ราดาเมล ฟัลเกา มาแล้ว! ผีเลิกเล่น3-5-2 จัดหนักสูตร4-3-3
ราดาเมล ฟัลเกา
"เดลี่เมล์" ฟันธงแบบไม่กลัวหน้าแตก การย้ายมาสู่ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ ราดาเมล ฟัลเกา ทำให้ทีมปรับมาใช้ระบบ 4-3-3 อย่างแน่นอน
หลังจากที่ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บรรลุข้อตกลงคว้าตัว ราดาเมล ฟัลเกา มาร่วมชายคาด้วยสัญญายืมตัว 1 ปี เมื่อเช้าตูรู่ที่ผ่านมา ตามเวลาประเทศไทย
"เดลี่เมล์" สื่อยักษ์ใหญ่เมืองผู้ดีรายนี้ ไม่รีรอที่จะกางระบบการเล่นแบบใหม่ ที่มั่นใจสุดๆว่า หลุยส์ ฟาน กัล นายใหญ่ของทีมจะเลือกใช้บริการ เมื่อมียอดกองหน้าระดับโลกอยู่ในทีมถึง 3 คน
โดยแสดงความมั่นใจว่า กุนซือวัย 62 ปี จะเลิกใช้ "ระบบ 3-5-2" ที่ใช้มาตลอด 4 นัดที่ผ่านมา (เกมลีก3เกม, เกมลีกคัพ 1 เกม) แล้วกลับมายึดระบบการเล่นแบบ "4-3-3"
ผู้รักษาประตูเป็น ดาบิด เดเคอา กองหลัง 4 คน ประกอบไปด้วย แบ็คขวาจะใช้ ราฟาเอล ดาซิลวา , คู่ปราการหลัง 2 คนจะใช้ ฟิล โจนส์ ผนึกกำลังกับ มากอส โรโฮ กองหลังตัวใหม่ที่ย้ายมาจากสปอร์ตติ้ง ลิสบอน ส่วนแบ็คซ้ายจะเลือกใช้ ลุค ชอว์ ที่เล่นได้เด่นมากในตำแหน่งนี้เมื่อครั้งอยู่กับเซาธ์แฮมป์ตัน เมื่อซีซั่นก่อน
กองกลางตัวตัดเกม จะใช้ ดาลีย์ บลินด์ ดาวเตะทีมชาติฮอลแลนด์ที่เล่นได้ทั้งแบ็คซ้าย และมิดฟิลด์ตัวกลาง ส่วนในด้านกราบซ้ายและขวา จะให้ อันเดร์ เอร์เรร่า และ อังเคล ดิ มาเรีย ประสานงานร่วมกัน
ในแนวรุกจะให้ เวนย์ รูนี่ย์ ยืนเป็นหน้าต่ำ แล้วให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ คอยล่าตาข่ายร่วมกับ ราดาเมล ฟัลเกา กองหน้ารายใหม่
ส่วน ฆวน มาต้า จะหลุดไปเป็นตัวสำรอง หลังจากหลายนัดที่ผ่านมาเขาสร้างสรรค์โอกาสในการจ่ายบอลให้เพื่อนลุ้นประตูน้อยมาก แม้ว่าเจ้าตัวจะทำได้ 1 ประตูในเกม เสมอกับ ซันเดอร์แลนด์ ก็ตามที
ส่วน คริส สอลลิ่ง(เจ็บ) ,ไมเคิ่ล คาร์ริค(เจ็บ), ดาเรน เฟร็ดเชอร์, อันโตนิโอ วาเลนเซีย และ แอชลีย์ ยัง จะยังอยู่ในแผนการทำทีมต่อไป แต่ต้องรอโอกาสอยู่ข้างสนามไปก่อน
- ประวัติของ ราดาเมล ฟัลเกา -
ราดาเมล ฟัลเกา คือชื่อที่ถูกพ่อตั้งตาม เปาโล โรแบร์โต้ ฟัลเกา อดีตตำนานนักเตะชื่อดังของ โรม่า และ อินเตอร์ มิลาน
โดย ฟัลเกา คือนักฟุตบอลรุ่นที่สองของตระกูล โดยพ่อของเขาคือ ราดาเมล การ์เซีย เล่นในตำแหน่งกองหลัง ของลีกประเทศโคลอมเบียในยุค 80
พ่อของเขา มีลีลาการเล่นดุดัน แข็งแกร่ง และตั้งความหวังอยากให้ลูกชายเอาอย่างให้ได้ โดยเจ้าหนู ฟัลเกา ถูกส่งไปเล่นให้ทีมท้องถิ่นชื่อ ลันเซรอส บาโยก้า ตั้งแต่อายุ 13 ปี
ริเวอร์เพลท ยักษ์ใหญ่ในอาร์เจนติน่า คือสโมสรที่ซื้อไปร่วมทีมในปี 2001 ตั้งแต่อายุแค่ 15 ปี ก่อนที่4ปีถัดมา เขาก็ได้ประเดิมสนามในฐานะนักเตะอาชีพ ก่อนยึดตำแหน่งตัวจริงมาครองได้สำเร็จ หลังซัดประตูเปิดซิงในนัดเจอ อินดิเพนเดียนเต้ พร้อมกับเขาช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศในปี 2008 ก่อนย้ายมาค้าแข้งในลีกดินแดนยุโรปกับ เอฟซี ปอร์โต้ ยักษ์ใหญ่ของโปรตุเกสในปีต่อมา
การย้ายมาร่วมทีมปอร์โต้ ในปี 2009 แล้ว ทำให้ชื่อของ "ฟัลเกา" ดังระเบิด โดยเขาล่าตาข่ายได้เป็นว่าเล่น และ ในซีซั่นที่สอง ดาวยิงโคลอมเบีย ก็ช่วยพาทีมคว้าแชมป์ ยูโรปา ลีก โดยซัดไปเน้น7ลูกในบอลยุโรปปีนั้น
จากนั้น เขาได้ย้ายไปร่วมทีม แอต. มาดริด ทีมดังจากกรุงมาดริด เมื่อปี 2011 และจากความปราดเปรียว หื่นกระหายเหมือนเสือหิวที่พร้อมขย้ำเหยื่อหน้าปากประตู ทำให้เขาได้รับฉายาว่า "เอล ติเกร"
แต่หลังจากที่เขาค้าแข้งกับทีมตราหมีได้ 2 ปี เขาก็โยกไปร่วมทีมเงินถุงเงินถังอย่าง โมนาโก พร้อมกับเสียงลือลั่นว่า การย้ายครั้งนั้น ทำให้ ฟัลเกา ฟันเงินเหนาะๆ ปีละ 18.2 ล้านยูโรเลยทีเดียว ขณะที่เจ้าตัวยืนยันว่า เหตุผลในการย้ายคือต้องการตามรอยเท้าฮีโร่อย่าง เธียร์รี่ อองรี ก็เท่านั้น!
แต่มาปัจุบัน "เอล ติเกร" ได้ย้ายมาร่วมชายคา "ปีศาจแดง" ด้วยสัญญายืมตัว 1 ปี พร้อมกับออฟชั่นซื้อขาด หลังจากจบซีซั่นนี้
จากนี้ไปคงต้องมาตามลุ้นฟอร์มของ "ราดาเมล ฟัลเกา" ว่าจะไปได้สวยมากน้อยเพียงใด กับทีมของใหม่ของเขา "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด"
สถิติการยิงประตู
<< สรุปการย้ายทีมในวันสุดท้ายได้ที่นี่ คลิกเลย! >>
อัลบั้มภาพ 6 ภาพ