“สีชัง” ยังน่าชม

แน่นอนว่าสีชังมักเป็นที่รักมากกว่าที่ชังในช่วงหน้าร้อนก็ฟ้าใสทะเลสวยและ อากาศดี๊-ดี หนำซ้ำยังอยู่ใกล้กรุงเทพฯ อีกต่างหาก จึงไม่แปลกหากใครจะเคยมาเที่ยวสีชังมากกว่าหนึ่งครั้งโดยเฉพาะในฤดูร้อนแล้วฤดูฝนละ...ครั้งนี้เราได้รับคำชวนจาก ททท. สำนักงานพัทยา พามาเที่ยวงาน รำลึก "100 ปี สีชัง" เกาะเล็กๆ นี้ยามหน้าฝนปลอดนักท่องเที่ยวอากาศเย็นสบายน่าพักผ่อน และผู้คนชาวสีชังก็น่ารักไม่น้อย

แวะเดี๋ยวเที่ยวศรีราชา ก่อนข้ามทะเลจากท่าเรือเกาะลอย อำเภอศรีราชา เพื่อไปยังเกาะสีชัง พี่ๆ ชาวททท. พาเราเลี้ยวเข้าโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชาซะก่อน...อ๊ะอ๊ะ ไม่ได้พามาตรวจสุขภาพอะไรหรอก แต่พามาชมกลุ่มเรือนริมน้ำและพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวีที่ตึกพระพันวัสสา อัครมเหสีในรัชกาลที่ 5 ผู้ก่อตั้งสภากาชาดไทยและโรงพยาบาลแห่งนี้ พระองค์ยังได้รับการยกย่องให้เป็นบุคคลสำคัญ ของโลกจากยูเนสโกด้วย ภายในอาคารสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปได้จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับพระราชประวัติและพระมหา-กรุณาธิคุณในด้านต่างๆ ของพระองค์ ชมเครื่องเรือนที่มีพระนามาภิไธยย่อ "สว." รวมถึงประวัติการจัดตั้งโรงพยาบาลนี้ที่มีความสำคัญต่อชาวศรีราชา

สีชัง...ยังสวยอยู่ ในเวลาไม่ถึงชั่วโมง สปีดโบ๊ตก็พาเราแหวกทะเลมาถึงท่าเรือเทววงศ์บนสีชัง ใครที่เคยมาแล้วหลายครั้งอาจจะว่าสีชังไม่เห็นมีอะไร แต่ยังมีอีกหลายคนที่ชื่นชอบการเดินชมร่องรอยทางประวัติศาสตร์ท่ามกลางธรรมชาติที่ถูกรักษาไว้ ด้วยเกาะนี้เป็นที่ตั้งพระจุฑาธุชราชฐาน พระราชวังกลางทะเลที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 สิ่งหลงเหลือให้เดินชมมีอยู่หลายจุด เช่น สะพานอัษฎางค์หรือสะพานไม้สุดคลาสสิกสีขาวตัดกับท้องทะเลสีคราม กลุ่มเรือนโบราณที่มีทั้งเรือนไม้ริมทะเลเรือนวัฒนา เรือนอภิรมย์ เรือนผ่องศรีชมฐานพระที่นั่งมันธาตุรัตนโรจน์ที่ถูกรื้อไปสร้างเป็นพระที่นั่งวิมานเมฆ เดินเรื่อยๆ ใต้เงาต้นลั่นทมขึ้นเขาไปสักการะพระเจดีย์อุโบสถวัดอัษฎางคนิมิตรที่ตกแต่งช่องประตูและหน้าต่างด้วยกระจกสีตามแบบศิลปะโกธิก

และก่อนที่เราจะเข้าเช็กอินที่พัก ณ ปารีฮัท รีสอร์ต ยังแวะไปเก็บภาพพร้อมชื่นชมธรรมชาติอีกมุมหนึ่งของสีชัง ณ แหลมเขาขาดที่มีสะพานวชิราวุธทอดยาวไปตามเชิงผา ที่นี่เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกในทะเลสีชังงามตา เช่นเดียวกับจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นบนยอดเขาพระจุลจอมเกล้าที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองจากพุทธคยา...ได้มากี่ครั้งๆ ก็ยังไม่เบื่อเพราะในความไม่มีอะไรในสายตาของใครบางคน คือความสวยงามตามธรรมชาติที่เรายังมีโอกาสได้เห็นมันอยู่

ย้อนอดีต 100 ปีกับชาวสีชัง ชาวสีชังจะจัดให้มีงานรำลึก "100 ปี สีชัง" เป็นประจำทุกปีเพื่อถวายราชสักการะพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า-เจ้าอยู่หัวที่ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระจุฑาธุชราชฐาน ตลอดจนสิ่งปลูกสร้างต่างๆ นำความเจริญมาสู่เกาะเล็กๆ จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของชลบุรี ในงานนี้ชาวบ้านจะร่วมใจกันแต่งกายย้อนยุคสะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทยในสมัยรัชกาลที่ 4, 5, 6 ซึ่งนักท่องเที่ยวอย่างเราๆ ก็ต้องทำตัวกลมกลืนกันหน่อยด้วยการสวมเสื้อคอกลมผ้ามันหลากสีกับกางเกงขาก๊วยเข้างาน แหม...ใส่แล้วรู้สึกสบายตัวอย่าบอกใครเชียว

หลังจากพิธีบวงสรวงเสด็จพ่อ ร.5 ในตอนกลางวันกันแล้ว ตกกลางคืนก็ถึงเวลาของความสนุกสนาน มีการแสดงต่างๆ ประกวดแต่งกายย้อนยุคสาวงามและหนูน้อย 100 ปีเกาะสีชัง และยังได้ทัวร์ชิมอาหารพื้นบ้านอร่อยๆ ที่ชุมชนต่างๆ มาร่วมออกร้าน เป็นงานเล็กๆ น่ารักแบบฉบับชาวเกาะสีชัง ที่รวมไว้ทั้งความสนุกสนานและรักษาวัฒนธรรมไทยได้อย่างน่าชื่นชม

Fast Facts
● จากเกาะลอย ศรีราชา ข้ามไปเกาะสีชังมีเรือโดยสารให้บริการทุกวัน
ตั้งแต่เวลา 06.00-20.00 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที บนเกาะ
มีรถสกายแล็ปพาเที่ยวชมตามจุดต่างๆ ค่าบริการ 250 บาทต่อคันต่อ
6 คน และมีมอเตอร์ไซค์ให้เช่าวันละ 250 บาท
● ติดต่อเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี
พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ได้ที่ฝ่ายบริหารงานทั่วไป โทร. 038-322-157-9 ต่อ 1313, 1171 และพิพิธภัณฑ์พระจุฑาธุชราชฐาน เกาะสีชัง โทร. 038-216-412, 038-216-416 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อททท. สำนักงานพัทยา โทร. 038-427-667, 038-428-750

ข้อมูลโดย : Lisaguru

ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook.. ได้ที่นี่เลย!!