ลูกรักและพลังสู่การคัมแบ็คครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลกกีฬาของ "ไทเกอร์ วู้ดส์"

ลูกรักและพลังสู่การคัมแบ็คครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลกกีฬาของ "ไทเกอร์ วู้ดส์"

ลูกรักและพลังสู่การคัมแบ็คครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลกกีฬาของ "ไทเกอร์ วู้ดส์"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นี่คือเรื่องราวในช่วงที่ ไทเกอร์ จมสู่หลุมดำของชีวิตคน ช่วงเวลาที่เขาห่างหายไปจากการแข่งขัน แต่ปรากฎตัวอยู่บนหน้าหนังสือพิมพ์ด้วยข่าวฉาวนอกใจภรรยาด้วยการมีผู้หญิงอื่นกว่า 120 คน อันเป็นจุดเริ่มต้นของสาเหตุที่เขาตกอันดับกลายเป็นมือต่ำกว่าอันดับ 1,000 ไปแบบเหลือเหลือเชื่อ

เกิดอะไรขึ้นบางในช่วงที่เขารับคำดูถูกและถ่มถุย ที่สำคัญคือเหตุใดเขาต้องลุกขึ้นมาสู้ต่อในกีฬากอล์ฟทั้งๆที่ร่างกายของเขาควรจะหมดสภาพและยอมรับความจริงได้แล้ว ติดตามเรื่องราวการคัมแบ็คครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลกกีฬาของ "ไทเกอร์ วู้ดส์" ได้ที่นี่

ชีวิตดั่งพลุไฟ 

หลังจากผ่านช่วงเวลาสร้างชื่อเป็นดาวค้างฟ้ามาตั้งแต่เริ่มเดบิวต์ ไทเกอร์ มีช่วงเวลาที่เรียกได้ว่า "พีก" อย่างยาวนาน เขาคือชายผู้สร้างช็อตมหัศจรรย์และเกิดมาเพื่อเป็นแชมป์อย่างแท้จริง

สำหรับชีวิตลูกผู้ชายคนหนึ่ง การได้เป็นพ่อคนนั้นสอนให้เราได้รับรู้ว่าชีวิตนี้มีสิ่งสำคัญที่สุดให้ต้องรับผิดชอบ มันไม่ใช่ภาระ แต่มันคือหน้าที่ และการเลี้ยงดูลูกๆ ที่ดีที่สุดก็คือการแสดงออกและทำให้เห็นเป็นตัวอย่างมากกว่าแค่ปากพูด ดังนั้นเราจึงพอจะกล่าวได้ว่าหลังจากที่ ไทเกอร์ และ เอลิน นอร์เดเกรน ภรรยาของเขามีลูกสาวคนแรกที่ชื่อว่า แซม ในปี 2007 มันจึงเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ ไทเกอร์ ประสบความสำเร็จมากที่สุดในชีวิต


Photo : New York Post

ในปีที่แซมเกิด ไทเกอร์ คว้าแชมป์ถึง 7 รายการภายในปีเดียว ซึ่งมีแชมป์รายการเมเจอร์อย่าง PGA แชมเปี้ยนชิพ รวมอยู่ด้วย พร้อมทำเงินรางวัลกว่า 77 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อบวกกับเงินรางวัลในปีก่อนๆ ทรัพย์สินของตระกูลวู้ดส์ มากมายชนิดที่ว่าใช้กี่ชาติก็ไม่หมด ต่อให้เลิกเล่นกอล์ฟตั้งแต่วินาทีนั้นเลยก็ย่อมได้ 

ทุกอย่างที่ “พ่อไทเกอร์” ทำคือการหวังที่จะให้ลูกสาวอย่าง แซม กลายเป็นเด็กที่โชคดีที่สุดในโลก เธอจะโตมาพร้อมๆ กับการได้รู้ว่าพ่อของเธอคือผู้ยิ่งใหญ่และเป็นมหาเศรษฐีในเวลาเดียวกัน ช่วงเวลาแห่งการเป็นหัวหน้าครอบครัวของ ไทเกอร์ นั้นสามารถเรียกว่าหอมหวานได้แบบเต็มปาก เพราะเขายังเดินชนความสำเร็จเป็นว่าเล่น ณ กรีนกอล์ฟ ใครคิดจะขวางไทเกอร์สู่แชมป์พวกเขาจะต้องเสียใจในบั้นปลาย...เขาอาจจะแพ้บ้างตามประสาการแข่งขันกีฬา แต่เขาจะแพ้ได้ไม่นาน อีกสักพักจะกลับมาและเป็นแชมป์ได้เสมอ 


Photo : The Globe and Mail

ในขณะที่ชีวิตกำลังเจิดจรัส แต่ภายใต้สัจธรรมที่ไม่มีใครหนีพ้นมันคือช่วงเวลาที่ ไทเกอร์ ต้องรับกับความจริงในสิ่งที่เขาเคยทำไว้ในอดีต ... ในปี 2009 ชาร์ลี ลูกชายคนที่ 2 ได้ลืมตาดูโลก แต่การมาของ ชาร์ลี คือช่วงเวลาที่ไม่ค่อยเพอร์เฟ็กต์เหมือนกับช่วงที่ แซม พี่สาวของเขาลืมตาดูโลก เพราะ ไทเกอร์ เริ่มออกอาการเหมือนมีอะไรบางอย่างอยู่ในใจ ประการแรก เขาพลาดแชมป์ระดับเมเจอร์เป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปีหลัง นี่คือสิ่งที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก ใครต่อใครเริ่มสงสัยแล้วว่า คนที่ตีอย่างไรก็ลง เหตุใดจึงออกอาการสมาธิแตกซ่านและเล่นไม่ได้เรื่องราวกับเป็นคนละคนได้ขนาดนี้ สุดท้ายก็ไม่มีใครหนีความจริงพ้น สิ่งที่ ไทเกอร์ กังวลได้โผล่ออกมาเผชิญหน้ากับเขาแล้ว 

โตขึ้นมาพร้อมข่าวฉาวของพ่อ

ชาร์ลี เกิดมาได้ไม่กี่เดือน ไทเกอร์ ประสบปัญหาครั้งที่ใหญ่ที่สุดในชีวิต แม้มันจะเป็นเรื่องปกติของคนดังที่จะต้องโดนข่าวซุบซิบนินทา ทว่าเรื่องของ ไทเกอร์ นั้นเป็นเรื่องร้ายแรง เพราะข่าวที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อครอบครัวของเขาโดยตรง ภรรยาของเขาจะต้องเสียใจ และลูกๆ ของเขาจะกลายเป็นเครื่องมือของสื่อที่พยายามจะใช้คำว่า "แฟมิลี่แมน" ของ ไทเกอร์ ย้อนกลับมาเล่นงานตัวของเขาเอง


Photo : The Globe and Mail

"ฝันร้ายมาเยือน! ความรัก / ลูกๆ / เซ็กส์เทป ของ ไทเกอร์ วู้ดส์" หนังสือพิมพ์เจ้าใหญ่ของ อเมริกาอย่าง National Enquirer ลงข่าวหน้าหนึ่งแบบไม่ไว้หน้าใคร พวกเขาเอาคำว่าลูกๆ ของไทเกอร์ มารวมกับเรื่องการนอกใจและเซ็กส์ของผู้เป็นพ่อ มันแสดงให้เห็นว่าเมื่อสื่ออเมริกันจะเล่นงานใคร พวกเขาพร้อมจะโหดร้ายกับเหยื่อเสมอ ก่อนจะขยายภายในเนื้อข่าวที่ว่า แฟมิลี่แมนอย่างเขากำลังทำตัวน่ารังเกียจด้วยการ "มีชู้"

ไทเกอร์ มีความสัมพันธ์กับ ราเชล อูชิเทล ผู้จัดการไนท์คลับแห่งหนึ่งในนิวยอร์ก และนำเรื่องราวของเขามาเล่าอย่างสนุกปากไม่สนโลก … ตอนนั้น แซม อายุ 2 ขวบย่าง 3 ขวบแล้ว แม้จะยังจำอะไรไม่ได้มากแต่แน่นอนว่าด้วยสัญชาติญาณของมนุษย์ แม้แต่เด็กน้อยก็ยังรู้ว่าบรรยากาศในบ้านหลังใหญ่หลังนี้นั้นไม่เหมือนเดิมเพราะหลังจากที่ข่าวของ ไทเกอร์ ถูกยำเละ เจ้าตัวก็เครียดหนักและขังตัวเองไว้ในห้อง

และ 2 วันหลังจากข่าวแรกถูกตีพิมพ์ ก็มีรายงานระลอกที่ 2 ยืนยันว่า ไทเกอร์ ขับรถคาดิแล็คคันหรู ออกจากบ้านที่ ฟลอริด้า ทว่ายังไม่ทันได้ไปไหนไกล เขาก็พุ่งเข้าชนกับต้นไม้จนมีไฟลุกในตัวรถ สื่อคาดว่าเขาเสพยาเกินขนาดเพราะมีการตรวจแอลกอฮอล์หลังจากนั้น แต่ก็ไม่พบว่าเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ ... ส่วนคนที่ช่วยดึงเขาออกมาก็ไม่ใช่ใคร เอลิน นอร์เดเกรน ภรรยาของเขาที่กำลังอยู่ในความสัมพันธ์ที่อธิบายยากและเริ่มจะเข้าสู่ช่วงแตกหักและล่มสลาย 

แม้อยากจะประคับประคองเท่าไหร่แต่สิ่ง ไทเกอร์ แอบทำมันร้ายแรงเกินกว่าที่ เอลิน จะให้อภัยได้ง่ายๆ เพราะ  ราเชล อูชิเทล ไม่ใช่ผู้หญิงแค่คนเดียวที่ ไทเกอร์ มีความสัมพันธ์ด้วยในขณะที่เขายังสวมแหวนแต่งงานไว้ที่นิ้วนางข้างซ้าย 

สถานการณ์ของไทเกอร์หลังปี 2009 นั้นมันเหมือนกับเขาเป็นชิ้นเนื้อสดที่โยนลงบ่อปลาปิรันย่า เพราะเริ่มมีผู้หญิงปริศนาออกมาให้ข่าวกับสื่อว่า เธอก็เป็นหนึ่งในคนที่มีสัมพันธ์ลับๆ กับไทเกอร์ หลายคนพยายามตีหน้าเศร้าแต่สุดท้ายก็ได้เงินจากข้อมูลที่ให้กับสื่อสายบันเทิง เมื่อรู้ว่าการขายข่าวกับ ไทเกอร์ คือหนทางการสร้างรายได้ ผู้หญิงแห่งความลับ เริ่มเปิดเผยตัวออกมาทีละคนสองคน กระทั่งเยอะเกินไปจนสื่อคิดว่าการนอกใจภรรยาของ ไทเกอร์ มันเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว มันเยอะพอที่ทุกคนจะฟันธงได้ว่ามันคือเรื่องจริง ไทเกอร์ นอกใจภรรยาโดยที่สื่อไม่ต้องพลิกแผ่นดินหาข้อมูลใดๆ เพิ่มเติมเลย 

เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดทำให้ ไทเกอร์ ต้องหยุดพักการแข่งขันกอล์ฟไปอย่างไม่มีกำหนดซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สอดคล้องกับอาการบาดเจ็บของเขาพอดี นาทีนี้เขาถอยหลังจนชิดกำแพงแล้ว หมดทางเลือกที่จะหาวิธีแก้ปัญหานี้ นอกเสียจากว่าเขาเองต้องรับสารภาพด้วยตัวเอง เพราะอย่างน้อยๆ ก็ยังมีความเชื่อว่าหากสารภาพผิดแล้วเขาจะยังพอมีความเป็นลูกผู้ชายเหลืออยู่บ้าง 

ไทเกอร์ วู้ดส์ ยอมรับว่าตลอด 5 ปีหลังจากแต่งงานของ เอลิน เขามีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนอื่นๆที่ไม่ใช่ภรรยาถึง 120 คน และสารภาพว่าหลังจากปี 2006 ที่คุณพ่อ เอิร์ล วู้ดส์ เสียชีวิต ตัวของเขาก็มีปัญหาสภาพจิตใจจนกระทั่งกลายเป็นคนเสพติดเซ็กส์ การสารภาพพร้อมกับน้ำตาลูกผู้ชายครั้งนี้เหมือนจะเป็นไปตามที่ ไทเกอร์ คิดไว้เพราะเมื่อภรรยาของเขาได้รู้ความจริง เธอให้กำลังใจและพาเขาไปเข้าบำบัดในสถานที่แห่งหนึ่งในในรัฐมิสซิสซิปปี้ เพื่อบำบัดอาการที่เกิดจากสภาพจิตใจนี้ให้หายขาด 


Photo : ESPN

ทุกอย่างกำลังจะดีอยู่แล้ว แต่การบอกความจริงของ ไทเกอร์ นั้นเป็นการบอกไม่หมด ... เพราะสื่อเจ้าเดิมยังคงพยายามทำให้เรื่องนี้จบแบบไม่แฮปปี้เอนดิ้งด้วยการนำเสนอข่าวว่า แท้จริงแล้ว ไทเกอร์ มีกิ๊ก 121 คน ไม่ใช่ 120 คนตามที่เขาสารภาพ และคนที่ 121 คือปัญหาใหญ่ที่เขารู้แน่ว่าหากบอกไปจะกลายเป็นผลร้ายกับตัวเอง เขาจึงปิดบัง เอลิน ว่า คนที่ 121 คือ เรย์เชล คูไดรเอ็ต ลูกสาววัย 22 ปี ของเพื่อนบ้าน ที่เห็นกันมาแต่อ้อนแต่ออด และ เรย์เชล ก็รู้จักกับครอบครัวของ วู้ดส์ มาตั้งแต่อายุ 14 ปีเท่านั้น ไม่เพียงเท่านั้น พ่อของ เรย์เชล คือผู้รับเหมาที่สร้างบ้านให้กับครอบครัวของ ไทเกอร์ อีกต่างหาก

"นี่เป็นการทรยศที่เลวร้ายอย่างสุดๆ แล้ว ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคุณจะมีเซ็กซ์กับเด็กผู้หญิงในละแวกบ้านของเรา พอได้แล้ว ฉันจะหย่ากับคุณ!" ฟางเส้นสุดท้ายขาดลงทันที ความไว้ใจพังทลายไม่มีเหลืออีกแล้ว และโอกาสครั้งที่ 2 ของ ไทเกอร์ หมดเวลาลงอย่างรวดเร็ว ในปี 2010 เอลิน ตัด ไทเกอร์ ออกจากชีวิตเธอไปแล้ว ... ชีวิตสมรสเป็นอันสิ้นสุด และหลังจากนั้นเรื่องคดีความการฟ้องหย่าก็ตามมา 

แซม และ ชาร์ลี เติบโตมากับข่าวฉาวของผู้เป็นพ่อ และการตวาดขึ้นเสียงกันภายในครอบครัวอย่างแท้จริง โชคดีที่เด็กๆ ทั้งสองยังมีคุณย่าชาวไทยอย่าง กุลธิดา วู้ดส์ ที่คอยช่วยดูแลในช่วงเวลาที่ยากลำบากแบบนี้  แน่นอนว่าพวกเขาเองก็โตขึ้นทุกวัน และในวันที่พอจะอ่านออกเขียนได้พวกเขาจะรู้ในที่สุดว่าพ่อเคยทำอะไรไว้บ้าง และเหตุใดชีวิตของพ่อจึงตกต่ำลงอย่างที่เป็นอยู่ มันชัดเจนมากขึ้นเพราะ ไทเกอร์ ไม่อาจปิดบังความจริงกับลูกได้อีกแล้ว 


Photo : zimbio.com

ข่าวฉาวเกี่ยวกับเรื่องเพศ และปัญหาพฤติกรรมจากการขับขี่และเสพยา ทำให้สปอนเซอร์ที่เคยจ่ายเงินให้กับ ไทเกอร์ เริ่มหลุดออกทีละตัวสองตัว แม้เขาจะรวยมากพอจะใช้ชีวิตและเลี้ยงลูกๆ ให้สุขสบายได้ แต่การมีชีวิตอยู่ของเขาก็ไม่ต่างจากคนบาปคนหนึ่งที่ทำให้ครอบครัวต้องแตกแยก และสร้างประสบการณ์เลวร้ายให้กับลูกๆ ... ความจริงโหดร้ายเสมอ อดีตแก้ไขอะไรไม่ได้ และจะอยู่แบบนี้ต่อไปจนกว่าเขาจะทำใจยอมรับมันได้

มือตก 1,000 อันดับ ...

การไม่ยอมประกาศเลิกเล่นท่ามกลางปัญหามองได้ 2 แบบ 1 คือเขาใจสู้ที่จะกู้ชื่อเสียงตัวเองกลับคืนมา และ 2 คือเขาไม่ยอมรับความจริงในสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ร่างกายของเขาหมดสภาพจากการผ่าตัดตามที่ต่างๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนต้องเล่นไปพักไป ขณะที่สภาพจิตใจก็ถูกเล่นงานอย่างหนัก เพราะหลังจากเขาประสบกับช่วงชีวิตที่ตกต่ำ เขามักจะถูกสื่อนำชีวิตมาเล่าแบบล้อเลียนผ่านภาพยนตร์, การ์ตูน และโลกโซเชี่ยลต่างด้วยมุกตลกสกปรก ดังนั้นด้วยสถานการณ์แบบนี้เขาควรเลิกเสียดีกว่า …  

“ผมเลยจุดที่จะกลับมาเล่นแล้ว ผมไม่สามารถนั่ง เดิน หรือนอนลงโดยไม่รู้สึกปวดหลังและขา ผมถึงขั้นคิดว่าหรือนี่คือชีวิตของผมที่เหลือต่อจากนี้ และมันคงเป็นชีวิตที่ยากลำบากมาก” เขาเล่าย้อนความถึงความลำบากนี้ แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังรู้ว่าการกลับมามันยากเกินกว่าจะฝัน แข่งที่ไหนก็แพ้หมดสภาพพญาเสือ และตกเป็นมืออันดับที่ต่ำกว่า 1,000 ของโลกใครจะไปคิดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นกับคนอย่าง ไทเกอร์ วู้ดส์  แต่ที่น่าแปลกใจคือ เขายังฝืนสู้ต่อ


Photo : YouTube

ฤดูใบไม้ผลิปี 2014 ไทเกอร์ ฝึกซ้อมไดรฟ์กอล์ฟอยู่หลังบ้านตามปกติเหมือนเช่นเคย หลังจากที่เพิ่งแพ้เละเทะในรายการ คาดิลแล็ค แชมเปี้ยนชิพ ด้วยคะแนนที่แย่ที่สุดในชีวิตของเขา ไทเกอร์ ลองตีอยู่ประมาณสัก 1 ชั่วโมง เขาก็รู้สึกว่าหลังของเขาเกิดกระตุกขึ้น เหมือนกับว่าโรคเดิมจะเล่นงานเขาอีกแล้ว  การกระตุกครั้งนั้นทำให้ ไทเกอร์ ล้มลงนอนและขยับไปไหนไม่ได้ เขาเจ็บปวดแบบรุนแรง หายใจไม่ทัน เขาตายแน่ ... เพราะเขาซ้อมอยู่เงียบๆ แบบไม่บอกใคร แถมโทรศัพท์ก็อยู่ห่างเกินจะเอื้อมไปถึง ชีพจรของเขาแผ่วลงเรื่อยๆ ราวกลับว่าใกล้ถึงเวลาของการปิดตำนานพญาเสือ ... จนกระทั่งเสียงหนึ่งดังขึ้นมา

"พ่อคะ พ่อไปนอนทำอะไรอยู่ตรงนั้น" … ขอบคุณพระเจ้า แซม ลูกสาวคนโตในวัย 7 ขวบเดินมาหาเขาที่หลังบ้านพอดี และพบว่าพ่อของเธอกำลังหมดสภาพและนอนอยู่บนพื้น

"แซม ช่วยไปเอารถเข็นของพ่อมาหน่อยแล้วลูกช่วยโทรหาใครก็ได้ให้มาช่วยพ่อได้ไหม?" ไทเกอร์ อ้อนวอนลูกสาว

"พ่อเป็นอะไรอะ?" เธอยังถามไม่หยุดตามประสาเด็กน้อย

"หลัง … หลังของพ่อเจ็บสุดๆ เลย" ไทเกอร์ กัดฟันพูด  

"หลังอีกแล้วเหรอ?" ... คำถามนี้ของแซมบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่า ตั้งแต่ที่โตขึ้นมา เธอไม่เคยเห็นพ่อของเธอชูถ้วยแชมป์ด้วยตาของตัวเองเลย มีแต่คนบอกเล่าว่าพ่อของเธอเก่งแค่ไหนเมื่อในอดีต แต่สิ่งที่เธอเห็นมันทำให้เธอนึกภาพไม่ออก เพราะภาพจำของเธอคือการที่พ่อไปแข่งแล้วก็แพ้ จากนั้นก็ไปผ่าตัดจากอาการบาดเจ็บ วนไปวนมาอย่างนี้ไม่รู้จบ 

คำพูดของลูกนี้เองที่ทำให้ ไทเกอร์ อยากจะแสดงให้เห็นว่าหลังจากการผ่าตัดในปี 2016 เขาจะกลับมา และทำให้ลูกๆ รู้ว่าพ่อคนนี้เก่งแค่ไหน การย้อนกลับสู่การลงแข่งเกิดจากพลังของลูกๆ อย่างเต็มที่ เขาอยากจะทำให้ลูกๆ ภูมิใจ ดังนั้นเขาต้องเอาจริงเอาจังกับมัน   


Photo : NYtimes

ไทเกอร์ ดูแลสุขภาพตัวเองอย่างดี เข้าคอร์สต่างๆ มากมายที่ทำให้ความเยือกเย็นและมีสมาธิกลับมาสู่ตัวเขาอีกครั้งเหมือนเมื่อ 10 ปี ก่อน นอกจากนี้การซ้อมของเขาก็ถูกวางโปรแกรมมาอย่างดีจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ดังนั้นเขาพร้อมและที่จะทวงความยิ่งใหญ่กลับคืนมา โลกคิดอย่างไรไม่สน ล้อได้ล้อไป แต่ลูกๆของเขาจะต้องภูมิใจในตัวพ่อคนนี้ 

และการกลับมาเต็มรูปแบบของไทเกอร์ นั้นได้รับอิทธิพลมาจากวัยเด็กด้วยเช่นกัน เพราะ เอิร์ล ผู้เป็นพ่อสอนเขาด้วยวิธีด่ากราดและเล่นเกมจิตวิทยากับ ไทเกอร์ มาโดยตลอด ดังนั้นหากสภาพจิตใจของ ไทเกอร์ ดีขึ้นแล้วเรื่องการรับมือกับแรงกดดันเป็นสิ่งที่เขาเจอมาตั้งแต่เด็ก มันทำอะไรเขาได้ไม่มากหรอก

“ผมเห็นแต่ไม่เห็น ผมได้ยินแต่ไม่ได้ยิน” ไทเกอร์ ว่าไว้ถึงวิชาที่ เอิร์ล วู้ดส์ มอบไว้ให้กับเขา ซึ่งมันเหมาะที่สุดที่จะนำออกมาใช้ในช่วงเวลาแบบนี้

2018 ปีกรุยทาง

ในช่วงเวลาอันเป็นจุดเริ่มต้นของการกลับมา ไทเกอร์ ได้กำลังใจจากคนที่บ้านเป็นอย่างมาก กุลธิดา ผู้เป็นแม่ แซม และ ชาร์ลี ลูกๆ ทั้ง 2 คนจะเดินทางตามเขาไปด้วยในการแข่งขันที่ต่างๆ เหมือนกับในอดีตที่เอิร์ล มักจะอยู่ข้างๆ กับ ไทเกอร์ เสมอ และในวันที่ เอิร์ล จากไป เขาก็ได้อาศัยพลังจากครอบครัวอีกครั้ง และความจริงเริ่มใกล้เข้ามาทีละนิด

ในการแข่งขันสนามหนึ่งที่ สก็อตแลนด์ ไทเกอร์ กำลังตัดสินแชมป์ด้วยเบอร์ดี้ในหลุมที่ 18 แม่และลูกๆ ของเขายืนลุ้นอยู่ด้านหลัง ทว่าเขาพลาดเบอร์ดี้ในหลุมสุดท้ายและส่งให้ถ้วยแชมป์กระเด็นหลุดมือไปอย่างน่าเสียดายกับแฟนๆ ที่ลุ้นกันตัวเกร็งเพื่อให้พญาเสือกลับมาเป็นแชมป์อีกครั้ง 

ทว่าตัวของ ไทเกอร์ เองกลับเดินออกมาด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มราวกับว่าเขาไม่ได้ผิดหวังกับสิ่งเกิดขึ้น เขาเดินมายังจุดที่ครอบครัวยืนอยู่และใช้เวลาหลังจากนั้นกอดกันราวกับว่าเขาได้ค้นพบแล้วว่าสิ่งใดกันแน่ที่เยียวยาจิตใจของเขาได้ดีที่สุดในช่วงเวลาที่ต้องการกลับมา


Photo : The Independent

"พ่อพยายามสุดฝีมือแล้วนะลูก แต่แย่จังที่มันไม่เป็นใจ พ่อแพ้แล้วล่ะ" เขาขอโทษลูกๆ และลูกๆ ทั้ง 2 ก็ทำเหมือนกันกับเขานั่นคือให้กำลังใจและไม่ได้รู้สึกผิดหวัง แซม ในวัย 11 ปี และ ชาร์ลี ในวัย 9 ขวบ เห็นความพยายามของพ่อมาตลอดช่วง 3 ปีหลังสุด และพวกเขาเองก็แอบหวังว่าสักวันพ่อจะชูถ้วยแชมป์ให้พวกเขาได้เห็นบ้าง 

"เด็กๆ รู้ว่าผมทำอะไรไว้บ้างในช่วงแรกของการเป็นนักกอล์ฟ แต่สิ่งเดียวที่พวกเขาเห็นกับตาคือการที่ผมพยายามดิ้นรนอย่างหนักที่จะเอาชนะความเจ็บปวดอย่างสุดชีวิต แค่นี้ก็สุดยอดแล้วที่ได้แสดงให้ลูกๆ เห็น แค่มีแรงลงเล่นฟุตบอลกับพวกเขาในสนามหลังบ้านมันก็เป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมแล้วจริงๆ"

ต้องยอมรับว่าแม้จะเลวร้ายแบบไม่น่าให้อภัยในฐานะสามี แต่ความเป็นพ่อของ ไทเกอร์ คือสิ่งที่แม้แต่ เอลิน รู้ได้ว่าต่อให้เธอไม่อยู่ด้วยและเขาต้องเป็นคนเลี้ยงลูก เขาก็จะสามารถทำมันออกมาได้ดีแน่

"ความสัมพันธ์ระหว่างเราอาจจะเป็น 0 แต่เราต่างก็มีศูนย์กลางเป็นลูกๆ และฉันเชื่อว่าเราทำได้ดี ฉันมีความสุขมากที่เห็น ไทเกอร์ เป็นแบบนี้ ต้องยอมรับเลยว่ะว่าเขาคือยอดคุณพ่อตัวจริง"

เพราะชีวิตถูกปรุงให้กลมกล่อม 

ปี 2018 ไทเกอร์ กลับมาสร้างชื่ออีกครั้งด้วยการโชว์ฟอร์มที่ดี และกรุยทางกลับสู่รายการระดับเมเจอร์ได้อีกครั้งหลังห่างหายมาหลายปี เขาลงแข่งต่อเนื่องแบบไม่มีอาการบาดเจ็บรบกวนเลย ก่อนจบฤดูกาลด้วยตำแหน่งแชมป์ ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ ที่แอตแลนต้า และมันคือช่วงเวลาที่เขากลับมามีความสุขอย่างเต็มที่กับชีวิต ครอบครัวแฮปปี้ ผลงานในสนามก็เริ่มกลับมาเข้าที่เข้าทาง เขาแก้ไขปัญหาทีละเปราะๆ จนในที่สุดทางข้างหน้าก็เริ่มสว่างสดใสแล้ว


Photo : Sports Illustrated

หลังจากนั้น 1 ปี รายการที่มีความสำคัญที่สุดในชีวิตของเขาเดินทางกลับมาแข่งขันอีกครั้บนั่นคือรากยาร เดอะ มาสเตอร์ส เมเจอร์แรกของปี ซึ่งรายการนี้เองเป็นแชมป์ระดับเมเจอร์รายการแรกของตัว ไทเกอร์ เมื่อครั้งที่ยังเป็นวัยรุ่นอีกด้วย ดังนั้นราวกับมีการเขียนบทขึ้นมาสำหรับเขาโดยเฉพาะ 

เหนือสิ่งอื่นใดคือส่วนผสมในตัวของ ไทเกอร์ สำหรับ เดอะ มาสเตอร์ส 2019 นั้นกลมกล่อมลงตัว เขามีประสบการณ์, เขามีแรงขับจากครอบครัว และสุดท้ายคือเขาเหมือนกลับมาเป็นวัยรุ่นที่มีความกระหายแชมป์อีกครั้ง เพราะความสำเร็จครั้งนี้จะมีความหมายเป็นอย่างมาก มันจะปลดแอกทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเขา ใครที่เคยดูถูก ใครที่เคยหัวเราะเยาะ จะหายไปในกลีบเมฆอย่างแน่นอน   

การแข่งขันในวันสุดท้ายคือไฮไลต์ประจำรายการเลยทีเดียว ในขณะที่ ไทเกอร์ ยังเกาะหัวตารางและมีโอกาสคั่วแชมป์ ความกดดันก็เริ่มเล่นเขาอีกครั้ง แต่สิ่งที่เขาเคยได้จากพ่อก็ถูกนำมาปัดฝุ่นอีกครั้ง “พวกเขาคิดเหรอว่าจะสามารถเข้าถึงจิตใจผมได้” สูตรสำเร็จในการพิชิตความกดดันของ ไทเกอร์ เริ่มขึ้น เขาลงแข่งด้วยเสื้อสีแดงตัวเก่งที่สร้างตำนานมามากมาย

นี่คือภาพที่แฟนกอล์ฟคิดถึงอย่างที่สุด ไม่ว่าไทเกอร์จะตีหลุมไหนแฟนๆ ก็จะตะโกนเชียร์เขาตลอด “ไทเกอร์! ไทเกอร์ ไทเกอร์!” คือเสียงที่ดังไปรอบๆ สนามและเป็นบรรยากาศที่ พญาเสือ ไม่ได้ลิ้มรสมันมานานโขแล้ว 


Photo : The Guardian

รอบสุดท้าย วู้ดส์ ที่ควบคุมสถานการณ์ได้ดีกว่าใครๆ เก็บเพิ่มอีก 2 อันเดอร์พาร์ 70 จากการทำ 6 เบอร์ดี้และเสียไป 4 โบกี้ สกอร์รวม 4 วัน ได้ 13 อันเดอรพาร์ 275 ครองแชมป์รายการนี้ด้วยสกอร์ที่เหนือกว่า ดัสติส จอห์นสัน, แซนเดอร์ ชาฟเฟล และ บรู๊คส์ โคปก้า เพียงแค่สโตรกเดียวเท่านั้น

การพัตต์ระยะใกล้เพื่อตัดสินแชมป์จบลงอย่างง่ายดาย ไทเกอร์ แค่เคาะเบาๆ ลูกกอล์ฟก็กลิ้งลงหลุม ทว่าการดีใจของเขามันสุดเหวี่ยงยิ่งกว่าการเป็นแชมป์ครั้งไหนๆ เพราะมันคือโมเม้นต์ที่เขารอคอยมาตลอด 11 ปี

"ผมรู้จักไทเกอร์มา 17 ปี แต่ไม่เคยเห็นไทเกอร์เป็นแบบนี้มาก่อนเลยให้ตายเถอะ" บุช ฮาร์มอนด์ อดีตโค้ชของ ไทเกอร์ กล่าวหลังเห็นลูกศิษย์ของตนลิงโลดที่สุดในชีวิต "ผมพอเข้าใจได้ว่ามันเกิดจากอะไร อาการบาดเจ็บตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมาคือสาเหตุที่ทำให้เขายุ่งเหยิง แต่สิ่งที่พิเศษที่สุดอย่างครอบครัวทำให้เขาทำในสิ่งที่ผมไม่เคยเห็น เขาไม่เคยดีใจได้บ้าคลั่งขนาดนี้มาก่อน คุณดูลูกชายตัวน้อยของเขาสิ ท่าทีของเจ้าหนูชาร์ลีวิ่งเข้ามากอดเนี่ย เขาภูมิใจในตัวพ่อของเขามากแค่ไหนกันนะ ผมล่ะอยากรู้จริงๆ"

สำนักข่าว สกาย สปอร์ตส รู้งานทันที พวกเขาจับภาพ ไทเกอร์ วิ่งเข้าไปหาครอบครัวและกอดกันกลมในบรรยากาศที่อบอุ่นและประทับใจที่สุด มันคือภาพไฮไลต์ของงานนี้ เอวาน เมอร์เรย์ ผู้รายงานข่าวรีบบรรยายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นอันเป็นไฮไลต์ของการแข่งวันนั้นได้อย่างลงตัว และมันกลายเป็นคลิปที่มีคนดูเกือบ 1 ล้านคนไปแล้วในเวลานี้ 

"ไทเกอร์ พูดถึงครอบครัวของเขามาตลอดหลายปี เขาอยากจะให้ลูกเห็นตัวเองเป็นแชมป์ เขาอยากจะก้าวขึ้นรับรางวัลโดยมีลูกๆ คอยปรบมือให้" เขากล่าวเริ่ม

"นี่คือการคัมแบ็คครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์วงการกีฬาของโลกใบนี้ ความสำเร็จของเขาไม่ใช่แค่ในวันนี้เท่านั้นแต่มันกินเวลามาเป็นปีๆ ที่เขาพยายามทำให้ร่างกายพร้อมต่อศึกครั้งสำคัญ มันเป็นช่วงเวลาแห่งการฝึกฝนซ้ำแล้วซ้ำเล่า และคุยกับความคิดของตัวเองว่า "ฉันเชื่อว่าฉันทำได้ ช่วงเวลาแห่งความเจ็บปวดได้ผ่านพ้นไป วู้ดส์ ได้นำช่วงเวลาที่ดีกลับมาสู่ครอบครัวของเขาอีกครั้ง นานมาแล้วที่เขาไม่ได้ชัยชนะที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้  โคตรสุดยอด! โคตรสุดยอดจริงๆ ครับ!"

ทุกอย่างที่แบกมาเกือบ 10 ปียุติลงในทันที หลังจากชูถ้วยแชมป์ ไทเกอร์ กล่าวสั้นๆ ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้จะไม่มีทางเป็นจริงได้ หากเขายอมแพ้ และไม่มีครอบครัวอยู่เคียงข้าง รายการเดอะ มาสเตอร์ส คือแชมป์แรกที่ให้รางวัลด้วยการมีชีวิตเป็นซูเปอร์สตาร์กับเขา และมันยังเป็นรายการล่าสุดที่ให้โอกาสที่ 2 ในการใช้ชีวิตของเขาเช่นกัน

โปรกอล์ฟวัย 43 ปี กล่าวกับทุกคนหลังรับถ้วยแชมป์และใส่เสื้อแจ็คเก็ตสีเขียวตัวเก่งอันแสนคิดถึงว่า "ครั้งนั้นปี 1997 พ่อผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของผมอยู่ที่นี่ตอนผมได้แชมป์ ส่วนปีนี้ผมเป็นพ่อคนแล้ว และลูกๆ ทั้งสองของผมอยู่ที่นี่ด้วยไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของผมอย่างแท้จริง"

Photo : Twitter

ความจริงแล้วหาก ไทเกอร์ วู้ดส์ ไม่เจอเรื่องราวร้ายๆ ที่ทำให้ชีวิตดิ่งเหว แชมป์รายการเดอะ มาสเตอร์ส 2019 นี้อาจจะเป็นแค่แชมป์ๆ หนึ่งในตู้โชว์ของเขาเท่านั้น ทว่าการคว้าแชมป์ด้วยการ "คัมแบ็ค" จากฟอร์มในสนามที่ตกต่ำ และฟอร์มในชีวิตจริงที่เต็มไปด้วยปัญหา มันจึงทำให้แชมป์ครั้งนี้พิเศษกว่าคนทั่วไป และมันคือเหตุผลที่ว่าทำมันผู้คนทั่วโลกไม่เว้นแม้แต่อดีตประธานาธิบดีของอเมริกาอย่าง บารัค โอบาม่า ยังต้องร่วมยินดีกับเขา

นี่คือชัยชนะที่สำคัญของชีวิต ที่มีความหมายมากกว่าแค่แจ็คเก็ตสีเขียว,ถ้วยแชมป์และเงินรางวัล ที่สุดแล้วชัยชนะของ ไทเกอร์ วู้ดส์ ครั้งนี้สอนให้ใครก็ตามที่กำลังท้อถอยรู้ว่า "คุณคิดดีแล้วเหรอที่จะยอมแพ้กับเรื่องแค่นี้" ...

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook