ตะลุยเที่ยว สังขละบุรี สวรรค์ที่คุณเหยียบได้
ต้องบอกว่าเป็นอีกหนึ่งทริปที่ประทับใจมาก สำหรับการเดินทางท่องเที่ยว อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เพราะทริปเฉพาะกิจครั้งนี้ รวมตัวเพื่อนๆ ได้เยอะพอสมควร การไปเที่ยวกินลม ชมสะพานมอญ จึงสนุกสนานและเฮฮามากๆ
อย่างที่ทราบกันดีสะพานมอญถูกซ่อมแซมแล้วเสร็จ จากการร่วมแรงร่วมใจของเหล่าทหารค่ายสุรสีห์ พระวัดวังก์วิเวการาม ชาวบ้านสังขละบุรี และผู้ศรัทธาจำนวนมาก
เมื่อเห็นภาพความงดงามผ่านทางหน้าจอทีวี ผมไม่รอช้ารวมตัวเพื่อนๆ จัดทริป 3 วัน 2 คืน เที่ยวชมความงดงาม ของอำเภอสังขละบุรี จากที่คิดไว้สถานที่ทางประวัติศาสตร์แห่งนี้ต้องสวยงามสมคำล่ำลือแน่ๆ เมื่อเดินทางไปถึงก็ไม่ผิดไปจากที่คิด เพราะด้วยไอหมอก และสายลมหนาว พูดเลยที่นี่คือสรรค์ที่เราสัมผัสได้จริงๆ
คืนวันแรกเนื่องจากเราออกเดินทางจากกรุงเทพราวบ่าย 3 โมง ระยะเวลากว่าจะถึงอำเภอสังขละบุรี ถ้าขับรถไปเรื่อยๆ คาดว่ากว่าจะถึงก็คงจะดึกน่าดู และด้วยถนนหนทางที่ไม่คุ้นเคย เราจึงวางแผนว่า คืนแรกจะพักค้างคืนกันที่ กระท่อมริมธาร อำเภอทองผาภูมิ ซึ่งเพื่อนของเพื่อนเป็นคนแนะนำรีสอร์ทแห่งนี้มาอีกที ราคาไม่แพง อาหารอร่อย และบรรยากาศดี ทำให้พวกเราพอใจมาก กับที่พักแห่งนี้
บ้านพักที่นี่ มีลักษณะเป็นบ้านหลัง มีทั้งหลังเล็กและหลังใหญ่ ที่สำคัญมีลำธารเล็กๆ ไหลผ่าน ทำให้อากาศบริเวณที่พักเย็นสบาย
เมื่อตื่นเช้าหลังจากทำภารกิจส่วนตัวเสร็จ เราเลือกออกเดินทางไปยังจุดมุ่งหมาย อำเภอสังขละบุรีโดยระหว่างทางก็แวะเที่ยวไปเรื่อยๆ จุดแรกที่เราแวะ คือ จุดชมวิวป้อมปี่
จุดชมวิวป้อมปี่ตั้งอยู่บนพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ์ ด้วยความเงียบสงบสถานที่แห่งนี้จึงเหมาะแก่การพักผ่อนเป็นอย่างมาก ถึงขนาดเพื่อนร่วมทริปลงมติกันว่า ถ้าเรามาเที่ยวที่สังขละบุรีกันอีกคงเลือกกางเต้นท์นอนที่อุทยานแห่งชาติ แห่งนี้
หลังจากชื่นชมกับธรรมชาติกันอย่างจุใจ ก็ถึงเวลาเช็คอินเข้าพักยัง เดอะเนเจอร์คลับรีสอร์ท สังขละบุรี รีสอร์ทขนาดใหญ่ที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติ ภายในมีทั้งห้องพักแบบบ้านพัก และแพลอยน้ำ เราเลือกพักแบบแพลอยน้ำเนื่องจากต้องการความสงบและความเป็นส่วนตัว เมื่อเก็บสัมภาระต่างๆ เสร็จเรียบร้อย ก็ถึงเวลาตะเวรเที่ยว จุดสำคัญต่างๆ กันต่อ
วัดวังก์วิเวการาม หรือ วัดหลวงพ่ออุตตมะ คือจุดหมายที่ 2 ของการท่องเที่ยวในวันนี้ เดิมที่วัดหลวงพ่ออุตตมะ ตั้งอยู่บนเนินสูง บริเวณที่เรียกว่า สามประสบ เป็นจุดที่แม่น้ำ 3 สาย คือแม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำบีคลี่ และแม่น้ำรันตี ไหลมาบรรจบกัน แต่หลังการก่อสร้างเขื่อนวชิราลงกรณ์ วัดวังก์วิเวการามจึงย้ายมาอยู่บนเนินเขาทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือแทน ภายในวัดวังก์วิเวการาม เป็นที่ตั้งประดิษฐานสังขารหลวงพ่ออุตตมะ และศาสนสถานที่สำคัญๆ เช่นวิหารพระหินอ่อน อุโบสถ และเจดีย์พุทธคยาจำลอง
เมื่อชื่นชมความงดงามกันอย่างเต็มอิ่ม ก็ถึงเวลาเดินทางไปชม วัดใต้น้ำ หรือวังก์วิเวการามเดิม จุดนี้นักท่องเที่ยวต้องนั่งเรื่อไปเที่ยวชม สนนราคา ก็ราว 200-400 บาท แล้วแต่ขนาดเรือ ลำเล็ก ลำใหญ่ สำหรับพวกเรานั่งเรือลำใหญ่ต่อรองราคาจนได้ที่ 300 บาท
ปิดท้ายวันนี้ที่ สะพานมอญ สะพานไม้ที่ทอดยาวกว่า 900 เมตร ถือเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย และยาวเป็นอันดับที่ 2 ของโลก สะพานมอญแห่งนี้ มีหลวงพ่ออุตตมะ เป็นผู้ดำเนินการสร้าง โดยใช้ท่อนไม้ต้นไม้ที่ยืนต้นตายอยู่ใต้เขื่อนเขาแหลมมาเป็นส่วนหนึ่งในการก่อสร้าง ซึ่งสะพานมอญเริ่มสร้างตั้งแต่ปี 2528 จนมาแล้วเสร็จในปี 2530
หลังจากตะเวรเที่ยวมาตลอดทั้งวัน เมื่อพบค่ำเราจึงเดินทางกลับที่พัก เพื่อดื่มด่ำกับธรรมชาติ และนั่งมองแสงดาวจนหลับไป
เวลา 06.00 น. เราเดินทางจากที่พักไปยังบริเวณสะพานมอญอีกครั้ง ผู้คนมากมายจากทั่วทุกสารทิศ ต่างมารอใส่บาตรเช่นกัน จากฟ้ามืดมิด จนฟ้าสว่าง เราก็ได้ตักบาตรพระภิกษุสมใจ จากนั้นก็เลือกซื้อของฝากเล็กน้อย ก่อนเดินทางกลับที่พักเพื่อเก็บข้าวของเครื่องใช้กลับกรุงเทพ
แน่นอนระหว่างเดินทางกลับเราแวะเที่ยวสถานที่สำคัญๆ ทั้งสะพานข้ามแม่น้ำแคว แวะทานอาหารร้านอร่อยของจังหวัดกาญจนบุรี ฯลฯ
สรุป ทริปนี้พวกเราใช้เงินกันไปคนละประมาณ 2,000 บาท กิน เที่ยว ครบ ถ้าเพื่อนๆ คนไหนสนใจเที่ยวสังขละบุรีอย่าลืมวางแผนการท่องเที่ยวกันสักนิดนะครับ โดยเฉพาะฤดูกาลท่องเที่ยวอย่างตอนนี้ ควรจองที่พักและมีแผนการเดินทางคร่าวๆ เพื่อให้การท่องเที่ยวของเราสนุกไม่มีสะดุด แถมยังควบคุมค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย
เรื่องโดย : Kappa