ปรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก นิวคาสเซิ่ล - แมนเชสเตอร์ ซิตี้

 

 

"สาลิกาดง" ภายใต้การคุมทีมของ อลัน พาร์ดิว ก่อนจะเปิดซีซั่นใหม่ พาทีมลงเล่นเกมอุ่นเครื่องทั้งหมด 8 นัด ต้องบอกว่าผลงานใช้ได้มากเลยทีเดียว โดยชนะไปถึง 5 นัด ที่เหลือแบ่งเป็นเสมอ 1 นัด และ แพ้ 2 นัด

 

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ นิวคาสเซิ่ล จะทำผลงานดีช่วงปรีซีซั่น แต่ถึงกระนั้นแมตช์เปิดฤดูกาล 4 ครั้งหลังสุด พวกเขาชนะได้เพียงเกมเดียวเท่านั้น ที่เหลือเสมอ 1 นัด และแพ้ 2 นัด แถมวันนี้ยังต้องเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ "เรือใบสีฟ้า" อีกด้วย ดูแล้วขอเพียง 1 คะแนน น่าจะเป็นที่พอใจ

 

ส่วนสภาพความพร้อมของ นิวคาสเซิ่ล ค่อนข้างจะมีปัญหาพอสมควร เพราะจะขาด เซียม เดอ ยอง นักเตะตัวใหม่ ที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บ รวมไปถึง ชีค ติโอเต้, ดาวิเด้ ซานตอน และ ปาปิสส์ ซิสเซ่ ที่มีปัญหาเดี้ยงทั้งหมด

 

แต่ยังโชคดีที่นักเตะรายใหม่ ที่ พาร์ดิว เซ็นสัญญาเข้ามาร่วมทีม จะพร้อมลงสนามทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น ดาริล ยานมัต, เรมี่ กาเบลล่า, เอ็มมานูเอล ริวิแยร์ และ แจ็ค โคลแบ็ค ผสมกับนักเตะคนสำคัญของทีมอย่าง มุสซ่า ซิสโซโก้, ฟาบริซิโอ โกลอชชินี่

 

11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามของ นิวคาสเซิ่ล : ทิม ครูล - ดาริล ยานมัต, ฟาบริซิโอ โกลอชชินี่, ไมค์ วิลเลียมสัน, มัสซาดิโอ ไอดาร่า - แจ็ค โคลแบ็ค, ฟูร์น่อน อนิต้า, มุสซ่า ซิสโซโก้, เรมี่ กาเบลล่า - เอ็มมานูเอล ริวิแยร์, ฟาคุนโด้ แฟร์เรย์ร่า

 

 

 

 

"เรือใบสีฟ้า" ภายใต้การคุมทีมของ มานูเอล เปเยกรินี่ ซึ่งพาทีมคว้าแชมป์ลีก เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา ทำผลงานในช่วงปรีซีซั่น พอใช้ได้ โดยลงลับแข้งไป 7 นัด ชนะ 4 แพ้ 3 (แพ้การดวลจุดโทษ 2 นัด) ก่อนนัดล่าสุดจะมาพ่ายต่อ อาร์เซน่อล แบบย่อยยับ 0-3 ในศึก คอมมูนิตี้ ชิลด์

 

ดังนั้นเกมนี้ "เรือใบสีฟ้า" จำเป็นจะต้องเรียกขวัญและกำลังใจกลับมาให้ได้ เนื่องจากสถิติที่ผ่านมา เมื่อพบกับ นิวคาสเซิ่ล ต้องบอกว่า แมนฯ ซิตี้ เหนือกว่าชัดเจน เพราะ 16 นัด รวมทุกรายการ ไม่เคยพ่ายให้กับ "สาลิกาดง" เลยแม้แต่นัดเดียว

 

สภาพความพร้อมของทีม จะยังไม่มี อัลบาโร่ เนเกรโด้ อยู่เหมือนเดิม แต่ดูแล้วไม่น่าจะส่งผลอะไรมากนัก เพราะยังมีทั้ง เอดิน เชโก้ และ สเตฟาน โยเวติช ที่ทำผลงานได้ดีในช่วงปรีซีซั่น รวมถึงข่าวดีสุดๆ เมื่อ เซร์คิโอ อเกวโร่ สลัดอาการบาดเจ็บเรียบร้อย ต้องรอเช็กความฟิต แต่ดูแล้วน่าจะนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน

 

ส่วน เอเลียควิม ม็องกาล่า ก็น่าจะต้องนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน เพราะยังไม่ฟิตเต็มสูบ ขณะที่ตำแหน่งผู้รักษาประตู เชื่อว่า โจ ฮาร์ท จะได้ออกสตาร์ทลงเฝ้าเสาเป็นตัวจริง ด้านแผงมิดฟิลด์ ไม่ต้องพูดถึงแน่นเปรี๊ยะ มีทั้ง ยาย่า ตูเร่, ดาบิด ซิลบา และ ซามีร์ นาสรี่

 

11 ผู้ล่นที่คาดว่าจะลงสนามของ แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท - ปาโบล ซาบาเลต้า, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, มาติย่า นาสตาซิช, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ - แฟร์นานโด, ยาย่า ตูเร่, ดาบิด ซิลบา, ซามีร์ นาสรี่ - สเตฟาน โยเวติช, เอดิน เชโก้

 

 

• ทั้งคู่พบกันมาแล้วทั้งหมด 133 ครั้ง สถิติค่อนข้างสูสี โดย นิวคาสเซิ่ล ชนะไป 51 นัด ส่วน แมนฯ ซิตี้ ชนะ 50 นัด และเสมอกันอีก 32 นัด

• แต่หากนับแค่การเจอกันในถิ่น "เดอะ แม็กพายส์" ทั้งหมด 67 นัด เป็น "สาลิกาดง" ชนะไปถึง 39 นัด เสมอ 13 นัด และแพ้เพียง 15 นัด

• อย่างไรก็ตาม 15 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก "เรือใบสีฟ้า" ไม่เคยพ่ายแพ้ต่อ "สาลิกาดง" เลยแม้แต่นัดเดียว โดยชนะไปถึง 13 นัด และเสมอ 2 นัด

• และ 9 นัดหลังสุดที่ทั้งคู่พบกันในลีก ทั้งเกมเหย้าและเกมเยือน เป็น แมนฯ ซิตี้ ที่ชนะรวดทั้ง 9 นัด

• 3 จาก 4 ฤดูกาล หลังสุด นิวคาสเซิ่ล ไม่สามารถทำประตูได้เลยในแมตช์เปิดซีซั่นใหม่ เมื่อต้องพบกับทีมบิ๊กโฟร์

• ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ ไม่แพ้ในเกมนัดแรกของลีก มาแล้วนับตั้งแต่ซีซั่น 2009 โดยชนะ 4 นัด เสมอ 1 นัด

• โดยครั้งสุดท้ายที่ "เรือใบสีฟ้า" แพ้แมตช์ประเดิมเกมลีกซีซั่นใหม่ คือพ่ายต่อ แอสตัน วิลล่า 2-4 ฤดูกาล 2008

• 8 นัดหลังสุดของ "สาลิกาดง" ในลีก ถือว่าย่ำแย่ หลังชนะได้แค่ 1 นัด และแพ้ 7 นัด