นาทีนี้ใครเจ๋งกว่ากัน? "แวร์เนอร์" ปะทะ "เลวานดอฟสกี้"
เทียบกันตัวต่อตัวสองยอดดาวยิงจากสองทีมดังแห่งบุนเดสลีกา โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวซัลโวประจำลีกสูงสุดของเยอรมนีหลายสมัย และผู้ท้าชิงที่ฟอร์มกำลังฮอต ทิโม แวร์เนอร์ หลังเกมที่บาเยิร์น มิวนิค ยกพลไปเยือน แอร์เบ ไลป์ซิก ในแมตช์เดย์ที่ 4 ที่ผ่านมา
เลวานดอฟสกี้คือศูนย์หน้าตัวเป้าที่ครบเครื่อง จบสกอร์เยี่ยม ยิงได้ทุกมุมและทุกระยะ แถมฟอร์มการเล่นยังคงเส้นคงวา ไม่ค่อยมีปัญหาเท้าบอดให้เพื่อนร่วมทีมต้องกลุ้มสักเท่าไหร่
ส่วนแวร์เนอร์เป็นศูนย์หน้าดาวรุ่งอินทรีเหล็กวัย 23 ปีที่ฟอร์มกำลังดีวันดีคืน ยิงไปแล้วถึง 5 ประตูในฤดูกาลนี้ (ตามหลังเลวานเพียง 1 ประตูเท่านั้น) และตั้งเป้าจะทำผลงานให้ดีต่อไปหลังจบเกมทีมชาติในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
ต่างคนต่างก็ได้รับการยอมรับว่าเป็นสองกองหน้าที่ผลงานโดดเด่นสุดๆ บนเวทีบุนเดสลีกา ณ ช่วงเวลานี้ มาดูกันเลยว่าหากนำดาวยิงทั้งสองมาเปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ผลจะเป็นอย่างไร
ความเร็ว
เลวานดอฟสกี้: ใครว่ายิงแก่ยิ่งช้า? เลวานดอฟสกี้คือนักเตะที่มีวินัยสุดๆ เขาให้ความสำคัญกับทุกรายละเอียดในการฝึกซ้อมและโภชนาการเพื่อให้แน่ใจว่าความเร็วของเขาจะไม่ถดถอยลงตามวัยที่เพิ่มขึ้น เชื่อไหมว่าเลวานดอฟสกี้ก็เป็นกองหน้าที่วิ่งไวไม่แพ้คริสเตียโน่ โรนัลโด้ นักเตะที่เพิ่งมีสถิติออกมาว่ารวดเร็วที่สุดในลีกอิตาลี โดยทั้งคู่สามารถวิ่งความเร็วสูงสุดได้ที่ 21 ไมล์ต่อชั่วโมง ซึ่งในทีมบาเยิร์นก็จะมีแต่เพียงคิงสลีย์ โกม็องที่วิ่งได้เร็วกว่าเขา
แวร์เนอร์: “เทอร์โบ ทิโม” น่าจะเอาชนะเลวานดอฟสกี้ได้ในเรื่องนี้ ในฤดูกาลที่ผ่านมาเขาถูกจัดอันดับให้ติดท็อป 10 นักเตะที่วิ่งเร็วที่สุดในบุนเดสลีกาด้วยความเร็วสูงสุด 21.77 ไมล์ต่อชั่วโมง กองหน้าติดจรวดรายนี้ไม่เพียงแค่สปริ้นท์เข้าหาบอลได้เร็วเท่านั้น แต่เขายังไปกับบอลได้เร็วสุดๆ และนี่คือเคล็ดลับความสำเร็จที่ทำให้เขายิงประตูให้กับไลป์ซิกได้ถึง 55 ประตูจาก 95 เกมในบุนเดสลีกา
การจบสกอร์
เลวานดอฟสกี้: ทุกครั้งที่บาเยิร์นขึ้นบุก เรามักเห็นเลวานดอฟสกี้ยืนตำแหน่งได้อย่างยอดเยี่ยม เขาคือนักเตะที่รู้จักรักษาระยะในการยืนเป็นอย่างดี ซึ่งช่วยให้สามารถจบสกอร์ได้อย่างเพอร์เฟ็คต์เสมอ แต่การยืนระยะและรักษาตำแหน่งก็เป็นเพียงส่วนสำคัญส่วนแรกเท่านั้น ที่เหลืออีกส่วนหนึ่งก็คือการจบสกอร์ซึ่งเป็นสิ่งที่เลวานดอฟสกี้มีพรสวรรค์ในเรื่องนี้สูงสุด เขายิงได้ด้วยเท้าทั้งสองข้าง และยังเล่นลูกกลางอากาศได้ดีเยี่ยม นั่นทำให้เลวานดอฟสกี้สามารถยิงประตูทันทีโดยไม่ต้องจับ แต่งบอลหรือหาจังหวะยิงดีๆ อะไรให้มากสเต็ปเหมือนกองหน้าคนอื่นๆ สำหรับเลวานดอฟสกี้แล้ว บอลมาแบบไหนก็ยิงได้ทุกท่า...
แวร์เนอร์: มาตรวัดที่ใช้วัดคุณภาพกองหน้าอย่างหนึ่งก็คือ Expected Goals (xG) หรืออัตราการยิงแล้วได้ประตู ซึ่งแวร์เนอร์มีสถิติในเรื่องนี้ดีสุดๆ ในฤดูกาลนี้เขายิงไปแล้ว 5 ประตูจากเกมบุนเดสลีกาเพียง 3 นัดเท่านั้นซึ่งหากวัดค่า xG ในเกมที่ไลป์ซิกเอาชนะโบรุสเซีย เมินเชนกลัดบัคแล้วถือว่าแวร์เนอร์ทำได้สูงสุดที่ 0.67 ค่านี้หมายถึงว่าในการยิงแต่ละครั้ง แวร์เนอร์มีโอกาสที่จะพลาดน้อยมาก ดูตามสถิติในฤดูกาลล่าสุดก็คือเขายิงเข้ากรอบถึง 11 ครั้งและมี 5 ครั้งที่เป็นประตู ถือเป็นสถิติยอดเยี่ยมสุดๆ ไปเลย
ความแข็งแกร่ง
เลวานดอฟสกี้: เคยมีอดีตโค้ชของเลวานดอฟสกี้ที่โปแลนด์เป็นห่วงว่าเขาอาจมีปัญหาเรื่องความแข็งแกร่ง เนื่องด้วยลำตัวที่ผอมบางและขาเล็กเหมือนตะเกียบ มาถึงวันนี้เลวานดอฟสกี้กลับกลายเป็นคนละคน ตั้งแต่ในช่วงเวลาที่เขายังค้าแข้งกับดอร์ทมุนด์ เลวานใช้เวลามากมายในยิมเพื่อพัฒนาความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อจนได้ฉายาว่า “The Body” หรือเรียกเล่นๆ เป็นภาษาไทยก็คือ “พี่ล่ำ” นั่นเอง ผลของการมีกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งและใส่ใจในการทานอาหารทำให้เลวานดอฟสกี้ได้เปรียบในสนามและแทบไม่เคยต้องประสบปัญหาอาการบาดเจ็บรุนแรงเลย ตลอดช่วง 9 ฤดูกาลที่ผ่านมาในบุนเดสลีกา เขาพลาดลงเล่นไปเพียง 16 นัดเท่านั้นเอง!
แวร์เนอร์: แม้ความสูงจะเป็นรอง แต่แวร์เนอร์นั้นมีมวลกล้ามเนื้อแทบไม่ต่างกับเลวานดอฟสกี้ โดยน้ำหนักเบากว่าเพียง 7 ปอนด์ แวร์เนอร์มีกล้ามเนื้อช่วงบนที่แข็งแกร่งสามารถอัดกับกองหลังคู่แข่งได้สบาย ที่แกร่งสุดๆ เห็นจะเป็นกล้ามเนื้อสมองของแวร์เนอร์ เพราะดาวรุ่งคนนี้คือนักเตะที่มีจิตใจเข้มแข็งไม่ย่อท้อ ไม่รู้จักคำว่าแพ้ ไม่ว่ากองหลังคนไหนก็ต้องหวั่นหากได้รับมอบหมายให้ตามประกบศูนย์หน้ารายนี้ แวร์เนอร์ไม่ได้เป็นเพียงกองหน้าที่ใช้โอกาสได้ดีเท่านั้น แต่เขายังมองหาและพยายามสร้างโอกาสในการทำประตูอยู่เสมอ
ทีมเวิร์ค
เลวานดอฟสกี้: หนึ่งในกลยุทธ์ที่บาเยิร์นใช้ในการโจมตีคู่แข่งก็คือการเปิดบอลยาวข้ามหัวกองหลังคู่แข่ง เลวานดอฟสกี้ไม่ใช่กองหน้าที่ยืนตำแหน่งเท่ากับแนวรับคู่ต่อสู้ แต่เขามักจะลงต่ำแล้วออกตัววิ่งสปริ้นท์พร้อมทั้งจับจังหวะไม่ให้โดนจับล้ำหน้าได้อย่างยอดเยี่ยม เลวานสามารถอ่านเกมได้เป็นอย่างดีและตื่นตัวกับสถานการณ์รอบตัวเสมอ ความสามารถอันนี้เองที่ทำให้เขาคือกองหน้าผู้ยัดเยียดหายนะให้แนวรับคู่แข่งได้เสมอ เมื่อไหร่ก็ตามที่เพื่อนร่วมทีมอยู่ในจังหวะพร้อมจ่ายบอลมาให้ เลวานก็จะรับรู้และหาจังหวะในการเคลื่อนตัวไปอยู่ในตำแหน่งจบสกอร์ได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้ปีกและมิดฟิลด์วางใจได้เลยว่าหากเปิดบอลเข้าไป ยังไงก็มีลุ้นสูง...
แวร์เนอร์: การยืนตำแหน่งของแวร์เนอร์นั้นต่างกับเลวานดอฟสกี้ แต่ก็ได้ผลลัพธ์ไม่ต่างกัน แวร์เนอร์คือกองหน้าที่ยืนต่ำกว่าและมักฉีกออกทางด้านข้างไปรับบอล ศูนย์หน้าไลป์ซิกคนนี้สวมเสื้อหมายเลข 11 ที่เป็นเบอร์ประจำของผู้เล่นปีกแทนที่จะใส่เสื้อเบอร์ 9 สำหรับศูนย์หน้าตัวเป้า กองหน้าน้อยคนนักที่
สามารถเลี้ยงบอลจี้เข้าหากองหลังและสามารถทะลุเข้าไปจ่ายบอล เปิดโด่ง หรือกระทั่งจบสกอร์เองได้ ลักษณะการเล่นแบบนี้แหละที่ทำให้แวร์เนอร์โดดเด่น ไม่ต้องจับเขาไปยืนกลางประตูแล้วรอยิง เพราะกองหน้าติดจรวดคนนี้มีอะไรดีๆ มากกว่านั้นเยอะ
บทสรุป
เลวานดอฟสกี้คือกองหน้าตัวเป้าของจริงที่ยิงเองได้ เล่นเกมบุกร่วมกับมิดฟิลด์ก็ได้ เก็บบอลดี ชนกับกองหลังได้สบาย แถมยังสามารถพุ่งเข้าหาบอลได้ดีในจังหวะที่เพื่อนร่วมทีมเปิดบอลข้ามหัวกองหลัง นอกจากนี้ยังเล่นบอลบนพื้นและกลางอากาศได้ดี ที่สำคัญและโดดเด่นที่สุดก็คือสามารถจบสกอร์ได้ทุกท่วงท่าและทุกรูปแบบ ในขณะที่แวร์เนอร์คือกองหน้าที่มีคาแรคเตอร์คนละแบบ ออกตัวสปริ้นท์เร็วเหมือนติดจรวด ทักษะการเลี้ยงบอลเยี่ยม บุกได้หลากหลายและจบสกอร์เฉียบคม ซึ่งจะหากองหน้าสไตล์นี้ในบุนเดสลีกาที่โชว์ฟอร์มได้ดีกว่าแวร์เนอร์คงไม่มีอีกแล้ว