนไหนอีกแล้ว ที่จะเล่นคู่กับ สเตอร์ริดจ์ ได้ลงตัวเท่า ซัวเรซ ซึ่งส่วนตัวมองว่า ริคกี้ แลมเบิร์ต กองหน้ารายใหม่นี้ถนัดเล่นหน้าเป้ามากกว่าที่จะเล่นเป็นหน้าคู่

ปัจจัยที่2 ปัญหาของแนวรับ

 

เนื่องจากฤดูกาลที่แล้วส่วนสำคัญส่วนหนึ่งที่ทำให้ลิเวอร์พูล จบอยู่แค่เพียงอันดับที่ 2 ของตารางพรีเมียร์ลีก ก็คงไม่พ้นปัญหาเรื่องแนวรับที่มักจะเสียประตูค่อนข้างง่าย พวกเขาควรต้องปรับปรุงในเรื่องเกมรับให้มากกว่านี้

ซึ่งมองว่าการได้ เดยัน ลอฟเรน มายืนเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ก็อาจจะช่วยให้ "เร้ด แมชีน" มีแนวรับที่แกร่งขึ้น แต่อยู่ที่ว่าจะยืนคู่กับใครถึงจะเข้าขาได้มากที่สุด

ปัจจัยที่3 จำนวนแมตช์แข่งขันที่มากขึ้น

 

สิ่งที่ทำให้พวกเขาผลงานดีมาโดยตลอดในฤดูกาลที่แล้ว ก็เพราะจำนวนแมตช์ที่มีน้อย จนสามารถเล่นได้อย่างเต็มที่ทุกนัดในลีก และไม่มีอะไรที่ให้ต้องกังวลใจ  แต่ในฤดูกาลนี้มันจะไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว!!

เพราะพวกเขาต้องเจอศึกหนักกับศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก ซึ่งเป็นรายการที่สำคัญอีกรายการหนึ่งที่เพิ่มเข้ามา และอาจทำให้นักเตะของ ร็อดเจอร์ส พักผ่อนได้น้อยลงร่างกายไม่ฟิตเท่าที่ควรจากการลงเล่น2-3ครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่งทางที่ดีควรจะต้องตัดสินใจว่าจะเน้นไปที่เกมยุโรปหรือพรีเมียร์ลีกดี ซึ่งแน่นอนเราอาจจะต้องยอมเสียสละในบางอย่างเพื่อสิ่งที่ดีที่สุด


ปัจจัยที่4 นักเตะขาดประสบการณ์

 

ซึ่งนักเตะลิเวอร์พูลชุดนี้ส่วนใหญ่มักจะเน้นดาวรุ่งเป็นหลัก แน่นอนพละกำลังและความแข็งแกร่งรวมถึงนักเตะหลายคนในทีมยังขาดประสบการณ์ในเวทียุโรป ซึ่งไปเปรียบเทียบกับนักเตะทีมอื่นๆแล้ว ยังไงก็ดูเป็นรอง

โดย"หงส์แดง"มีนักเตะเพียงไม่กี่คนที่ผ่านเกมระดับทีมชาติมา ซึ่งเหล่านี้อาจจะช่วยทีมได้อยู่บ้างเล็กน้อย แต่ก็ต้องแบกรับความกดดันอย่างหนักและถ้าพวกเขารับความกดดันนี้ไม่ไหวมันก็อาจจะส่งผลกระทบต่อทีมแน่นอน

"แต่ก็ยังมีอีกหลายปัจจัยมากมาย ที่ยังไม่สามารถคาดเดาได้ ถึงเวลานั้นเราคงได้รู้กันอีกที สุดท้ายนี้หวังว่าลิเวอร์พูลคงจะเอาตัวรอดผ่านรอบแบ่งกลุ่มยูซีแอล ให้ได้นะครับ"