จุดกำเนิด เดมพ์ซีย์ โรลล์ ท่าไม้ตายของ ‘อิปโป’ ที่ อาลี และ ไทสัน ยังต้องซูฮก

จุดกำเนิด เดมพ์ซีย์ โรลล์ ท่าไม้ตายของ ‘อิปโป’ ที่ อาลี และ ไทสัน ยังต้องซูฮก

จุดกำเนิด เดมพ์ซีย์ โรลล์ ท่าไม้ตายของ ‘อิปโป’ ที่ อาลี และ ไทสัน ยังต้องซูฮก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การ์ตูนญี่ปุ่น หรือ มังงะ คือศิลปะที่เล่าเรื่องราวผ่านลายเส้น ว่ากันว่าวงการกีฬาญี่ปุ่นนั้นได้อิทธิพลจนเก่งกาจเป็นเบอร์ 1 ของเอเชียในหลายๆสาขาได้ก็เพราะ มังงะ นี่เอง 

และวันนี้เรากำลังจะพูดถึงเรื่อง Hajime no Ippo หรือ ก้าวแรกสู่สังเวียน มังงะที่เริ่มวาดตั้งแต่ปี 1989 และจนถึงตอนนี้เนื้อเรื่องยังคงดำเนินต่อไปแม้เวลาจะผ่านมานานกว่า 30 ปี แล้วก็ตาม และเมื่อพูดถึง มาคุโนะอุจิ อิปโป เด็กหนุ่มลูกชาวประมงที่ฝันอยากจะเป็นนักมวยพระเอกของเรื่องขึ้นมาแล้วล่ะก็คงไม่พ้นท่าไม้ตายระดับตำนานอย่าง "เด็มพ์ซี่ย์ โรลล์" ที่ส่งเขาคว้าชัยในศึกแล้วศึกเล่า 

เหล่านักเขียนเก่งๆนั้นจะมีจินตนาการในการสร้างคาแร็คเตอร์ของตัวละครเอกขึ้นมาเพื่อให้มันเป็นตัวแทนของคนทั้งประเทศ จากนั้นจะเป็นส่วนที่เรียกว่าการใส่เรื่องราวแบบเกินความจริง หรือที่เรียกว่า "เว่อร์" เพื่ออรรถรสและความสนุกเข้มข้นของเนื้อเรื่อง แต่สำหรับ อิปโป และ เด็มพ์ซี่ย์ โรลล์ นั้นจริงๆแล้วไม่ใช่การคิดค้นขึ้นมาเองของอาจารย์ โมริคาว่า โจจิ ผู้เขียนเรื่องนี้แต่อย่างใด เพราะ เด็มพ์ซี่ย์ โรลล์ มีจริงๆ และผู้ใช้ท่านี้เป็นคนแรกคือชายคนที่แม้แต่แชมป์โลกตลอดกาลอย่าง มูฮัมหมัด อาลี และ ไมค์ ไทสัน  ยังซูฮกว่าเหนือว่าพวกเขาอีกด้วยซ้ำไป

เดมพ์ซี่ย์ โรลล์ คืออะไร?

อย่างที่กล่าวไปข้างต้น เดมพ์ซี่ย์ โรลล์ คือท่าไม้ตายของนักมวยคนหนึ่งที่มีตัวตนจริงๆอยู่บนโลกนี้ เขาคือ แจ็ค เดมพ์ซี่ย์ อดีตยอดนักชกในช่วงทศวรรษ 1920s หรือว่าง่ายๆก็คือ 100 ปีที่แล้ว  


photo : Famous People

แม้เรื่องจะผ่านมานานหลายปีแล้ว แต่ แจ็ค เดมพ์ซี่ย์ ถูกพูดถึงในฐานะยอดมวยรุ่นเฮฟวี่เวทที่แกร่งและเก่งที่สุด การชกของ เดมพ์ซี่ย์ นั้นถือว่าเร้าใจเป็นมวยแม่เหล็กอย่างแท้จริง ในปี 1919 เคยมีแฟนกำปั้นเข้ามาชมไฟต์ระหว่างเขากับ เจสส์ วิลลาร์ด เป็นจำนวนถึง 1 แสนคน และในค่ำคืนนั้นเอง 1 ในท่าไม้ตายที่ร้ายกาจที่สุดแห่งยุคก็ได้ถือกำเนิดขึ้น แน่นอนมันคือ "เดมพ์ซี่ย์ โรลล์" 

"ใครคือนักมวยที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์เหรอ? ไม่ใช่ผมหรอก คนนั้นคือ แจ็ค เดมพ์ซี่ย์ ไง" มูฮัมหมัด อาลี ว่าเอาไว้เช่นนั้น "ใครจะไปคิดว่าตอนที่ผมได้รางวัลนวมทองคำตอนวัยรุ่น แจ็ค เดมพ์ซี่ย์ จะมาหาผมถึงข้างเตียงเลย"

เดมพ์ซี่ย์ โรลล์ นั้นมีความหมายแบบเป็นภาษาไทยว่าการโยกตัวไปม้าซ้ายขวาแบบม้วนไปม้วนมาจนเป็นลักษณะการเขียนเลข 8 และทุกครั้งที่เขาโยกหรือม้วนตัวจะมีการปล่อยหมัดออกมาปะทะกับหน้าของคู่ต่อสู้ เรียกได้ว่าเป็นการระดมหมัดไปพร้อมๆกับการหลบโดยไม่ต้องใช้ฟุตเวิร์ค (สเต็ปเท้า) นั่นเอง 

หลักการทำงานของท่า เดมพ์ซี่ย์ โรลล์ ในเชิงกลยุทธ์นั้นมันใช้งานได้ 2 แบบในเวลาเดียวกัน 1 คือใช้หลบเพื่อป้องกันตัวเอง ขณะที่อีก 1 อย่างที่จะได้จาก เดมพ์ซี่ย์ โรล คือมันจะถูกใช้เป็นเทคนิคเพื่อ set-up การจู่โจมในเวลาเดียวกัน เพราะผู้ใช้จะใช้การโยกร่างกายท่อนบนเพื่อหลบในระยะประชิด พร้อมกับเข้าทางมุมอับของสายตาของคู่ต่อสู้


photo : Newsday

ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไม แจ็ค เดมพ์ซี่ย์ จึงคิดค้นท่านี้ขึ้นมานั้นเกิดขึ้นจากเขาเป็นมวยที่เสียเปรียบรูปร่าง เขาตัวเตี้ยกว่าคู่แข่งอย่าง วิลลาร์ด ถึง 14 เซนติเมตร (เดมพ์ซี่ย์ 185 ซม. - วิลลาร์ด 199 ซม.) นอกจากนี้ช่วงชกยังสั้นกว่าด้วย ดังนั้น เดมพ์ซี่ย์ โรลล์ จึงเป็นเหมือนท่าที่ใช้หลบหมัดคู่ต่อสู้ที่ช่วงยาวกว่า เท่านั้นยังไม่พอมันยังสามารถอธิบายได้ทางฟิสิกส์อีกว่าการโยกตัวของ เดมพ์ซี่ย์ แต่ละครั้งนั้นทำให้เขามีแรงเหวี่ยงของหมัดมากขึ้นอีกด้วย นั่นคือเหตุผลที่ เดมพ์ซี่ย์ โรลล์ คือท่าไม้ตายที่เหมาะกับมวยที่รูปร่างเป็นรองอย่างแท้จริง และสุดท้ายด้วย เดมพ์ซี่ย์ โรลล์ นี้เองทำให้ แจ็ค เดมพ์ซี่ย์ สามารถคว่ำ วิลลาร์ด ได้และกลายเป็นแชมป์โลกในเวลานั้น และป้องกันแชมป์ได้อีก 5 ครั้งในเวลาต่อมา 

เราอยากให้คุณย้อนกลับไปเมื่อยุคเกือบๆ 100 ปีก่อน นึกภาพว่าหลายสิ่งหลายอย่างในวงการกีฬายังไม่พัฒนาและข้ามขีดจำกัดได้ขนาดนี้ ไม่ว่าจะด้วยเรื่องวิทยาศาสตร์การกีฬา, การฝึกซ้อมที่ถูกวิธี รวมถึงการวางแผนในแต่ละไฟต์ที่ยังมีกรณีศึกษาไม่เท่าปัจจุบัน ดังนั้นเอง เดมพ์ซี่ย์ โรลล์ ของ แจ็ค เดมพ์ซี่ย์ จึงเป็นเหมือนท่าไม้ตายที่พาวงการมวยสากลก้าวเข้าสู่ยุคใหม่อย่างแท้จริง มันทำให้นักมวยชกกันด้วยความเร็วที่มากขึ้น และเพิ่มเทคนิคมาเพื่อหักล้างท่าไม้ตายของแต่ละคน 


Photo : YouTube

ไม่ใช่แค่ท่าไม้ตายเดมพ์ซี่ย์ โรลล์ เท่านั้นที่เป็นตัวแทนของการนำวงการมวยเข้าสู่ยุคใหม่ เพราะตัวของ แจ็ค เดมพ์ซี่ย์ ก็ทำให้โลกนี้ได้รู้จักมวยแม่เหล็กที่ดึงดูดคนดูแบบที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน การชกระหว่าง เดมพ์ซี่ย์ และ จอร์จ ฌาปองติเยร์ นักมวยชาวฝรั่งเศส ในปี ค.ศ. 1921 สามารถเก็บเงินค่าตั๋วได้ถึง 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เพราะว่ามีการจัดการที่เป็นรูปแบบจาก จอร์จ ลูอิส ริคคาร์ด โปรโมเตอร์ชื่อดัง นอกจากนี้ศึกระหว่าง แจ็ค เดมพ์ซี่ย์ กับ จอร์จ ฌาปองติเยร์ ยังเป็นที่มาของสมาคมมวยแห่งสหรัฐอเมริกา เพื่อเข้ามาจัดการผลประโยชน์ที่มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา ก่อนที่ สมาคมมวยแห่งสหรัฐอเมริกา (NBA) จะกลายเป็น สมาคมมวยโลก (WBA) องค์กรจัดการแข่งขันมวยอาชีพที่เก่าแก่ที่สุดของโลกอย่างในปัจจุบัน

ทำไม อิปโป ต้องใช้ เดมพ์ซี่ย์ โรลล์?

อิปโป และ เดมพ์ซี่ย์ ต่างก็เป็นมวยที่เสียเปรียบด้านรูปร่าง ดังนั้นจะมีอะไรเหมาะไปกว่า เดมพ์ซี่ย์ โรลล์ ท่าไม้ตายสำหรับคนตัวเล็กที่สามารถใช้หลบและเพิ่มแรงหมัดได้ในเวลาเดียวกันเช่นนี้ 

นอกจากนี้หากลองเปิดปูมหลังของทั้ง อิปโป และ แจ็ค เดมพ์ซี่ย์ ดูแล้วทั้งคู่ค่อนข้างจะมีความคล้ายกันมากในวัยเด็ก อิปโป นั้นคือเด็กหนุ่มลูกชาวประมง ขณะที่ เดมพ์ซี่ย์ นั้นเป็นลูกชาวสวนที่ต้องทำงานแบกหามตั้งแต่อายุ 8 ขวบ และทั้งคู่มีฝันที่เหมือนกันนั่นคือการก้าวขึ้นมาเป็นแชมป์โลก 

จริงอยู่ที่ในการ์ตูนมีการยืนยันว่าไอดอลของ อิปโป ที่ทำให้เขาอยากจะเป็นนักมวยคือการได้ดูวีดีโอการชกของ ไมค์ ไทสัน และเกิดสงสัยว่าหากตัวของเขาสามารถเป็นคนที่แข็งแกร่งได้อย่างนั้น ความรู้สึกของเขาจะเป็นอย่างไร จากนั้นเขาจึงเริ่มจากความสงสัยและข้องใจนั้นนำไปสู่ฝันในจุดสูงสุดของวงการมวย ดังนั้นการจะบอกว่า แจ็ค เดมพ์ซี่ย์ คือต้นแบบของ อิปโป้ ก็คงจะเกินจริงไปนิด อย่างไรก็ตามเรายังพอหาสาเหตุของความเหมือนกันของทั้งคู่ได้บ้าง เพราะหลังจากหมดยุค แจ็ค เดมพ์ซี่ย์ แล้ว คนที่ใช้ท่าไม้ตาย เดมพ์ซี่ย์ โรลล์ ได้หนักหน่วงและอันตรายที่สุดในโลกคือ "ไมค์ ไทสัน" นั่นเอง 


photo : Urban Oyster

สำหรับ ไอรอน ไมค์ นั้นเรียกได้ว่าใช้ท่า เดมพ์ซี่ย์ โรลล์ ได้หนักหน่วงและรวดเร็วกว่าต้นตำรับอย่างอย่าง แจ็ค เดมพ์ซี่ย์ เสียอีก ส่วนนี้อาจจะเป็นเพราะยุคสมัยที่เปลี่ยนไปวงการมวยพัฒนามากขึ้นและอาจจะรวมถึงพรสวรรค์ทั้งสภาพจิตใจและร่างกายของ ไทสัน เองด้วย

ไทสัน ทุ่มเทในการซ้อมสำหรับการฝึกท่า "เดมพ์ซี่ย์ โรลล์" โดยเรียนรู้จากเทปการชกของ แจ็ค เดมพ์ซี่ย์ โดยตรง ดังนั้น เดมพ์ซี่ย์ จึงเป็นเหมือนไอดอลผู้กำหนดปรัชญาในการชกของ ไอร่อน ไมค์ อย่างแท้จริง ในยุคที่ ไทสัน กำลังโด่งดังนั้น เดมพ์ซี่ย์ โรลล์ ถูกเรียกอีกชื่อว่า "Peek-a-Boo Boxing Style" (การชกแบบเล่นซ่อนแอบ) 

"ผมเคยดูเทปของแชมป์โลกทุกคน พวกเขาดูร้ายกาจกันหมดไม่ว่าจะเป็น เจค, ลาม็อตต้า, เฮนรี่ อาร์มสตรอง, คาร์เมน บาซิโญ่, ชูการ์ เรย์ เลียวนาร์ด ยกเว้นคนเดียวที่ไม่เหมือนใคร คนนั้นคือ แจ็ค เดมพ์ซี่ย์" ไทสัน พูดถึงไอดอลของเขา

"คนที่พูดชื่อไปก่อนหน้าหากพวกเขาขึ้นชกกับคุณเขาจะแสดงออกเลยว่าเขาจะฆ่าคุณแน่ แต่ เดมพ์ซี่ย์ นั้นไม่ต้องการให้คุณตายด้วยหมัดของเขา เขาจะระดมหมัดใส่คุณให้คุณทรมาน เขาจะทุบตา, ต่อยแก้ม, ทำลายคางของคุณไปเรื่อยๆ นั่นคือสิ่งที่ผมเรียนรู้จากเขา"
 
"ผมเป็นนักชกที่ดีที่สุดตลอดกาล ผมโหดร้ายและโหดเหี้ยม ไม่มีใครหยุดผมได้ ผมมีชื่อว่า แจ็ค เดมพ์ซี่ย์ ไม่มีใครเหมือน และไม่มีใครจับตัวผมทัน" ไทสัน กล่าวทิ้งท้าย


photo : Hajime no Ippo Wiki - Fandom

หากจะบอกว่าต้นแบบของ อิปโป คือ ไมค์ ไทสัน ก็คงจะไม่ผิดนักที่จะบอกว่า แจ็ค เดมพ์ซี่ย์ คือจุดกำเนิดไอดอลของ อิปโป้... จะเห็นได้ว่าทั้ง อิปโป, ไทสัน และ เดมพ์ซี่ย์ ต่างก็สามารถเชื่อมโยงกันและกันด้วยท่าไม้ตายท่านี้อย่างแท้จริง 

การ์ตูนก็คือการ์ตูน

แม้จะชื่อท่าเดียวกันแต่ เดมพ์ซี่ย์ โรลล์ ของ อิปโป และ เดมพ์ซี่ย์ โรลล์ ต้นตำรับของแจ็คนั้นยังมีความต่างกันให้เห็นมากพอสมควร เพราะของฝั่ง อิปโป นั้นด้วยความเป็นการ์ตูนมันจึงดูเป็นท่าที่รุนแรงจนหาใครมาต้านยาก

อิปโป นั้นใช้ เดมพ์ซี่ย์ โรลล์ เป็นครั้งแรกในไฟต์ที่พบกับ พรชัย ชูวัฒนา ศึกดังกล่าวมีชื่อว่า “The Road Back” ในไฟต์นั้นนักมวยไทยคือผู้สังเวยเปิดซิงให้กับท่าไม้ตายนี้ อิปโป ต่อยไม่ยั้งชนิดที่ว่า พรชัย ไม่สามารถปัดป้องได้ ก่อนที่เขาจะร่วงลงไปในยกที่ 2 เพราะโดนหมัดชุดแบบซ้ำแล้วซ้ำเล่า ขณะที่ เดมพ์ซี่ย์ โรลล์ ของ แจ็ค เดมพ์ซี่ย์ นั้นดูจะช้ากว่าและไม่สามารถระดมหมัดชุดได้มากเท่ากับ อิปโป ด้วยเหตุผลง่ายๆเพราะ การ์ตูน นั้นสามารถเสริมเติมแต่งไปได้แบบไม่มีที่สุดขึ้นอยู่กับจินตนาการของผู้เขียน ซึ่งในโลกความจริงนั้นมันยากที่จะเป็นไปได้ 

อย่างไรก็ตามในความเว่อร์นั้นมันคือจุดขายและเป็นการสร้างปรากฎการณ์ทางสังคมของวงการมวยญี่ปุ่น ไม่ต่างกับที่ กัปตันสึบาสะสร้างให้กับวงการฟุตบอล เพราะผู้อ่านจะได้จินตนาการตาม, จดจำมันได้และที่สำคัญที่สุดคือมันทำให้คนอ่านกล้าจินตนาการและพยายามเพื่อไปให้ถึงหรือเข้าใกล้ในความเว่อร์ที่เป็นไปไม่ได้นั้นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ 

แม้ว่า แจ็ค เดมพ์ซี่ย์ จะปล่อยหมัดได้ไม่มากและเร็วเท่า อิปโป แต่การที่ท่าไม้ตาย "เดมพ์ซี่ย์ โรลล์" ถูกนำมาใช้เป็นส่วนสำคัญในการเดินเรื่องก้าวแรกสู่สังเวียนก็แสดงให้เห็นว่าอิทธิพลของ แจ็ค เดมพ์ซี่ย์ นั้นยิ่งใหญ่ขนาดไหน เพราะมันสามารถส่งไม้ผลัดต่อให้นักมวยรุ่นหลังๆมาจนถึงปัจจุบัน และไม่เว้นแม้แต่กับการ์ตูนที่อยู่คนละฟากโลกก็ตาม เรียกได้ว่ามรดกวงการมวยที่ชื่อว่า "เดมพ์ซี่ย์ โรลล์" จะสามารถอยู่ยั้งยืนยงมาได้เป็นเวลาเกือบ 100 ปีแล้ว และมันจะดำเนินต่อไปจนกว่ามังงะเรื่องก้าวแรกสู่สังเวียนถึงตอนอวสาน 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook