ล่องแก่งน้ำว้า มันกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
ใครที่ชอบความสนุก ตื่นเต้น และหวาดเสียวการผจญภัยท่ามกลางสายน้ำและป่าเขียวๆ คล้ายกับการเล่นเครื่องเล่นในสวนสนุกล่ะก็ แก่งน้ำว้า จ. น่านถือเป็นที่สุดของความตื่นเต้นเร้าใจซึ่งไม่แพ้เครื่องเล่นจักรกลในสวนสนุกอย่างแน่นอน
แก่งน้ำว้าถูกรังสรรค์โดยธรรมชาติ จากต้นน้ำที่ตั้งอยู่บนทิวเขาหลวงพระบาง ไหลคดเคี้ยวไปตามหุบเขาจนเกิดแก่งหินและวังน้ำมากมาย ขณะที่สองฟากฝั่งร่มรื่นด้วยป่าเต็งรังและป่าเบญจพรรณ อุดมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ปกคลุมหนาตา โดยเฉพาะไม้สัก ไม้แดง ไม้มะค่า ไม้เต็งและไม้รัง ประดับประดาด้วยหมู่มวลผีเสื้อหลากสีที่ลงมาเกาะหากินแร่ธาตุริมน้ำ ขณะแว่วเสียงนกร้องก้องทั่วป่า เป็นความงามทางธรรมชาติที่หาซื้อกันไม่ได้
ล่องแก่งน้ำว้าจึงเป็นกิจกรรมสุดฮิตสำหรับผู้ที่รักการผจญภัยต้องมาพิชิตสักครั้งให้ได้ ซึ่งปัจจุบันมีการก่อตั้งกลุ่มนำเที่ยวขึ้นมากมาย โดยจัดบริการที่พัก รถรับ-ส่ง ตลอดจนเรือยาง อุปกรณ์ป้องกัน ประกันภัยอุบัติเหตุ พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญการล่องแก่งดูแลตลอดระยะล่องแก่ง สำหรับฤดูที่เหมาะสมในการล่องแก่งเริ่มตั้งแต่ต้นเดือน กันยายน ถึงต้นเดือนมกราคม โดยลำน้ำว้ามีความยาวประมาณ 125 กม. ถูกแบ่งออกเป็น 3 ช่วง คือ น้ำว้าตอนบน ตอนกลาง และตอนล่าง เพื่อให้คุณเลือกสนุกได้ตามระดับของร่างกาย วัย และความเร้าใจ
น้ำว้าตอนบน... เป็นเส้นทางล่องแก่งเฉพาะผู้ที่เชี่ยวชาญและโชกโชนกับสายน้ำอันเชี่ยวกราก แม้จะเป็นระยะทางค่อนข้างสั้น ประมาณ 35 กม. แต่ก็มีแก่งปราบเซียนอยู่หลายแก่ง จุดเริ่มต้นจากหมู่บ้านสะปัน อ. บ่อเกลือ เส้นทางเต็มไปด้วยหินใต้น้ำและแก่งใหญ่ที่จัดอยู่ในระดับ 4-5 ซึ่งถือว่าเป็นระดับสูงของการล่องแก่ง อย่างแก่งที่อันตรายที่สุดคือ แก่งวังเปียนและแก่งถ้ำหอก เป็นแก่งที่ไม่สามารถล่องผ่านไปได้เพราะมีโตรกผาสูงและซอกหินจึงต้องยกเรือข้ามไป ก่อนจะไปสิ้นสุดที่บ้านสบมาง อ. บ่อเกลือ
ส่วนใครอยากล่องแก่งแบบชิลล์ๆ เน้นชมธรรมชาติ แนะนำน้ำว้าตอนล่าง.. จุดเริ่มต้นอยู่ที่อุทยานแห่งชาติ แม่จริม อ. แม่จริม ไปสิ้นสุดที่บ้านหาดไร่ อ. เวียงสา รวมระยะทางทั้งสิ้น 15 กม. เป็นเส้นทางที่ไม่หวาดเสียวนัก เหมาะสำหรับคนชอบพักผ่อนกินลมชมธรรมชาติ เพราะตลอดริมฝั่งน้ำร่มครึ้มด้วยป่าเขียวชอุ่ม บางจุดมีก้อนหินรูปทรงแปลกตาที่เกิดจากการกัดเซาะของสายน้ำว้าให้ชม รวมทั้งหน้าผาที่ไม่สูงมากนัก และปิดทริปสั้นๆ ด้วยการเล่นน้ำบนหาดทรายริมน้ำ ท่ามกลางสายน้ำและธรรมชาติกลางขุนเขา
เส้นทางล่องแก่งยอดนิยมของผู้รักการผจญภัยและหลงใหลธรรมชาติ คือ น้ำว้าตอนกลาง... เป็นทริปล่องแก่งแบบ 2 วัน 1 คืน เริ่มต้นที่บ้านสบมาง อ. บ่อเกลือ ไปสิ้นสุดที่แก่งวังลูน บ้านแคว้ง อ.แม่จริม รวมระยะทางประมาณ 80 กม. ตลอดเส้นทางจะได้ผจญภัยกับแก่งอันตื่นเต้นที่มีตั้งแต่ระดับ 1-5 กว่า 100 แก่ง ผู้เขียนเองได้มีโอกาสล่องแก่งครั้งแรกก็ที่น้ำว้าตอนกลางนี่แหละ โดยร่วมทริปไปกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานแพร่ ร่วมกับชมรมล่องแก่งน้ำว้า จ. น่าน สายการบินนกแอร์ และผู้ประกอบการนำเที่ยวใน จ. น่าน จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ "ล่องแก่งเรือยางน้ำว้า จ. น่าน" ขึ้น
เราเริ่มต้นเดินทางกันตั้งแต่เช้าโดยมี พ.ต.ท. ต่อลาภ ตินะมาตร สารวัตรสถานีตำรวจท่องเที่ยว 3 กองกำกับการ 4 คอยเอื้ออำนวยความสะดวกตลอดการเดินทางไปยังบ้านสบมาง อ. บ่อเกลือ ซึ่งเป็นจุดปล่อยเรือยาง ก่อนลงเรือนักท่องเที่ยวทุกคนต้องซักซ้อมทำความเข้าใจกันก่อน โดยคุณสมุน มูลมา ประธานชมรมล่องแก่งน้ำว้า จ. น่าน เป็นคนให้ความรู้ต่างๆ เริ่มตั้งแต่กำชับว่าการล่องแก่งน้ำว้าต้องอาศัยความสามัคคีอย่างมาก ทุกคนต้องช่วยกันพาย เรือแต่ละลำบรรทุกคนได้ประมาณ 7-8 คน โดยจะมีเจ้าหน้า 3 คน คือ นายหัวเรือ 2 คน ที่ต้องคอยมองเส้นทางน้ำและล่องหิน พร้อมทั้งออกแรงพายให้พ้นแก่ง และนายท้ายเรือ 1 คน ที่เหมือนหางเสือคอยบังคับทิศทางตามที่นายหัวเรือบอก และนักท่องเที่ยวทุกคนก็ต้องพายตามคำสั่งนายหัวเรืออย่างเคร่งครัด ถ้าสั่งว่า "หนักซ้าย" ลูกเรือฝั่งซ้ายก็ต้องช่วยกันพาย ถ้า "หนักขวา" ลูกเรือฝั่งขวาก็ต้องช่วยกันพาย หรือถ้าสั่งว่า "ซ้าย..ขวา..พาย" ลูกเรือทุกคนต้องช่วยกันพายเพื่อให้ผ่านพ้นแก่งไปได้ ทุกคนจึงสามัคคีกัน ถ้าไม่งั้นอาจพลิกคว่ำได้ ส่วนในกรณีเรือเกิดพลิกคว่ำ สิ่งสำคัญที่สุดคือการควบคุมสติและอย่ากรี๊ดหรืออ้าปากร้อง เพราะจะทำให้น้ำเข้าปากและยิ่งตกใจจนควบคุมสติไม่อยู่ สิ่งที่ต้องทำคือตั้งสติและดีดตัวให้ห่างจากแก่งมองหาโขดหินหรือกิ่งไม้เพื่อยึดเกาะไว้ รอเจ้าหน้าที่มาช่วย
เมื่อทฤษฎีเป๊ะ เรือยางหลากสีนับ 10 ลำซึ่งบรรทุกสัมภาระและลูกเรือทยอยกันไปเพื่อเผชิญกับความตื่นเต้นเร้าใจกลางสายน้ำว้า แม้ในช่วงแรก น้ำจะนิ่งและมีแก่งเล็กๆ ให้พอสนุกเพลิดเพลินไปกับน้ำใสไหลเย็นและป่าเขียวสองข้างทาง ไม่นานนักก็เจอแก่งใหญ่ อย่างแก่งโก้ แก่งผากลวง แก่งไฮจ้ำ ให้ยิ่งเพิ่มความตื่นเต้น จนคล้อยบ่ายสายฝนเริ่มโปรยปรายเพิ่มความชุ่มฉ่ำขึ้นอีกเท่า เราพักเบรกกันด้วยอาหารง่ายๆ แต่หนักท้อง อย่างไส้อั่ว น้ำพริกหนุ่ม แคปหมู กินกับข้าวเหนียวห่อใบตอง ในกระท่อมกลางป่าได้บรรยากาศสุด
เมื่อท้องอิ่ม เรี่ยวแรงก็ตามมาเป็นสัญญาณให้ออกผจญภัยกันต่อ คราวนี้เจอแต่แก่งใหญ่ๆ และเป็นแก่งที่ขึ้นชื่อว่าโหดและสวยแก่งหนึ่ง อย่างแก่งเสือเต้น แก่งห้วยเดื่อ และแก่งผีป่า ถือเป็นแก่งโหดสุดของวันนี้ เรามาถึงแค้มป์แม่สะนานช่วงเย็นเพื่อพักค้างแรมในป่า 1 คืน พี่เจ้าหน้าที่ของน่านทัวร์ริ่งต่างจัดเตรียมกางเต้นท์และทำอาหารให้พวกเรา หลังจากที่ได้อาบน้ำเย็นๆ จากลำธาร นั่งล้อมวงกินอาหารมื้อค่ำแสนอร่อยและเข้านอนในเต้นท์อ ภายใต้แสงจันทร์กลางผืนป่า รุ่งเช้าเติมพลังใส่ท้องให้เต็มอิ่ม ชาร์ตแบตซึมซับความงามจากธรรมชาติให้เต็มปอด พร้อมออกพิชิตแก่งนับสิบ ในระยะทางอีก 40 กม. ที่รออยู่เบื้องหน้ากันเลย วันที่ 2 ของการล่องแก่ง จากความกลัวที่เพิ่งเคยล่องแก่งเป็นครั้งแรก ก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นความกล้าเมื่อได้พิชิตแก่งไปในวันแรก
ตอนนี้กลับรู้สึกสนุกและใจจดจ่ออยากพิชิตให้ครบทุกแก่งตลอดระยะทางที่เหลือ ออกจากแค้มป์ได้ไม่นาน ก็เจอกับแก่งต่างๆ ที่สร้างความตื่นเต้นและหวาดเสียว ซึ่งเป็นแก่งใหญ่ๆ ระดับ 4-5 ตลอดเส้นทาง อย่างแก่งครกที่เป็นเหมือนหลุมครกมีน้ำวนอยู่ใต้แก่งหิน ที่เรียกว่าโฮโดรหรือไฮโดรลิก ลักษณะคล้ายน้ำวนในเครื่องซักผ้า ซึ่งลูกเรือทุกคนต้องช่วยกันพายให้ผ่านพ้นแก่งไปให้ได้ ด่านต่อมาคือแก่งผาขี้นก และแก่งรถเมล์ที่ขึ้นชื่อว่าทั้งชันและสูงเป็นเหมือนน้ำตกขนาดย่อมๆ ทีเดียว สร้างความตื่นเต้นพร้อมเสียงกรี๊ดที่ดังอย่างต่อเนื่อง ยังมีแก่งเสือเต้นแม่จริม แก่งโตน แก่งใหม่ แก่งสร้อย เป็นแก่งที่มีความยาวต่อเนื่องกัน สร้างความสนุกสุดมันตลอดกลางสายน้ำ
จนมาสิ้นสุดที่แก่งวังลูน ทุกคนขึ้นฝั่งเปลี่ยนเสื้อผ้าชำระร่างกายกันที่นี่ และเติมพลังกันด้วยก๋วยเตี๋ยวแสนอร่อยถือเป็นการจบทริปล่องแก่งน้ำว้าที่สนุกสุดเหวี่ยงสุดๆ
ขอขอบคุณ: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานแพร่, สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดน่าน, ชมรมล่องแก่งน้ำว้า, สายการบินนกแอร์, ตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดน่าน
เรื่องและภาพ: พรเพ็ญ วงศ์ศุภชัยนิมิต
(คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขนาดใหญ่)
แวะชมแหล่งท่องเที่ยว เกาะช้าง เชียงคาน ภูเก็ต เขาใหญ่ และ ปาย
ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook.. ได้ที่นี่เลย!!