เก็บตก 5 ประเด็นร้อน หลังเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก น้องไก่เฮ ถีบ อาแจ็กซ์ ร่วงคาบ้าน
5. ความเป็นไปของเกม
เป็นเกมที่ อาแจ็กซ์ ออกสตาร์ทได้อย่างเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด ตัวแทนจากแดนกังหันลมเล่นได้อย่างมั่นใจและกระตือรือล้นกว่าพลพรรค สเปอร์ส ที่ 45 แรกของพวกเขาดูจะไม่เป็นธรรมชาติอย่างที่เคย ซึ่งความมั่นใจของเจ้าบ้านนั่นเองที่ถูกแปรเปลี่ยนให้เป็นสกอร์ 2-0 ตั้งแต่ครึ่งแรก
อย่างไรก็ตาม ครึ่งหลังทัพ ไก่เดือยทอง กลับลงมาพร้อมกับความคึกคัก ขณะที่เจ้าถิ่นดูจะดร็อปลงไปและกว่าจะรู้ตัวอีก ทีมจาก ลอนดอน ก็รัวยิง 2 ประตูใส่ อาแจ็กซ์ เสียแล้ว
ช่วงท้าย เกมยังคงเปิดหน้าเข้าใส่กันอย่างต่อเนื่องเมื่อ สเปอร์ส ต้องการอีก 1 ประตูเพื่อผ่านเข้ารอบ ขณะที่เจ้าบ้านพยายามใช้โอกาสสวนกลับเร็วและต่างมีลุ้นเหน่งๆ ด้วยกันทั้งสองฝ่ายแต่ก็ไม่ฝ่ายใดสามารถทำประตูได้ กระทั่งทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 6 เมื่อ ลูคัส มูรา ซัดประตูแฮตทริคของเจ้าตัวและเป็นประตูที่ 3 ของทีมสำเร็จ
4. บรรดาเด็กระเบิดที่ไปไม่ถึงฝั่งฝัน
อาแจ็กซ์ ได้กลายเป็นม้ามืดนอกสายตาที่โค่นยักษ์ใหญ่อย่าง ยูเวนตุส และ เรอัล มาดริด ลงได้ก่อนที่เส้นทางของพวกเขาในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก จะถูกหยุดไว้ในรอบรองชนะเลิศด้วยน้ำมือของ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์
ฟุตบอลที่สวยงามของ อาหยักซ์ รวมกับบรรดานักเตะวัยกระเตาะได้หวนวันคืนให้เราย้อนนึกไปถึงอดีตที่เคยยิ่งใหญ่ของพวกเขาก่อนหน้านี้ แต่มันก็ได้กลายเป็นดาบสองคมที่กลับมาเล่นงานพวกเขาในท้ายที่สุดเมื่อไม่สามารถรักษาความได้เปรียบในช่วงชี้เป็นชี้ตายของเกมไว้ได้
ที่น่าเสียดายยิ่งกว่าการพลาดเข้าชิงชนะเลิศในฤดูกาลนี้ คือมันอาจเป็นครั้งสุดท้ายที่พวกเขาจะได้เล่นร่วมกันเมื่อบรรดาคีย์แมนของทีมต่างตกเป็นข่าวกับยักษ์ใหญ่ทั่วทั้งทวีปยุโรป
3. เกียรติยศของ พอช และ สเปอร์ส
- แชมป์ลีกสูงสุดของ สเปอร์ส ต้องย้อนกลับไปถึงปี 1961
- แชมป์ เอฟเอ คัพ ครั้งล่าสุดปี 1991
- หรือจะเป็น แชมป์ ยูฟ่า คัพ ตั้งแต่ปี 1984
ที่เราพอจะจดจำความสำเร็จอย่างเป็นชิ้นเป็นอันของพวกเขาได้อย่างลางๆ ดูจะเป็นแชมป์ ลีก คัพ เมื่อปี 2008 แต่มันก็นานขนาดที่ว่านักเตะตัวหลักในทีมชุดนั้นมีชื่อของ พอล โรบินสัน, โจนาธาน วูดเกต, อารอน เลนนอน, เจอร์เมน จีนาส, ร็อบบี้ คีน และ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
ขณะที่กุนซือหนุ่มวัย 47 ปีที่เพิ่งจะเทิร์นโปรในเส้นทางผู้จัดการทีมเมื่อปี 2009 ก็ยังไม่มีความสำเร็จใดๆ ที่จับต้องได้ทั้งกับ เอสปันญอล และ เซาแธมป์ตัน ในช่วงก่อนหน้านี้
นัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2018/19 จะกลายเป็นบทพิสูจน์ทั้งตัวของ พอช เอง รวมทั้งกับทัพ ไก่เดือยทอง ชุดนี้ว่าพวกเขามีดีพอที่จะประกาศศักดาเสียที
2. เจ้าหนู เฟรงกี้ เดอ ยอง ที่น่าตื่นตาตื่นใจ
มิดฟิลด์วัย 21 ปีผู้เป็นหัวใจของ อาหยักซ์ กลายเป็นแข้งที่สามารถเอาชนะในการเข้าปะทะสำเร็จมากที่สุดในสนาม (5 ครั้ง) และเป็นผู้เล่นเจ้าบ้านที่ตัดบอลได้มากที่สุด (8 ครั้ง)
ส่วนผสมระหว่างการผ่านบอลอันยอดเยี่ยม, วิสัยทัศน์ที่เฉียบขาด, การอ่านเกมที่ฉลาดเป็นกรด, ไหวพริบกับเทคนิคในการแก้ไขสถานการณ์ และความเด็ดขาดในการเข้าแย่งบอล ดูราวกับว่าจับเอา เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ มารวมร่างกับ อันเดรียส อิเนียสต้า อย่างไรอย่างนั้น
ทีเด็ดของเจ้าตัวทำให้บรรดาผู้เล่นของ สเปอร์ส ต้องรุมกินโต๊ะเพื่อไม่ให้ เดอ ยอง มีพื้นที่และเวลาในการเล่นแต่เขาก็ยังสามารถเอาตัวรอดผ่านบอลให้เพื่อนร่วมทีมได้เปรียบให้เห็นอีกหลายครั้งหลังจากนั้น
1. แฮตทริคฮีโร่ ลูคัส มูรา
ตัวจี๊ดชาว บราซิล ที่ สเปอร์ส ไปคว้ามาจาก ปารีส แซ็งต์-แชร์กแมง มักถูกมองว่ามีเพียงความวูบวาบหวือหวาทว่าขาดความเด็ดขาดในจังหวะสุดท้าย แต่เกมนี้ ลูคัส ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่มีอยู่ในตัวอย่างเต็มเปี่ยม
หลังจาก 45 นาทีแรกที่ดูจะเข้าอีหรอบเดิม ลูคัส ที่ไม่รู้ว่าไปกินดีหมีจากที่ไหนมาในช่วงพักครึ่งก็กลายเป็นทำ 2 ประตูภายในระยะเวลาห่างกันไม่ถึง 5 นาทีช่วยทีมตีเสมอ ก่อนจะดราม่าสุดๆ เมื่อเจ้าตัวทำแฮตทริคสำเร็จในนาทีสุดท้ายของการทดเวลาบาดเจ็บ ส่ง ไก่เดือยทอง เข้าชิงชนะเลิศ
อัลบั้มภาพ 33 ภาพ