เที่ยวเกาะหมาก ไปครั้งแรกก็สนุกสุดๆ
วันหยุดที่ผ่านมาไปเที่ยวเกาะหมากมา ชอบมากๆ อากาศบริสุทธิ์ทะเลสวย น้ำใส คลื่นไม่แรง สงบวิวสวย มีจักรยานขี่ด้วย ชิลดีเราเอารูปสวยมาฝากเยอะเลย แต่หว้า! แต่ไม่มีทีวีดู แปลกดีนะ
รอบนี้เราไปเที่ยวช่วงวันแม่ ทริป 2 วัน 1 คืน ไปเช้าเสาร์กลับเย็นอาทิตย์เริ่มสตาร์ทเครื่องยนต์เช้าตรู่ของวันเสาร์จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 3 บางนา-ตราด เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 344 (ชลบุรี-บ้านบึง-แกลง) ถึงอำเภอแกลงเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 3 ผ่านจังหวัดจันทบุรีจนถึงจังหวัดตราด รวมระยะทาง 315 กิโลเมตร
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง ก่อนถึงท่าเรือแหลมงอบ จะมีร้านค้าตรงข้ามอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรฯ มีบริการรับฝากรถราคา 50 บาท ต่อคันต่อคืนไม่แพงปลอดภัยใช้ได้
ที่ท่าแหลมงอบมีเรือสปีดโบ๊ทออกไปเกาะหมากรอบแรก 9.00 น. รอบสุดท้าย 16.00 น. ทิ้งช่วงแต่ละรอบประมาณชั่วโมงครึ่ง พูดถึงถ้าหยุดแค่เสาร์-อาทิตย์ ไม่จำเป็นต้องเป็น Long Weekend ก็เที่ยวได้ไม่ใกล้แต่ก็ไม่ไกล คุ้มค่ากับการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ที่หาได้ยากกับสถานที่ท่องเที่ยวทั่วๆ ไป
สายๆก็ถึงท่าเรือแหลมงอบ 10 โมงเช้าทันขึ้นเรือพอดี นั่งเรือสปีดโบ๊ทโต้คลื่นมองฟ้าใสไม่นานก็ถึงแล้วเกาะหมาก ถือว่าไม่ใกล้นะแต่ก็เพลินดี เห็นทะเลท้องฟ้าสวยสมคำร่ำลือจริงๆ
แผนที่การเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ
ขณะนี้เวลา 11 โมงครึ่ง กินข้าวเสร็จก็เที่ยงพอดี มีเวลาเที่ยวถึงเย็นรวมประมาณ 5 ชั่วโมง เช่าจักรยานปั่นเป็นพาหนะคู่กายเหมาะสำหรับทริปปั่นไปอย่างช้าๆ แต่ได้คุณค่ากลับมาอย่างเต็มเปี่ยม
พร้อมแล้ว! เรามาเริ่มต้นเตรียมตัวปั่นจักรยานกันได้เลย จากแผนที่เดินทางบนเกาะหมาก เส้นทางสำหรับการปั่นจักรยานเที่ยวจากแผนที่มีเส้นทางจากใต้ขึ้นเหนือ และทิศตะวันออกสู่ทิศตะวันตก เส้นทาง A ถนนหลวงอุทัย เส้นทาง B ถนนหลวงนรา และเส้นทาง C สิ่งสรรสร้างจากมนุษย์ แต่ละเส้นทางล้วนแต่มีจุดน่าสนใจและเสน่ห์ที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวทีเดียว
สำหรับฉันตั้งใจวันนี้จะไปปั่นไปเรื่อยๆ แบบไม่รีบเก็บได้เท่าเก็บได้ ไม่อยากโฟกัสไปที่จุดใดจุดหนึ่ง เพราะคิดว่าทุกสถานที่ทุกๆ เส้นทางนี้น่าจะพอให้ฉันได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ที่ต่างจากประสบการณ์ไปเที่ยวทะเลในครั้งก่อนๆ ก็พอ
เริ่มต้นเดินทางปั่นเจ้าสองล้อ ก็เริ่มเห็นวิถีชีวิตของชาวบ้านบนเกาะหมากตามรายทางที่ยังคงใช้ชีวิตประจำวันอย่างเรียบง่ายและสงบสุขท่ามกลางธรรมชาติอันบริสุทธิ์ บริเวณนี้เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีชาวบ้านอาศัยอยู่ประมาณ 20 ครัวเรือน หาเลี้ยงชีพด้วยการปลูกต้นมะพร้าวและต้นยางพารา
ใช้เวลาอยู่ตรงนี้ไม่นานแค่ปั่นไปเรื่อยๆ แวะเก็บภาพไปเป็นระยะๆ
ปั่นมาสักพัก โห้! ไม่น่าเชื่อเลยว่า เกาะหมากจะมีพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์เหลืออยู่คุณรู้ไหมว่าฉันเจออะไร "ไลเคน" ค่ะ อะไรไลเคน ไลเคนไปเกี่ยวอะไรกับเกาะหมาก
ขอบอกเลยว่า สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ไลเคน หรือพืชตระกูลเดียวกันไม่ว่าจะเป็น เฟิร์น มอสไลเคน เป็น อะไรที่มีเสน่ห์ น่าสนใจ ที่บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่นั้น เพราะมันจะเจริญเติบโตเฉพาะในผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ที่มีความชุ่มชื้นสูง และมีสภาพอากาศที่เหมาะสม นั้นก็แสดงให้เห็นว่าเกาะหมากยังคงเป็นพื้นที่ที่คงความอุดมสมบูรณ์อยู่
ฉันใช้เวลาตรงนี้ค่อนข้างนานเพราะฉันต้องการสูดอากาศบริสุทธิ์ ได้เงี่ยหูฟังเสียงนกกาเหว่า เสียงอีกา ฟังเสียงธรรมชาติแทนเสียงเครื่องยนต์ที่ชินหูจากเมืองใหญ่บอกได้เลยว่าบริเวณนี้เป็นอีกสถานที่ในฝันสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบและหลงใหลกับธรรมชาติอย่างแท้จริง
แวะเที่ยววัดเกาะหมาก
ก่อนมาเที่ยวเกาะหมาก ฉันได้ศึกษาข้อมูลมาพอสมควร คุณรู้ไหม? ว่าเกาะหมากใช้น้ำมันดีเซลในการปั่นไฟเพื่อใช้ในเกาะเท่าไร
คิดง่ายๆ ว่าถ้าเป็นช่วง High Season ภายในหนึ่งอาทิตย์ เกาะหมากใช้น้ำมันดีเซลผลิตไฟฟ้าถึง 10,000 ลิตร ถือว่าสูงมากหากเทียบกับเกาะต่างๆ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว
ฉันแวะพักกายที่วัดเกาะหมาก จึงได้เห็นความพยายามของหน่วยงานอย่างองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ อพท. เข้ามาปฏิวัติให้เกาะหมากเป็นเกาะ Low Carbon Destination
โดยใช้วัดเกาะหมากเป็นโมเดลในการใช้แผงโซล่าเซลส์รับแสงอาทิตย์ผลิตไฟฟ้าเป็นพลังงานทดแทน ลดการใช้น้ำมันผลิตไฟฟ้า ส่งเสริมให้วัดเกาะหมากเป็นวัดพลังงานทดแทนต้นแบบให้กับชาวบ้านและรีสอร์ทต่างๆ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ไม่น่าเชื่อว่าเกาะเล็กๆ ที่มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 9,500 ไร่ จะมีปริมาณนักท่องเที่ยวถึง 60,000 คนต่อปีที่แวะเวียนมาเที่ยวที่เกาะหมากแห่งนี้ จากปริมาณนักท่องเที่ยวเหล่านี้เป็นปัญหาด้านกำจัดขยะให้กับ อบต.เกาะหมากเป็นอย่างยิ่ง จากความร่วมมือกันระหว่าง อบต.เกาะหมาก และ อพท.เร่งแก้ปัญหาที่ทิ้งขยะและการคัดแยกขยะ
โดยเปลี่ยนมาใช้วิธีการเผาขยะแทนการฝังกลบ รวมทั้งได้ใช้เครื่องบดเศษแก้วและพลาสติกเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ นอกจากนี้ยังรณรงค์เปลี่ยนทัศนคติให้นักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวแบบไม่สร้างภาระให้กับพื้นที่ท่องเที่ยว ไม่สร้างขยะเพิ่มขึ้นให้กับพื้นที่ นำขยะกลับเข้าฝั่งไปด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ควรตระหนักและให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
การมาเที่ยวเกาะหมากในครั้งนี้ ถือว่าคุ้มค่ากว่าการเที่ยวทะเลในทริปครั้งก่อนๆ การมีเวลาศึกษาหาความรู้จากการศึกษาแหล่งท่องเที่ยวในด้านทรัพยากรธรรมชาติ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตชุมชนที่มีความโดดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ในพื้นที่เกาะหมาก
เป็นการสร้างประสบการณ์ ความเพลิดเพลิน ความเข้าใจในวัฒนธรรมที่แตกต่าง ได้สัมผัสกับมิตรภาพของผู้คน ได้ลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการปั่นจักรยาน ไม่มีความสุขใด จะสุขล้ำเท่ากับการที่ฉันได้ท่องเที่ยวแบบรับผิดชอบ
เพราะหากเรามีความรับผิดชอบมากเท่าไร เราก็ยิ่งจะได้เก็บแหล่งท่องเที่ยวสวยๆ มีคุณค่า เหล่านี้ไว้ให้ลูกหลานของเราได้ท่องเที่ยวต่อไปในอนาคต อย่าให้เขาต้องได้มาถามเราเลยว่า เกาะคืออะไร ไลเคนหน้าตาแบบไหน เสียงนกกาเหว่า เสียงอีการ้องยังไง หรือแม้กระทั่ง เราไม่มีน้ำมันใช้แล้วหรือ......
(คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขนาดใหญ่)
อัพเดตสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น เกาะล้าน เชียงใหม่ สวนผึ้ง หัวหิน เกาะเสม็ด
แวะชมแหล่งท่องเที่ยว เกาะช้าง เชียงคาน ภูเก็ต เขาใหญ่ และ ปาย
ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook.. ได้ที่นี่เลย!!