ได้ประโยชน์แน่นอน..?
ยังคงมีประเด็นข่าวให้เห็นกันต่อเนื่องกับความเป็นไปได้ที่ลิเวอร์พูลจะดึงตัว บิคตอร์ บัลเดส อดีตคนเฝ้าเสาของบาร์เซโลน่ามาร่วมทีม
ด้วยสถานภาพของ บัลเดส ที่ไม่มีสังกัดหรือที่คุ้นกับคำว่าฟรีเอเยนต์ ย้ายไปทีมไหนก็ได้ช่วงเวลาไหนก็ได้มีข้อยกเว้นไว้ให้แม้ว่าตลาดซื้อขายจะปิดตัวไปแล้วก็ตาม
บัลเดส หมดสัญญากับบาร์ซ่าหลังจากจบฤดูกาลที่แล้ว และมีการเซ็นสัญญาล่วงหน้ากับโมนาโกตั้งแต่ช่วงปีใหม่ ความท้าทายที่ต้องการพังลงไปหลังจากบาดเจ็บเข่าจนต้องเข้ารับการผ่าตัดและพักยาวมาจนถึงทุกวันนี้
โมนาโกยกเลิกสัญญา ในขณะที่บาร์ซ่าก็ยังเปิดช่องให้อยู่ต่อ ทว่า บัลเดส ตัดสินใจเดินหน้าต่อไปรอความท้าทายอื่นโดยไม่มีเรื่องราวของเวลาในตลาดซื้อขายเข้ามาขัดขวาง จะมีก็เพียงสภาพร่างกาย สภาพความฟิตของตัวเองเท่านั้น
ท่าประจำตัวที่แฟนบอลคุ้นตา
ย้อนกลับมาที่ลิเวอร์พูล วันสุดท้ายของตลาดซื้อขายมีการประเมินสภานการณ์กันว่า เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ควรจะหาผู้รักษาประตูเข้ามาเพิ่ม เอาประเภทที่สามารถกดดัน ซิมง มิโญเลต์ ได้ ไม่ใช่หาแค่ตัวสำรองแตะระยะห่างของฝีมือยังมีให้เห็นเฉกเช่นมี แบร็ด โจนส์ เป็นมือ 2 อยู่ตอนนี้
อาร์เซนอลมี เชสนี่ กับ ออสปิน่า เชลซีมี 2 สุดยอดอย่าง ปีเตอร์ เช็ก กับ กูร์กตัวส์ ในขณะที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้มี โจ ฮาร์ท และ วิลลี่ กาบาเยโร่ แต่ละทีมถือว่ามือ 1 และ 2 สามารถกดดันแก่งแย่งตัวจริงกับแบบสูสี
ลิเวอร์พูลไม่ได้เป็นแบบนั้น แม้ว่า ร็อดเจอร์ส พยายามแก้ปัญหาเกมรับของทีมมาตลอด แต่การเสริมผู้รักษาประตูเพื่อกดดันหรือแย่งมือ 1 กับ มิโญเลต์ กลับไม่มีให้เห็น
ก่อนหน้านี้ถ้า เปเป้ เรน่า ตัดสินใจอยู่ต่อก็สามารถใกล้เคียงกับคำว่ากดดัน มิโญเลต์ มากกว่า แบร็ด โจนส์ ทำไม เรน่า เลือกไปนั่งสำรองของ นอยเออร์ แทนที่จะสู้กับ มิโญเลต์
เหตุผลก็คือความสัมพันธ์ของนักเตะกับกุนซือมันหมดลงไปตั้งแต่นาทีที่ ร็อดเจอร์ส ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงมือหนึ่งของทีมโดยไปดึงตัว มิโญเลต์ เข้ามา นั่นเท่ากับว่าหมดความไว้ใจกันไปเรียบร้อยแล้ว ความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมันจึงถูกตัดขาดตั้งแต่นาทีนั้น
เปเป้ เรน่า จรลีไปอยู่กับ เสือใต้ ดีกว่าอยู่ต่อแบบอึดอัดใจ
ความคาดเดาของสื่อกับกรณีที่ ร็อดเจอร์ส ทำตัวเงียบๆไม่ยอมขยับในช่วงโอกาสสุดท้ายก่อนเดดไลน์ อาจเป็นไปได้ที่ตั้งเป้าไปที่ บัลเดส เอาไว้แล้ว แค่รอให้ฟิตร่างกายกลับมาเท่านั้น ดีไม่ดีแอบคุยกันแล้วก็ได้
หงส์แดงจะได้ประโยชน์จาก บัลเดส หรือเปล่า ว่ากันเป็นประเด็นไป ในเรื่องของการปรับตัวกับเกมพรีเมียร์ ลีก ต้องรอของจริง เรารู้กันอยู่แล้วว่า พรีเมียร์ ลีก ฆ่าคนที่มีชื่อชั้นดีๆมานักต่อนัก ประเด็นนี้เป็นเรื่องอนาคตยกยอดไปก่อน
ในเรื่องของอาการบาดเจ็บหัวเข่า เป็นเรื่องใหญ่ไปจัดการกันเองระหว่างการตรวจร่างกาย เรื่องที่จะได้ประโยชน์แน่ก็คือ ประสบการณ์ของ บัลเดส
การเล่นให้กับบาร์ซ่าสิบกว่าปี นั่นหมายถึงผ่านเกมระดับสุดยอดมามากมายโยเฉพาะถ้วยใหญ่ของยุโรปอย่างแชมเปี้ยนส์ ลีก
สไตล์การทำทีมของ บีร็อด น่าจะเข้ากับบัลเดสได้ดี
เรื่องราวต่อมาก็คือฝีมือไม่ได้เป็นรอง มิโญเลต์ แต่อย่างใด เพราะฉะนั้นหากมีการดึงตัวมาร่วมทีมในอนาคตอันใกล้จริงตามที่สื่อวิเคราะห์กัน ไม่ใช่แค่การดึงตัวเพื่อเข้ามาเป็นมือ 2 ของทีม
แต่เป็นการดึงเข้ามาเพื่อแย่งมือหนึ่งกันอย่างชัดเจน ภาพรวมของ มิโญเลต์ ที่ผ่านมาถือว่าใช้ได้ในระดับพอใจสำหรับ ร็อดเจอร์ส
แต่หลายครั้งเช่นกันที่คนเฝ้าเสาของหงส์แดงพลาดแบบง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นการออกมาตัดลูกโด่งหรือการปิดมุมเสาแรก
รายละเอียดเล็กๆน้อยๆของผู้รักษาประตูไม่สามารถมองข้ามกันได้ มันหมายถึงการเสียประตูให้คู่แข่งทันที แมตช์เจอกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้เมื่อสัปดาห์ก่อนโน้นเห็นกันชัดเจนว่า มิโญเลต์ พลาดอย่างแรงกับการปิดมุมเสาแรกเปิดช่องเป็นวาให้ กุน อเกวโร่ ยิงยัดเข้าไปแบบสบายๆ
ถ้าบัลเดสมา ตำแหน่งตัวจริงของมิโญเล่ต์ก็ไม่การันตี 100% อีกต่อไป
ขนาดปิดช่องมิดชิดแล้วระดับ อเกวโร่ ยังสามารถยิงเข้าไปได้ นับประสาอะไรกับการเปิดช่องซะกว้างขนาดนั้น ร็อดเจอร์ส ไม่สามารถมองข้ามรายละเอียดแบบนี้
ปรัชญาฟุตบอลหลายอย่างของ ร็อดเจอร์ส ใกล้เคียงกับหลักฟุตบอลของบาร์ซ่าที่ บัลเดส คุ้นเคย การขึ้นบอลจากแนวรับ การตั้งรับตั้งแต่แดนหน้าคือไล่บอลกันตั้งแต่กองหน้า คงช่วยให้การปรับตัวง่ายขึ้นเยอะ
แน่นอนว่าอุปสรรคใหญ่ยังคงขวางทางอยู่ นั่นคือสภาพร่างกายของ บัลเดส เอง การตรวจร่างกายคงเข้มข้นมาก และเรื่องราวตามข่าวยังคงไม่เกิดขึ้นตอนนี้ อย่างน้อยกว่า บัลเดส จะกลับมาได้เต็มสูบต้องรอถึงเดือนพฤศจิกายน
ความคืบหน้าที่แท้จริงอาจจะต้องรอไปถึงเดือนหน้า ทว่าถ้าทุกอย่างเป็นจริงและราบรื่นถือว่า หงส์แดงได้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้แน่นอน
ดามัน