11 ดอย...คอยลมหนาว น่าพาแฟนไปเที่ยวช่วงปีใหม่
ลมหนาวพัดมาทักทายได้พักใหญ่ ชวนให้หัวใจอุ่นๆ ของนักเดินทางออกไปรับลมหนาวกันอีกครั้ง ขุนเขาและดอยสูงหลายแห่งล้วนเป็นเป้าหมายซึ่งผู้คนพากันไปท่องเที่ยว ส่วนใครที่ยังไม่รู้จะไปไหน "นายรอบรู้" นักเดินทางขอต้อนรับปี 2014 ด้วยสถานที่งามยามหนาว 11 แห่ง ให้คุณเลือกไปนั่งคอยนอนคอยลมหนาวได้ตามใจปรารถนา พร้อมแล้ว แพ็กกระเป๋า พกถุงมือ คว้าผ้าพันคอ ไปกันได้เลย !
1.ห้วยน้ำดัง...อลังการธารหมอกในขุนเขา
อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังมีภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนและมีอากาศหนาวเย็นให้คุณไปกางแขนรอรับลมหนาวได้เกือบตลอดปี หากคุณต้องการชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าโดยมีดอยหลวงเชียงดาวตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า รายล้อมด้วยทะเลหมอกขาวละก็ ขอแนะนำให้ตื่นแต่ เช้ามืดไปปักหลักรอทักทายแสงแรกกันที่ดอยกิ่วลม ซึ่งเป็นจุดชมทิวทัศน์บริเวณที่ทำการอุทยานฯ ทั้งยังเป็นที่ตั้งของพระตำหนักเอื้องเงิน
อาคารทรงชาเล่ต์ที่กรมป่าไม้สร้างถวายสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ที่บริเวณรอบพระตำหนักปลูกกล้วยไม้เอื้องเงินหลวงซึ่งจะออกดอกสะพรั่งช่วงเดือนมกราคม-มีนาคมส่วนคนที่อยากพิชิตยอดดอยที่สูงที่สุดของห้วยน้ำดัง จุดมุ่งหมายของคุณคือดอยช้าง บนความสูง 1,962 เมตรจากระดับน้ำทะเล โดยต้องขับรถจากที่ทำการอุทยานฯ ไปตามทางราว 20 กม. แต่รับประกันว่าเมื่อถึงที่หมาย คุณจะหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง เพราะความสวยงามของเทือกเขาสลับซับซ้อนปกคลุมด้วยป่าไม้อุดมสมบูรณ์ท่ามกลางทะเลหมอกยามเช้า รวมทั้งอากาศบริสุทธิ์ซึ่งช่วยให้คุณกระปรี้กระเปร่า แถมที่นี่ยังเป็นแหล่งอาศัยของนกบนที่สูงนานาชนิด เช่น นกเดินดง นกจับแมลง นกเขน นกปรอด อีกด้วยห้วยน้ำดังยังมีดอยสูงอีกแห่งคือดอยสามหมื่น อยู่ห่างจากดอยช้างไปประมาณ 10 กม.
ดอยสามหมื่นมีอีกชื่อว่า "ห้วยน้ำรู" ตามชื่อธารน้ำสายเล็กๆ ที่ไหลออกจากตาน้ำผ่านผืนป่าเขียวขจีในบริเวณนั้น คนที่สนใจจะไป ควรใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อ เพราะเส้นทางยากลำบากพอดู ทว่าความประทับใจที่คุณจะได้พบนั้นนับว่าคุ้มค่ายิ่งกับการเดินทาง (ป.ล. ผู้ที่เตรียมตัวเตรียมใจไปผจญภัยบนเส้นทางนี้ กรุณานำอาหารและน้ำดื่มไปด้วย)
ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง อ. แม่แตง จ. เชียงใหม่ โทร. 0-5324-8491 ที่พัก : มีบ้านพัก 10 หลังหรือหากอยากกางเต็นท์นอนก็มีให้เช่าพร้อมเครื่องนอนครบชุด
2.ดอยอินทนนท์...ตะลุยหมอกสู่ยอดเขาสูงสุดของไทย
ด้วยความสูงประมาณ 2,565 เมตรจากระดับน้ำทะเล ดอยอินทนนท์จึงคว้าแชมป์ยอดเขาที่สูงที่สุดในเมืองไทยไปครอง อีกทั้งความเป็นพื้นที่ต่อเนื่องจากเทือกเขาหิมาลัย ทำให้บนดอยนี้เต็มไปด้วยพืชพรรณน่าสนใจและสัตว์ป่าหลากหลายชนิด รวมถึงนกที่สำคัญอีกมากอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์มีแหล่งท่องเที่ยวให้คุณได้ไปเปรี้ยวรับลมหนาวอยู่หลายแห่งตลอดสองข้างทางริมทางหลวงหมายเลข 1009
ถ้าอยากสัมผัสความเย็นของสายน้ำในฤดูหนาว แนะนำให้แวะน้ำตกแม่กลาง ที่เชิงเขาบริเวณ กม. ที่ 8 นับเป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงโด่งดังแห่งหนึ่งของเชียงใหม่ น้ำตกมีขนาดใหญ่และมีน้ำตลอดทั้งปี ใครอยากวัดอุณหภูมิของน้ำว่าเย็นเจี๊ยบจับใจแค่ไหน ลองลงเล่นในแอ่งน้ำที่มีหลายแอ่งพิสูจน์ได้น้ำตกวชิรธารตรงริมทางบริเวณ กม. ที่ 20.5 เป็นอีกแห่งที่มีความงามไม่แพ้กัน นอกจากสายน้ำจะไหลจากหน้าผาสูงลงมาอย่างน่ามองแล้ว เมื่อแสงแดดยามเที่ยงวันส่องกระทบละอองน้ำยังเกิดเป็นสายรุ้งงามตรึงตาจากนั้นไปกันต่อที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนวางซึ่งเป็นศูนย์วิจัยทดลองไม้ดอกและไม้ผลเมืองหนาวที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2528 เพื่อสนับสนุนชาวม้งและกะเหรี่ยงให้หันมาปลูกไม้เมืองหนาวแทนการปลูกฝิ่น บริเวณโครงการหลวงฯ เต็มไปด้วยแปลงไม้เมืองหนาวซึ่งปลูกหมุนเวียนเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ทั้งองุ่น สตรอว์เบอร์รี ดอกคาร์เนชัน แกลดิโอลัส และเฟิน รวมถึงท้อ แอปเปิล สาลี่ บ๊วย พลับ พลัม ซึ่งอยู่ในช่วงทดลองปลูกขึ้นดอยอินทนนท์แล้วอย่าลืมแวะสักการะพระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ ที่สูงเด่นเห็นแต่ไกลอยู่บริเวณ กม. ที่ 41.5 กองทัพอากาศจัดสร้างขึ้นในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 5 รอบ เมื่อปี พ.ศ. 2530 และ 2535 โดยลำดับ จากจุดนี้เรายังจะได้เห็นภาพ อ. แม่แจ่มในมุมแจ่มๆ ท่ามกลางความงามแห่งหุบเขาใครอยากท้าลมหนาว ขอแนะนำเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน ที่ซึ่งจะได้ชมกุหลาบพันปีออกดอกแดงพราวไปทั่วสันเขาด้วยสุดทางหลวงหมายเลข 1009 คือยอดดอยอินทนนท์--ขอย้ำอีกครั้งว่า คุณกำลังยืนอยู่บนยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย เตรียมตัวก้าวขาออกไปรับลมหนาวและสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด แล้วรอลุ้นดูซิว่า คืนนี้ที่ยอดดอยอินทนนท์จะติดลบสักกี่องศา...บรื๋อ !!!
ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์อ. จอมทอง จ. เชียงใหม่ โทร. 0-5326-8550-2 ที่พัก : มีบ้านพัก 14 หลังและเต็นท์ให้เช่าพร้อมเครื่องนอน
3. พักเขาค้อ....1 คืน อายุยืน 1 ปี
ในช่วงปี พ.ศ. 2511-2525 ภูสูงแห่งนี้เคยเป็นสมรภูมิสู้รบ แต่ในวันนี้เขาค้อได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เราอยากชวนคุณไปรับลมหนาว ผ่านเส้นทางที่ขับรถเที่ยวได้เป็นวงรอบ และเพราะอากาศอันแสนบริสุทธิ์ คนเขาค้อเลยมีสโลแกนน่ารักๆ "พักเขาค้อ 1 คืน อายุยืน 1 ปี" บอกเล่าสู่นักท่องเที่ยวถึงเขาค้อแล้ว น่าแวะสักการะพระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก เจดีย์ใหญ่ที่สุดใน จ. เพชรบูรณ์ เสียก่อน ชาวเขาค้อร่วมใจกันสร้างขึ้นเพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของผู้คนบนเขาค้อและเพื่อความเป็นสิริมงคล ภายในเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา ทั้งพระพุทธรูปปางต่างๆ ประดิษฐานอยู่หลายองค์ พระตำหนักเขาค้อเป็นที่หมายถัดมา แม้จะเที่ยวชมได้เฉพาะภายนอกพระตำหนัก ทว่าบริเวณรอบๆ ก็ตกแต่งด้วยไม้ดอกไม้ประดับนานาชนิดอย่างสวยงามชวนให้เดินชม ยิ่งในฤดูหนาวไม้ดอกนานายิ่งเสมือนอวดดอกสะพรั่งแข่งกัน
หากอยากนอนนับดาวเคล้าลมหนาว ก็กางเต็นท์พักแรมกันได้ที่บริเวณเรือนพักผู้ติดตาม รับประกันความหนาวที่ 5-6 องศาเซลเซียสมาเยี่ยมสมรภูมิรบในอดีต ต้องไม่พลาดไปชมพิพิธภัณฑ์อาวุธ (ฐานอิทธิ) ภายในมีหอพิพิธภัณฑ์อาวุธ จัดแสดงเหตุการณ์การสู้รบ ภาพถ่าย และอาวุธปืนชนิดต่างๆ ส่วนด้านนอกมีอาวุธยุทโธปกรณ์ เช่น ซากรถถัง ปืนใหญ่ เฮลิคอปเตอร์ ให้ชม ด้านหลังพิพิธภัณฑ์เป็นจุดชมทิวทัศน์เขาค้อที่สวยงาม นั่งรับลมชมสายหมอกได้อย่างเพลินใจ ไม่ไกลจากฐานอิทธิคืออนุสรณ์ผู้เสียสละเขาค้อ ที่สร้างขึ้นเพื่อเทิดทูนวีรกรรมของวีรชนผู้พลีชีพในการสู้รบเมื่อครั้งอดีตหากมีเวลาเหลือต้องไปล่องแก่งบางระจันตามหาแมงกะพรุนน้ำจืดที่บ้านหนองแม่นา เราจะหาชมแมงกะพรุนน้ำจืดได้เฉพาะที่นี่ที่เดียวเท่านั้นในเมืองไทย แต่ถ้าชอบกิจกรรมกลางแจ้งแนวแอดเวนเจอร์ ต้องไปที่ภูแก้ว แอดเวนเจอร์ ปาร์ค เขามีกิจกรรมมากมายให้คุณได้ตื่นเต้นหวาดเสียว อย่างการเหินเวหาข้ามน้ำ ขับรถม้ง โล้ชิงช้าท้าวัดใจ เป็นต้นเลยไปอีกไม่ไกล จะพบร้านกาแฟรูท 12 ที่หากไปตั้งแต่เช้าจะได้นั่งจิบกาแฟพร้อมชมธารหมอกไหลผ่านภูเขาสวยงามจับตาก่อนลาจากเขาค้อ อย่าลืมแวะซื้อของฝากที่สวนรัชมังคลาภิเษก ริมทางหลวงหมายเลข 12 ราว กม. ที่ 108 แหล่งขายพืชผลทางการเกษตร ทั้งมะระหวาน อะโวคาโด พลับ และสารพัดเห็ด"พักเขาค้อ 1 คืน อายุยืน 1 ปี" แล้วคุณจะพักสักกี่คืนดีล่ะ
ที่ตั้ง :อุทยานแห่งชาติเขาค้อ อ. หล่มสัก จ. เพชรบูรณ์ โทร. 0-5671-8335 หน่วยฯ สะเดาพง อ. เขาค้อ โทร. 08-1284-5223
4.ภูทอก...ชมทะเลหมอกริมโขง
ภูทอก ภูสูงแห่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร่ำลือกันว่าบนยอดภูเป็นจุดชมทิวทัศน์สายน้ำโขงในมุมกว้างที่งดงาม ยิ่งล่วงเข้าฤดูหนาว ผู้ไปเยือนจะได้ชมทะเลหมอกแผ่คลุมทั่วผืนฟ้า โดยมียอดภูน้อยใหญ่ของทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาวประดับให้ทะเลหมอกยิ่งงาม...ภูทอกตั้งอยู่ที่บ้านเชียงคาน อ. เชียงคาน จ. เลย บนยอดภูที่ตั้งของสถานีโทรคมนาคมเชียงคานนั้น เป็นจุดซึ่งจะมองเห็นทิวทัศน์ของ อ. เชียงคานได้รอบด้านจนจดแม่น้ำโขง ผู้คนมากมายต่างพากันมารอดูดวงอาทิตย์ค่อยๆ เผยโฉมเหนือทะเลหมอก ภาพแสงสีทองอาบไล้ปุยหมอกนั้นพาให้ทุกผู้คนต้องเก็บภาพแห่งความประทับใจนั้นไว้เมื่อม่านหมอกค่อยๆ จางหาย เหลือเพียงสายหมอกบางๆ ก็ถึงคราวที่สายน้ำโขงจะเผยตัวบ้าง สายน้ำไหลคดเคี้ยวผ่านสองฝั่งไทย-ลาวอยู่เบื้องล่าง ฝั่งไทยเป็นที่ราบกว้างและที่ตั้งของเมืองเล็กๆ แสนสงบที่รู้จักกันในนาม "เชียงคาน"
ขณะที่ฝั่งลาวเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อนปกคลุมด้วยป่าไม้อันอุดมความงดงามบนยอดภูมิได้เสื่อมคลายไปตามกาลและเวลา ครั้นเมื่อตะวันคล้อยลงต่ำ ฉากตระการตาของทะเลหมอกยามเช้าก็แปรเปลี่ยนเป็นทิวทัศน์ยามเย็นที่แสงสีทองเรืองรองทาบทาผืนน้ำ ส่องสะท้อนวิถีชีวิตริมสองฝั่งโขง จวบจนดวงตะวันลาลับขอบฟ้า แสงดาวก็พร่างพราวขึ้นแทนที่ ขณะที่เบื้องล่างในตัวเมืองเชียงคานนั้นระยิบระยับด้วยแสงไฟจากอาคารบ้านเรือนมาภูทอกนั้นแสนง่าย ไม่ต้องเดินเหนื่อยแรง เขามีรถสองแถวบริการถึงยอดภู ขอแนะนำให้เตรียมคอลเล็กชันหน้าหนาวไปให้พร้อม เพราะต้องนั่งรถสองแถวโต้ลมหนาวไปเกือบ 2 กม. ถ้าจะให้เก๋ เตรียมกาแฟร้อนหรือชาอุ่นๆ ใส่กระติกไปยืนจิบรับอรุณท่ามกลางทะเลหมอกด้วยก็ได้นะ
สอบถามข้อมูลท่องเที่ยวที่ อบต. เชียงคาน โทร. 0-4282-1664 บนภูไม่อนุญาตให้กางเต็นท์ นักท่องเที่ยวหาที่พักได้ในตัว อ. เชียงคาน
5. ดอยแม่สลอง...ชิมชา ชมซากุระบาน
ไต่ความสูงลัดเลาะไปตามไหล่เขาที่สูงชันและคดเคี้ยว สู่จุดหมายบนดอยแม่สลองที่ความสูงเฉลี่ย 1,200 เมตรจากระดับน้ำทะเล จนถึงบ้านสันติคีรี ชุมชนชาวจีนฮ่ออดีตทหารจีนกองพล 93 ที่ลี้ภัยมาหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 บ้านสันติคีรีเป็นชุมชนขนาดใหญ่หลายร้อยหลังคาเรือน ตั้งอยู่บนดอยท่ามกลางอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ที่สำคัญที่นี่ยังเป็นแหล่งปลูกชาชั้นเลิศ ไร่ชาสีเขียวทอดตัวตามที่ลาดเชิงเขาพื้นที่หลายพันไร่เป็นภูมิทัศน์สวยงามน่าชม ทั้งนักท่องเที่ยวยังจะได้ชมการเก็บยอดชาโดยชาวเขาถือตะกร้าสานเดินเด็ดยอดอ่อนของต้นชาเป็นทิวแถว และถนนสายหลักกลางหมู่บ้านก็มีร้านจำหน่ายใบชาหลายสิบร้านตั้งเรียงรายตลอดทางให้ได้ลองชิมชาและเลือกซื้อ
บนดอยแม่สลองมีชาหลายชนิด ชาอู่หลงก้านอ่อนเป็นตัวชูโรง ด้วยกลิ่นหอมพิเศษและรสชาติเยี่ยมถูกใจนักชิมชา อุปกรณ์ชงชา อย่างชุดชงชา เหยือกชา ถ้วยชา ก็มีให้เลือกชอปปิงตามใจชอบเมนูเด็ดตำรับจีนยูนนานเป็นสิ่งที่ห้ามพลาดเมื่อมาเยือนดอยแม่สลอง ไม่ว่าจะเป็นเป็ดอบใบชาที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ จากยอดชา หรือหมูคั่วยูนนานจากร้านอิ่มโภชนา ขาหมูเนื้อเปื่อยนุ่มหอมเครื่องเทศจากภัตตาคารนายพลต้วน แถมด้วยหมั่นโถเนื้อนุ่มละมุน และชาจีนอุ่นๆเส้นทางเข้าสู่หมู่บ้านสันติคีรียังมีต้นนางพญาเสือโคร่งอยู่ริมทางเป็นระยะกว่า 4 กม. ช่วงที่ลมหนาวมาเยือนราวเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ นางพญาเสือโคร่งจะผลิดอกสีชมพูพราวไปทั้งต้น ดูราวกับดอกซากุระของญี่ปุ่น แต่งแต้มให้ดอยแม่สลองยิ่งงามเด่นบนจุดสูงสุดของดอยแม่สลองเป็นที่ประดิษฐานพระบรม-ธาตุเจดีย์ศรีนครินทรามหาสันติคีรี และเป็นจุดชมทิวทัศน์เทือกเขาได้กว้างไกลงดงาม
ที่ตั้ง : ดอยแม่สลอง อ. แม่ฟ้าหลวง จ. เชียงราย ข้อมูลท่องเที่ยว : อบต. แม่สลอง โทร. 0-5376-5129 (บนดอยมีรีสอร์ตและที่กางเต็นท์ ให้เลือกหลายแห่ง)
6.ดอยตุง...ชมพระตำหนักงามท่ามกลางไม้ดอกนานาพันธุ์
ใครฝันอยากเดินทางไปรับลมหนาวในดินแดนห่างไกลอย่างยุโรปตะวันตก ขอให้ลองมาสัมผัสอากาศหนาวเย็นบนดอยตุง แล้วฝันนั้นอาจไม่เป็นเพียงแค่ฝัน...ภาพงามๆ ที่สายหมอกลอยระเรี่ยทิวเขาสลับซับซ้อน ดุจดั่งทิวทัศน์ในสวิตเซอร์แลนด์ อีกทั้งดอกไม้เมืองหนาวสารพัดสีสารพันชนิดก็พาให้เคลิ้มคล้อยว่ากำลังเดินชมทุ่งดอกไม้ของเมืองยุโรป พระตำหนักดอยตุง บ้านหลังแรกของสมเด็จย่า ตั้งอยู่บนดอยตุง ณ ความสูง 1,200 เมตรจากระดับน้ำทะเล พระตำหนักแห่งนี้ผสมผสานสถาปัตยกรรมล้านนากับลักษณะบ้านพื้นเมืองของสวิตเซอร์แลนด์โดยเน้นความเรียบง่าย ที่นี่เป็นจุดกำเนิดของโครงการพัฒนาดอยตุงเพื่อช่วยฟื้นฟูสภาพพื้นที่และฝึกอาชีพให้แก่ชาวเขาบนดอย พื้นที่ในหุบเขากว่า 30 ไร่ข้างพระตำหนัก ถูกเนรมิตให้เป็นสวนแม่ฟ้าหลวง สวนไม้เมืองหนาวที่ปลูกไม้ดอกหมุนเวียนอวดดอกไม่ซ้ำกันตลอดสามฤดู ภายในสวนแบ่งเป็น 3 โซน โซนแรกสวนห่มนาง ตระการตาด้วยดอกไม้เมืองหนาวนานาพันธุ์ โซนต่อมาเป็นลานประติมากรรมชื่อ "ความต่อเนื่อง" เป็นรูปเด็กยืนต่อตัวอยู่กลางสวน อันมีที่มาจากพระราชดำรัสของสมเด็จย่าเรื่องการทำงานให้สำเร็จต้องทำอย่างต่อเนื่อง อีกโซนคือสวนหินและน้ำพุประดับประดาด้วยหินภูเขากลมเกลี้ยงขนาดใหญ่ ไม้น้ำและปาล์มหลากหลายสายพันธุ์
นอกจากสวนสวยแล้ว ยังมีหอแห่งแรงบันดาลใจที่สร้างขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จย่า จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับพระราชประวัติและความสนพระทัยส่วนพระองค์ในด้านต่างๆ พระบรมธาตุดอยตุง เจดีย์แห่งแรกของล้านนา ก็ประดิษฐาน ณ ดอยนี้เช่นกัน ที่ความสูง 1,415 เมตรจากระดับน้ำทะเล องค์พระธาตุเป็นเจดีย์สีทองขนาดเล็กสูงราว 5 เมตร สร้างเมื่อปี พ.ศ. 1454 เป็นปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์ของเมืองเชียงราย ก่อนลงจากดอยตุง ขาชอปอย่าลืมแวะศูนย์ส่งเสริมหัตถกรรมดอยตุง สินค้าขึ้นชื่อคือกาแฟดอยตุงที่คั่วบดสดใหม่ทุกวัน อีกทั้งพรมทอมือและผ้าทอกี่สีสันงดงาม
ที่ตั้ง :โครงการพัฒนาดอยตุง อ. แม่ฟ้าหลวง จ. เชียงรายโทร. 0-5376-7015-7 ต่อ 2230, 2231 มีห้องพักสำหรับนักท่องเที่ยว ไม่อนุญาตให้กางเต็นท์
7. ภูชี้ฟ้า...ทะเลหมอกกับช่วงเวลาพิเศษ
ตอนที่ "ไข่ย้อย" ตัวเอกในภาพยนตร์เรื่อง เพื่อนสนิท ไปวาดภาพที่ภูชี้ฟ้า เขาแอบทดสอบความในใจของ "ดากานดา" หญิงสาวที่เขาหมายปอง ด้วยการนับ 1 ถึง 10 ข้างหูในขณะที่เธอหลับ เชื่อว่าถ้าสาวเจ้ามีใจ เธอจะตื่นขึ้นมาก่อนนับครบ 10 แม้เป็นการทดสอบที่ดูไม่มีเหตุมีผล แต่เชื่อว่าทุกคนที่เคยไปเยือนยอดดอยแห่งนี้ ย่อมเข้าใจที่นายไข่ย้อยปล่อยให้อารมณ์นำหน้าตรรกะใดๆ อาการดังว่าคงเป็นด้วยอากาศหนาวในคืนมืดมิดใต้แสงดาวที่ภูชี้ฟ้านั้นโรแมนติกเสียจนดลใจให้อยากทำอะไรพิเศษๆ เป็นความทรงจำดีๆ ให้คงอยู่ตลอดไป ภูชี้ฟ้าตั้งตระหง่านอยู่บนเทือกเขาดอยผาหม่น บริเวณตะเข็บชายแดนไทย-ลาวใน อ. เทิง จ. เชียงราย ด้วยลักษณะยอดภูคล้ายนิ้วชี้ขึ้นฟ้า ใครต่อใครจึงเรียกที่นี่ว่า "ภูชี้ฟ้า" ยอดภูอยู่สูง 1,600 เมตรจากระดับน้ำทะเล อากาศเบื้องบนจึงหนาวเย็นและมีทะเลหมอกปกคลุมตั้งแต่หน้าฝนถึงหน้าหนาว แต่ช่วงที่น่าเที่ยวที่สุดเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-มกราคม โดยช่วงเวลาสวยงามและโรแมนติกที่สุดเริ่มตั้งแต่เย็นย่ำกระทั่งถึงเช้าวันใหม่ความมหัศจรรย์เริ่มต้นหลังราตรีห่มคลุม ในคืนฟ้าเปิดจะเห็นดวงดาวพราวพร่างเต็มฟ้า และเมื่อถึงเช้าตรู่ของวันใหม่ นักเดินทางต้องรีบถีบตัวออกจากที่นอนอุ่นๆ เดินฝ่าลมหนาวไปตามหน้าผาหินท่ามกลางความมืดเพื่อให้ทันช่วงสวยงามที่สุดทันทีที่แสงแรกจับขอบฟ้า ทุกสิ่งทุกอย่างก็ค่อยๆ เผยตัว... เราจะเห็นทะเลหมอกแผ่กระจายไปไกลสุดตา ขณะท้องฟ้าค่อยๆ เปลี่ยนเฉดสีพร้อมกับที่อาทิตย์ค่อยๆ เคลื่อนดวงกลมโตขึ้นมา
สายลมเย็นบนยอดดอยพัดผ่านจนดอกหญ้าเอนลู่ ยิ่งถ้ามาในช่วงเดือนมกราคมซึ่งดอกเสี้ยวสีขาวบานเต็มดอย ภาพงดงามตรงหน้าจะยิ่งงามราวกับฉากในเทพนิยายหลังม่านหมอกจาง หากมองลงไปจะเห็นหมู่บ้านในเขต ต. เชียงตองฝั่งลาวอยู่กลางหุบเขา ไกลออกไปลิบๆ คือแม่น้ำโขงที่ไหลขนานกับเทือกดอยผาหม่นภาพธรรมชาติงดงามทั้งหมดนี้เอง ทำให้การมาภูชี้ฟ้าในทุกๆ คราวยังคงเป็นช่วงเวลาแสนพิเศษ
ที่ตั้ง : วนอุทยานภูชี้ฟ้าอ. เทิง จ. เชียงราย โทร. 08-1179-9163 ไม่มีบ้านพักบริการต้องนำเต็นท์ไปเองหรือถ้าต้องการความสะดวก มีรีสอร์ตให้เลือกจำนวนมากก่อนทางขึ้นภู
8. ดอยภูคา...ความสุขบนเส้นทางสายอดีต
เทียบความงามกันมุมต่อมุม ดอยภูคาอาจเป็นรองดอยชื่อดังอื่นๆ ที่เห็นแล้วถึงกับ ร้องว้าว แต่ถ้าใครกำลังแสวงหาวิถีอันเนิบช้า ละความเร่งรีบมาละเลียดความงามของทั้งธรรมชาติที่สมบูรณ์และวิถีแห่งผู้คนซึ่งยังคงรักษาขนบดั้งเดิมไว้โดยเหนียวแน่น บางทีดอยภูคาอาจเป็นคำตอบที่ตรงใจ ! ดอยภูคาเป็นดอยที่สูงที่สุดของ จ. น่าน อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา จากเมืองปัวสามารถขึ้นถึงดอยภูคาได้โดยใช้ถนนหมายเลข 1256 (ปัว-บ่อเกลือ)
ถนนสายที่บางคนเปรียบว่าเป็นเส้นทางสายอดีตเริ่มต้นเส้นทางที่เมืองปัว เมืองเล็กแสนสงบที่เต็มไปด้วยทุ่งนาสีเขียวและผู้คนท้องถิ่นที่ยังดำรงวัฒนธรรมไทลื้อให้สัมผัส ควรแวะไปที่วัดต้นแหลง เพื่อชมวิหารหลังคาแป้นเกล็ดซ้อนชั้นแบบไทลื้อที่หาชมได้ยาก และร่วมตักบาตรกับชาวบ้านที่มาทำบุญ หรือจะแวะกาดเช้าลองชิมอาหารพื้นถิ่น อย่างตำขนุน ส่ามะเขือแจ้ แอบอ่อง ก็นับเป็นความสุขอีกแบบ จากนั้นขับรถออกจากตัวเมืองไต่ระดับขึ้นไปบนถนน 1256 จะได้พบกับป่าดึกดำบรรพ์ที่มีพันธุ์ไม้หายาก เช่น เต่าร้างยักษ์ ก่วมภูคา โดยเฉพาะ "ชมพูภูคา" ที่เป็นเครื่องหมายการค้า ของดอยแห่งนี้ เพราะสันนิษฐานว่าในโลกเหลือเพียงที่นี่แห่งเดียว ต้นไม้สัญลักษณ์แห่งดอยนี้ จะผลิดอกสีชมพูสวยๆ ให้ชมในเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคมของทุกปี ระหว่างขับรถลัดเลาะขึ้นเนิน หากมองไกลออกไปจะเห็นไหล่เขาเบียดซ้อนมีหมอกคลอเคลีย ดูงดงามสบายตา เมื่อถึงจุดหมายบนดอยภูคาแล้ว แวะพักเหนื่อยสักคืนก่อนตื่นเช้าอย่างสดชื่นมาชมทะเลหมอกงามท่ามกลางขุนเขาซับซ้อน ถ้ามีเวลา ลองขับรถเลยไปถึง อ. บ่อเกลือ ไปชมการต้มเกลือแบบโบราณก่อนเดินทางกลับ มาเที่ยวดอยภูคา แล้วจะรู้ว่าเส้นทางสายอดีตที่แสนสงบและเต็มไปด้วยมนตร์เสน่ห์นั้นเป็นเช่นไร
ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติดอยภูคา อ. ปัว จ. น่าน โทร. 0-5417-1000 ที่พัก : มีบ้านพัก 38 หลัง และเต็นท์ให้เช่าพร้อมเครื่องนอน
9. ม่อนกิ่วลม...ชมทะเลหมอกแบบครั้งเดียวคุ้ม
ม่อนกิ่วลม หนึ่งในหมุดหมายที่นักชมทะเลหมอกไม่ควรพลาด เพราะมีทะเลหมอกสวยๆ ให้ชมแบบหนำใจ แถมชมได้อย่างใกล้ชิด ชมได้หลายมุม เรียกว่าไปครั้งเดียวคุ้ม ! ม่อนกิ่วลม เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติแม่เมย เดิมรู้จักกันในชื่อดอยแม่ระเมิง คำว่า "ม่อน" ในภาษาเหนือ หมายถึงเนินเขาเตี้ยๆ หรือเนินดิน ทว่าม่อนกิ่วลมไม่เตี้ย ซ้ำยังอยู่สูงถึง 940 เมตรจากระดับน้ำทะเล อุณหภูมิบนม่อนจึงต่ำและอากาศเย็นสบายตลอดปี ทิวทัศน์โดยรอบเป็นป่าดิบเขามีความชื้นสูง ทำให้มีทะเลหมอกปกคลุมไปทั่วทั้งในฤดูฝนและฤดูหนาว แถมมีลมเย็นพัดผ่านช่วยเพิ่มความยะเยือกสมชื่อ "กิ่วลม" อันหมายถึงช่องลมที่นี่เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นเหนือทะเลหมอกที่งามที่สุดบนเส้นทางสายแม่สลิดน้อย-แม่ระเมิง จากบนม่อนมองเห็นทิวเขาถนนธงชัยสลับซับซ้อน เห็นทะเลหมอกสีขาวลอยปกคลุมหุบเขาเบื้องล่าง โดยมียอดเขาโผล่พ้นสายหมอกราวกับเป็นเกาะแก่งใหญ่น้อย
เมื่อแสงแรกของดวงตะวันอาบไล้พื้นผิวโลก ก็จะย้อมท้องทะเลแห่งนี้ให้เป็นสีทองอร่ามตาถ้าอยากแนบชิดทะเลหมอก ให้เลือกกางเต็นท์ใกล้กับจุดชมทิวทัศน์ รุ่งเช้าโผล่พ้นเต็นท์ ทะเลหมอกก็จะอยู่ตรงหน้า ล่วงถึงยามดึกอากาศเย็นสบาย คืนไหนฟ้าเปิด นั่งดูดาวพลางแลกเปลี่ยนเรื่องราวรอบกองไฟ ความสุขเล็กๆ ก็อยู่ตรงหน้าอีกเช่นกันบริเวณอุทยานแห่งชาติแม่เมยยังมีจุดชมทะเลหมอกที่อยู่ไม่ไกลกันอีกสองแห่ง นั่นก็คือม่อนครูบาใสและม่อนพูนสุดา ในวันที่หมอกหนา บนม่อนทั้งสองจะมีหมอกลอยขึ้นมาอยู่ใกล้เหมือนจะเอื้อมถึง หลังชมแสงแรกที่ม่อนกิ่วลมแล้ว จึงน่าจะขับรถมาชมอีกสองม่อนนี้ เพื่อสัมผัสทะเลหมอกในมุมงามที่แตกต่าง แม้จะเดินทางสะดวกเพราะรถเข้าถึง แต่ที่นี่ไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกใดๆ เลย ใครจะมายลทะเลหมอกแห่งม่อนกิ่วลม อย่าลืมเตรียมอาหารและเครื่องดื่มมาให้พร้อม ส่วนคนรักความสะอาด ที่นี่ไม่มีน้ำท่าให้อาบ ยืนชมหมอกพลางอาบหมอกต่างน้ำ อาจเป็นความสุขเหลือคุ้มต่างจากสายน้ำชโลมกายจุดกางเต็นท์อยู่เกือบชิดจุดชมทะเลหมอก เยี่ยมหน้าออกจากประตูเต็นท์ก็ได้เห็นทะเลหมอก
ที่ตั้ง :อุทยานแห่งชาติแม่เมย อ. ท่าสองยาง จ. ตาก โทร. 0-5551-9644-5 ที่พัก : มีบ้านพัก 2 หลังและเต็นท์ให้เช่าพร้อมเครื่องนอน
10. ฝ่ามวลความหนาวสู่ยอดภูเรือ
ไปเลยไหม ? บางคนในกลุ่มรีบตอบ--ไปซี่ ก็จะไปกันอยู่แล้วนี่ โดยไม่เข้าถึงความหมายแฝงที่เร่งเร้าให้เริ่มเดินทางหาใช่ถามไถ่ย้ำความว่าจะไป จ. เลย กันหรือไม่ ก็ลมหนาวพัดเรียกอยู่หลายยกแล้ว ไม่ไปเที่ยวที่หนาวๆ แล้วจะไปที่ไหนจึงจะเหมาะอ. ภูเรือได้ชื่อว่าเป็นอำเภอที่หนาวที่สุดของประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ. 2517 วัดอุณหภูมิได้ต่ำถึง -3 องศาเซลเซียส หนาวขนาดน้ำค้างตามใบหญ้าจับเป็นเกล็ดแข็ง ส่วนปีนี้จะกี่องศา หน้าที่ว่าการอำเภอเขามีเทอร์โมมิเตอร์ยักษ์คอยบอก ขึ้นภูเรือหนาวนี้ จึงต้องเตรียมสารพัดสิ่งให้ร่างกายอุ่นอย่างพรักพร้อมชื่อ "ภูเรือ" ได้มาจากรูปร่างของภูเขาซึ่งชะโงกออกมาคล้ายเรือสำเภาขนาดใหญ่ ทั้งพื้นที่ราบบนเขาก็มีลักษณะคล้ายท้องเรือ ส่วนยอดภูที่ชวนให้ไปพิชิตนั้นอยู่สูงถึง 1,364 เมตรจากระดับน้ำทะเลการขึ้นสู่ยอดภูเรือมีรถสองแถวบริการ หากจะเดินจากด่านตรวจก็ราวๆ 700 เมตรเท่านั้น
และถ้าจะไปให้ทันพระอาทิตย์ขึ้น ก็ต้องออกกันแต่มืด โดยไม่ลืมพกไฟฉายไปด้วยระหว่างเดินขึ้นภู ห้ามลืมแหงนเงยมองผืนกำมะหยี่สีดำเบื้องบน ดาวสุกสกาวรอทักทายคุณอยู่ อย่าให้หมู่ดาวรอเก้อถึงจุดชมพระอาทิตย์ต่างคนต่างนั่งรอคอยอรุณรุ่ง พอแสงทองไล่เรื่อเหนือขอบฟ้า จึงเห็นบางคนนั่งเรียงลำดับคล้ายพักระหว่างขั้นบันได บ้างยืนเรียงรายตามขอบภูผาคล้ายอยู่บนอัฒจันทร์เฝ้าชมการแสดงและแล้วพระเอกของโรงละครใหญ่ก็เปิดตัวเจิดจ้า...ผืนฟ้าสีสวยกระจะกระจ่างคลี่คลุมแทนกำมะหยี่ผืนสีดำ...งามสมการรอคอยชมพระอาทิตย์ขึ้นจากยอดสูงสุดของภูเรือแล้ว หากอยากเปลี่ยนไปชมความงาม ณ มุมอื่นบ้าง ตามทางลาดยางขึ้นภูยังมีจุดชมทิวทัศน์อีกหลายจุด ดังเช่นจุดชมทิวทัศน์เดโช หรือที่ผาโหล่นน้อย หินเต่า ผาซำทองลงจากที่สูงมาสู่ที่ราบจะพบดอกไม้สีสันสดใสและสารพัดผักเมืองหนาวรออยู่ แหล่งใหญ่ที่ไปง่ายคือ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเลย (สถานีทดลองเกษตรที่สูงภูเรือ) และหากอยากเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายด้วยการจิบไวน์ ที่สวนองุ่นภูเรือวโนทยานก็มีไวน์ชาโต้ เดอ เลย ให้เลือกซื้อหา เตรียมเก็บกระเป๋าไปกันเลยนะ
ที่ตั้ง :อุทยานแห่งชาติภูเรือ อ. ภูเรือ จ. เลย โทร. 0-4280-7607 ที่พัก : มีบ้านพัก 6 หลัง และเต็นท์ให้เช่าพร้อมเครื่องนอน
11.นางพญาเสือโคร่งน่ายล บนขุนแม่ยะ
ถ้าเมืองไทยมีเทศกาลฮานามิ (Hanami) หรือเทศกาลชมดอกไม้แบบชาวญี่ปุ่น จะมีต้นอะไรที่ทุกคนตั้งตารอคอยให้ดอกสวยๆ ค่อยๆ บาน แล้วพากันเตรียมของไปปิกนิกใต้ร่มไม้นั้นพร้อมชื่นชมความงามของมัน เหมือนอย่างที่ชาวญี่ปุ่นปฏิบัติเมื่อคราวซากุระบาน ภาคเหนือของไทยเรามีไม้ที่สลัดใบหมดต้นแล้วออกดอกสีชมพูสะพรั่งยามอากาศหนาวเย็นอยู่เหมือนกัน ไม้นั้นมีชื่อว่า "นางพญาเสือโคร่ง" หลายๆ คนเลยเรียกมันว่า "ซากุระเมืองไทย"
ซากุระเมืองไทยขึ้นเฉพาะบนพื้นที่สูง 1,000-2,000 เมตรจากระดับน้ำทะเลเท่านั้น หน่วยจัดการต้นน้ำขุนแม่ยะ บนดอยแม่ยะ อ. ปาย จ. แม่ฮ่องสอน เป็นแหล่งหนึ่งที่ปลูกนางพญาเสือโคร่งไว้อย่างหนาแน่น ไม้งามนี้ออกดอกราวเดือนธันวาคม-มกราคม การขึ้นไปชมความงามของมันต้องใช้ความบากบั่นพอสมควร เพราะทางจากด่านตรวจแม่ยะขึ้นไปที่หน่วยจัดการต้นน้ำฯ ยังเป็นทางลูกรังแคบๆ บางช่วงมีทางน้ำไหลผ่านพาให้ถนนลื่น ดังนั้นควรว่าจ้างรถขับเคลื่อนสี่ล้อที่มีคนขับผู้ชำนาญทาง ซึ่งมีบริการอยู่บริเวณด่านตรวจฯ น่าจะเหมาะกว่าสิ่งอำนวยความสะดวกบนดอยมีเพียงลานกางเต็นท์ ห้องน้ำ และร้านขายของเล็กๆ จึงควรตระเตรียมอุปกรณ์แคมปิงและอาหารการกินไปเอง และข้อสำคัญ-ควรเชื่อฟังเจ้าหน้าที่ และไม่เผลอทำอะไรที่จะเป็นการทำลายธรรมชาติหรือบรรยากาศ อย่างเช่นทิ้งขยะ ส่งเสียงดังซากุระที่ญี่ปุ่นจะทยอยออกดอกโดยเริ่มจากต้นที่อยู่ทางภาคใต้ไล่เรื่อยไปสู่ภาคเหนือ สร้างบรรยากาศรื่นรมย์ในเทศกาลชมดอกไม้ และแม้ดอกสวยละมุนจะบานอยู่เพียง 1 อาทิตย์ก็ร่วงโรย ทว่าทุกคนก็จดจำช่วงเวลาสั้นๆ นั้นได้ ทั้งเฝ้ารอคอยที่จะชมความงามละมุนนั้นอีกครั้งในฤดูกาลหน้าหนาวนี้หากได้ไปขุนแม่ยะขณะดอกนางพญาเสือโคร่งผลิบาน คงไม่มีใครหลงลืมความประทับใจนั้นไปง่ายๆ และทุกคราที่ลมหนาวพัดเตือนให้นางพญาผลิดอกสีชมพูบานทั่วขุนเขา ก็คงเหมือนเตือนให้เรารำลึกถึงซากุระเมืองไทยเฉกเช่นกัน
ที่ตั้ง : หน่วยจัดการต้นน้ำขุนแม่ยะอ. ปาย จ. แม่ฮ่องสอน โทร. 08-7191-2040 มีสถานที่สำหรับกางเต็นท์ แต่ต้องเตรียมเต็นท์ไปเอง
อัลบั้มภาพ 90 ภาพ