10 อันดับการซื้อขายแพงสุดในตลาดรอบแรก

10 อันดับการซื้อขายแพงสุดในตลาดรอบแรก

10 อันดับการซื้อขายแพงสุดในตลาดรอบแรก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ก็ได้ปิดฉากไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับตลาดการซื้อขายนักเตะรอบแรก ที่ทำเซอร์ไพรส์และเกิดสถิติมากมาย จนใครหลายคนคาดไม่ถึง "บ้างก็คิดว่าดีแล้วที่ไป".."บ้างก็คิดว่าเอามาทำไม"

ส่วนใครจะสมหวังหรือผิดหวังนั้น วันนี้เราได้คัด 10 ดีลแพงสุดในตลาดหน้าร้อนที่ผ่านมา..ไปชมกันเลย

อันดับ 10
โรเมลู ลูกากู ย้ายจาก เชลซี มา เอฟเวอร์ตัน ค่าตัว 28 ล้านปอนด์
หัวหอกจอมพลังชาวเบลเยียม วัย 21 ปี ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยสถิติการยิง 16 ประตู จากการลงเล่นรวมทุกรายการ 33 นัด ของฤดูกาลที่ผ่านมา จนกลายเป็นสมาชิกใหม่ของ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" แบบถาวร ด้วยค่าตัวสูงเป็นสถิติสโมสร 28 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,540 ล้านบาท) โดยเซ็นสัญญายาว 5 ปี  

อันดับ 9
อันเดร เอร์เรร่า ย้ายจาก แอธ. บิลเบา มา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ค่าตัว 29 ล้านปอนด์
ดาวเตะชาวสเปน วัย 25 ปี  เขาถูกแฟนๆ บิลเบา ยกให้เป็นฮีโร่เลยทีเดียว ด้วยเทคนิครอบด้าน จึงทำให้ "ปีศาจแดง" ยอมทุ่มเพื่อฉีกสัญญาคว้าตัวมา แต่จะสามารถปรับตัวให้เข้ากับรูปแบบการเล่นอันรวดเร็วสไตล์บอลอังกฤษได้หรือไม่ ต้องคอยติดตามกันอีกที

อันดับ 8
เชส ฟาเบรกาส ย้ายจาก บาร์เซโลน่า มา เชลซี ค่าตัว 30 ล้านปอนด์
ห้องเครื่องชาวสเปน มีข่าวเตรียมถูกปล่อยออกจากถิ่นคัมป์ นู โดยมี แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เชลซี ที่ให้ความสนใจ ก่อน"สิงห์บลูส์" จะปิดจ๊อบด้วยสัญญา 5 ปี ด้วยประสบการณ์ของ  เชส ในฟุตบอล"ผู้ดี"คงไม่ยากที่จะปรับตัวคงรู้กันดีอยู่แล้ว

อันดับ7
เอเลียควิม ม็องกาล่า  ย้ายจาก ปอร์โต้ มา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ค่าตัว 32 ล้านปอนด์
ปราการหลังเลือดน้ำหอม วัย 23 ปี ชุดลุยฟุตบอลโลกที่บราซิล2014 กลายเป็นนักเตะคนที่6 ของทัพ"เรือใบสีฟ้า" โดยต่อจาก เฟอร์นันโด้ เพื่อนร่วมทีมที่ปอร์โต้ โดยมองว่าค่าตัวนั้นแพงเกินจริง แถมคว้ามาตอนที่สภาพร่างกายยังไม่ฟิตสมบูรณ์ด้วย

อันดับ 6
ดีเอโก้ คอสต้า  ย้ายจาก แอตเลติโก มาดริด มา เชลซี ค่าตัว 32 ล้านปอนด์
หัวหอกทีมชาติสเปน วัย 25 ปี ที่ระเบิดฟอร์มได้อย่างสุดยอดเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา ด้วยความแข็งแกร่งและพละกำลังในการทำประตู จนทำให้  โชเซ่ มูรินโญ่ นายใหญ่เชลซี ยอมจ่ายคว้าตัวมา

อันดับ 5
อเล็กซิส ซานเชซ ย้ายจาก บาร์เซโลน่า มา อาร์เซน่อล ค่าตัว 35  ล้านปอนด์
ปีกร่างตันชาวชิลี วัย 25 ปี  ด้วยผลงานที่ผ่านมาเขาลงสนามไปทั้งหมด141นัด ทำได้47ประตู และใน ฟุตบอลโลก 2014 ช่วยพาทีมชาติชิลีผ่านเข้าถึงรอบ16ทีมสุดท้าย โดยมาอยู่กับทัพปืนใหญ่แบบคาดไม่ถึง และถือว่าเป็นของดีราคาถูกเลยทีเดียว

อันดับ 4
ดาวิด ลุยซ์ ย้ายจาก เชลซี มา ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ค่าตัว 40 ล้านปอนด์
หลังจาก "เปแอสเช"  ยืนยันล้มเลิกคว้าตัว อังเคล ดิ มาเรีย เนื่องจากค่าตัวแพงเกิน ก่อนเปลี่ยนใจเสริมแนวรับด้วยการสอยปราการหัวฟูชาวบราซิล วัย 27 ปี ที่ผ่านมาเว็บไซต์ฟีฟ่า ประกาศให้ "ลุยซ์" ได้อันดับ 1 จากการจัดเรตติ้งนักฟุตบอลในศึกบอลโลก ด้วยการวิเคราะห์จากความสามารถของนักเตะ พร้อมกันนี้ทำให้แข้งชาวบราซิลรายนี้ขึ้นแท่นเป็นกองหลังค่าตัวแพงที่สุดในโลก.

อันดับ 3
อังเคล ดิ มาเรีย ย้ายจาก เรอัล มาดริด มา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ค่าตัว 59.7 ล้านปอนด์
"ปีกเทวดา"ทีมชาติอาร์เจนตินา วัย 26 ปี  ไม่อยู่ในแผนการทำทีมของ คาร์โล อันเช่ลอตติ กุนซือ "ราชันชุดขาว" โดยปริยาย เนื่องจากการเสริมนักเตะเข้ามาในทีมหลายคน จนต้องถูกปักป้ายขายมีหลายทีมให้ความสนใจ ก่อนที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะคว้าตัวไปด้วยสัญญา 5 ปีและได้รับเสื้อหมายเลข7 หมายเลขในตำนานอีกด้วย ดิ มาเรีย กลายเป็นผู้เล่นค่าตัวสูงที่สุดในเกาะอังกฤษ ด้วยการทำลายสถิติเดิมของ เฟร์นานโด ตอร์เรส กองหน้าของ เชลซี ที่ย้ายมาจาก ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 50 ล้านปอนด์ (2,750 ล้านบาท) เมื่อปี 2011

อันดับ 2
ฮาเมส โรดริเกวซ ย้ายจาก โมนาโก มา เรอัล มาดริด ค่าตัว  71 ล้านปอนด์
กองกลางทีมชาติโคลอมเบีย วัย 23 ปี กลายเป็นนักเตะเนื้อหอมทันทีหลังโชว์ฝีเท้าได้อย่างสุดยอดในศึกฟุตบอลโลกที่บราซิลคว้ารางวัลดาวซัลโวสูงสุดไปครอง จนถูกทีมมหาเศรษฐีแดนกระทิงอย่าง เรอัล มาดริด ดึงไปร่วมทัพ แต่ไม่รู้จะมีโอกาสได้ลงมากน้อยแค่ไหน เนื่องแนวรุกมีค่อนข้างเยอะ

อันดับ 1
หลุยส์ ซัวเรซ ย้ายจาก ลิเวอร์พูล มา บาร์เซโลน่า ค่าตัว 75 ล้านปอนด์
หัวหอกเบอร์1 ทีมชาติอุรุกวัย วัย 27 ปี ถูกยกให้เป็นนักเตะที่มีค่าตัวสูงสุดประจำฤดูกาล 2014-15 แม้จะมีวีรกรรมที่ไม่ดีหนัก แต่ความคมในการทำประตู คงไม่มีใครปฏิเสธเขาได้ รวมทั้งบาร์ซ่าหวังดึงตัวมาล่าตาข่าย เพื่อกลับมาคว้าแชมป์ในทุกรายการ ก็คงต้องรอดูว่า เมื่อกองหน้าแต่คงต้องคอยดูว่า เมื่อพ้นโทษกลับมาช่วยทีมในช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้ เขาจะเป็นตัวความหวังของทีมได้หรือไม่?

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook