ท่องเที่ยวเมืองประวัติศาสตร์ “อยุธยา”

บางสถานที่เที่ยวโดดเด่นด้วยความงามธรรมชาติ บางสถานที่มีแลนด์มาร์กดึงดูดผู้คนให้ไปอัพเดทความแปลกใหม่ แต่ถ้านึกถึงสถานที่ทางประวัติศาสตร์ในประเทศไทย อยุธยาคืออันดับแรกที่หลายคนคิดตรงกันว่าที่นี่คือสถานที่บอกเรื่องราวยุคสมัยหนึ่งที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของประเทศไทยทุกวันนี้

“อยุธยา” เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมมากมายโดยเฉพาะตลาดน้ำที่มีอยู่หลายแห่งให้เลือกทั้งตลาดบกตลาดน้ำ เช่น ตลาดน้ำกรุงเก่าวัดท่าการ้อง ตลาดน้ำอโยธยา ตลาดหัวรอ ตลาดน้ำอยุธยาคลองสระบัว อำเภอพระนครศรีอยุธยา ตลาดโก้งโค้ง อำเภอบางปะอิน และตลาดลาดชะโด อำเภอผักไห่ อีกกิจกรรมยอดนิยมคือการนั่งช้างชมโบราณสถานและสัมผัสวิถีชีวิตช้างไทยซึ่งมีให้บริการหลายจุดด้วยกัน แต่อีกบทบาทหนึ่ง“อยุธยา” คือเมืองประวัติศาสตร์ที่ได้รับการยอมรับจากสังคมโลกในด้านเอกลักษณ์ของผังเมืองที่มีแม่น้ำล้อมรอบและด้านสถาปัตยกรรมเฉพาะตัว ในปี 2534 องค์กรยูเนสโกจึงขึ้นทะเบียนเมืองนี้ให้เป็นเมืองมรดกโลกนับแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ความงามของเมืองอยุธยาจะพุพังไปตามกาลเวลาและจากเหตุผลด้านศึกสงคราม แต่คุณค่าและความงดงามในแง่ของประวัติศาสตร์ไม่เคยลดน้อยลง 

ตลอดเวลายาวนานถึง 417 ปี นับตั้งแต่กรุงศรีอยุธยาถูกสถาปนาขึ้นได้เกิดการสร้างสรรค์สถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญไว้มากมาย การมาเที่ยวเมืองมรดกโลกจึงไม่ควรพลาดสถานที่ทางประวัติศาสตร์หลายแห่งโดยเฉพาะวัดวาอารามเก่าแก่ควรค่าแก่การเข้าไปสักการะสักครั้งในชีวิตอย่างวัดใหญ่ชัยมงคล วัดพนัญเชิง วัดพระศรีสรรเพชร วัดแม่นางปลื้ม วัดธรรมิกราช วัดหน้าพระเมรุ วัดท่าการ้อง วัดเชิงท่า วัดกษัตราธิราชวรวิหาร ซึ่งแต่ละวัดที่เอ่ยนามมานั้นเปรียบเสมือนเป็นโบราณสถานที่เป็นสถานที่รวบรวมโบราณวัตถุ ภาพจิตรกรรมฝาผนังฝีมืองานช่างยุคเก่าก่อนไว้ให้เหล่าผู้สนใจได้เข้าไปเรียนรู้ ด้วยเหตุนี้เองเมื่อมาเที่ยวอยุธยาหลายคนมักนิยมจัดเส้นทางท่องเที่ยวไหว้พระเก้าวัดเพราะที่อยุธยาเพียงแห่งเดียวเราก็สามารถชมวัดโบราณได้หลายแห่ง 

อย่างไรก็ตาม หากอยากท่องเที่ยวตามเส้นทางประวัติศาสตร์ให้ครบถ้วนสมบูรณ์ ควรแวะชมพระราชวังบางปะอินที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง แม้จะมีการสร้างพระที่นั่งเพิ่มเติมเข้าอีกหลายส่วนในสมัยรัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5 แต่ด้านในยังมีผลงานทางสถาปัตยกรรมอันวิจิตรที่สะท้อนฝีมือและความฉลาดเชิงช่างในยุคสมัยกรุงศรีอยุธยาให้ได้ชมอยู่ด้วย 

อยุธยายังเต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งวันวานของพระราชวังโบราณหรือพระราชวังหลวงในสมัยก่อนที่แม้ปัจจุบันจะพุพังไปตามกาลเวลาแต่ก็เปี่ยมไปด้วยคุณค่าแก่การมาศึกษารูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยก่อน เช่นเดียวกับพระราชวังจันทรเกษมหรือปัจจุบันคือพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติจันทรเกษม สร้างขึ้นสมัยพระธรรมราชา และเป็นที่ประทับของสมเด็จพระนเรศวรหลายครั้งก่อนเสียกรุงครั้งที่สอง หลังจาดนั้นจึงถูกปล่อยทิ้งร้างไว้และได้รับการบูรณะขึ้นเป็นพิพิธภัณฑ์ในสมัยรัชกาลที่ 4  

ไม่เพียงเท่านี้พิพิธภัณฑ์ในอยุธยายังมีอีกหลายแห่งให้ได้เรียนรู้ เช่น พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา สถาบันอยุธยาศึกษา ศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์อยุธยา พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น อำเภอบ้านแพรก พิพิธภัณฑ์เรือนไทยล้านของเล่นเกริกยุ้นพันธ์ แต่ถ้าอยากเห็นมุมวิถีชาวบ้านควรแวะเวียนมาชมภูมิปัญญาของคนไทยสมัยโบราณที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ อย่างการทำมีดอรัญญิก อำเภอนครหลวง การทำตุ๊กตาชาวบ้าน อำเภอพระนครศรีอยุธยา และชมงานศิลปาชีพหลากหลายที่ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ และศูนย์ศิลปาชีพบางไทร อำเภอบางไทร การทำดอกไม้จากต้นโสน การสานปลาตะเพียนใบลาน และการทำหัวโขนของหม่อมหลวงพันธุ์สวัสดิ์ ศุขสวัสดิ เป็นต้น เพื่อเข้าใจอยุธยาให้ลึกซึ้งทุกแง่มุมเรียนรู้

ไม่ว่าจะในนามของเมืองมรดกโลกที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่พร้อมให้เราก้าวเข้าไปไปเรียนรู้ หรือแง่มุมของสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่เปิดรับเหล่านักท่องเที่ยวก็ตาม “อยุธยา” คือเมืองที่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ที่คู่ควรแก่คำว่า “เมืองมรดกโลก” ผสมผสานกับความเป็น “เมืองท่องเที่ยว” ได้อย่างลงตัว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพระนครศรีอยุธยา108/22 ม.4 ต.ประตูชัย อ. พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา 13000 เวลาเปิดทำการ: 09.00 - 16.00 วันเปิดทำการ: วันอังคาร – วันอาทิตย์ เบอร์ 0 3524 6076-7

[Advertorial]